หลังจากที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้เปิดประมูลงานในโครงการจัดซื้อจัดจ้างทำเคเบิลสเปเซอร์ ชนิด HDPE ครั้งที่ 1 พร้อมตะขอเหล็ก จำนวน 89,840 ชุด ด้วยใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างประมูลแบบคัดเลือก

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 กฟภ.ได้ประกาศผู้ได้รับการคัดเลือกในโครงการดังกล่าวแล้ว เป็นบริษัทที่ยื่นเสนอราคาต่ำสุด และมีคุณสมบัติถูกต้องตามเงื่อนไขทุกประการ  โดยราคาที่ตกลงซื้อหรือจ้าง 65,105,648.00 บาท

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทาง กฟภ. ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการฯ กลับนิ่งเฉย ไม่ได้ดำเนินการติดต่อกับผู้ชนะในการประมูลงานดังกล่าว เพื่อทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในโครงการอย่างเป็นทางการ ตามประกาศของ กฟภ.จนกระทั่งผู้ที่ได้รับการคัดเลือกได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าในเรื่องการจัดทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้างทำเคเบิลสเปเซอร์ ชนิด HDPE   ซึ่งจุดประสงค์ของการทำหนังสือในครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผู้ชนะมีความพร้อมที่จะเข้าทำสัญญากับ กฟภ. แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการ

นับเป็นระยะเวลามากกว่า 100 วัน จากวันประกาศผลชนะการประมูล โดยการทำหนังสือในครั้งนี้ ขอรับทราบกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการทำสัญญา เพื่อจะได้จัดเตรียมวัตถุดิบ อุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งกำลังคน เพื่อให้พร้อมสำหรับการผลิตชิ้นงาน จึงต้องขอความชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนงานในการผลิตชิ้นงานให้แก่ กฟภ.ได้ตรงตามกำหนดการที่ต้องส่งมอบตามสัญญา  รวมถึงยังสอบถามถึงข้อติดขัดที่ไม่สามารถกำหนดการเข้ารับการทำสัญญาตามที่ประกาศไว้ด้วย

จนถึงตอนนี้ ผู้ที่ชนะและได้รับการคัดเลือกก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ดังนั้น อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ได้ว่า โครงการจัดซื้อจัดจ้างทำเคเบิลสเปเซอร์ ชนิด HDPE  ซึ่งเป็นโครงการนำร่องของ กฟภ. มีโอกาสถูกล้มประมูล หรือหยุดชะงักไปโดยปริยาย เพราะเมื่อทอดเวลาต่อไป หากผู้ชนะประมูลไม่ได้ทำสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างกับ กฟภ.อย่างเป็นทางการ จนครบระยะเวลาที่กำหนด อาจทำให้สิทธิของผู้ชนะประมูลต้องหมดไป  

อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดอะไรขึ้น  ซึ่งก็คงต้องไปทวงถามถึงเหตุผลที่แท้จริง และความชัดเจน จากทาง กฟภ.ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และเป็นองค์กรหลักในการเปิดให้ประมูลในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน เคเบิสเปเซอร์ ชนิด HDPE พร้อมตะขอเหล็ก รวมถึงห่วงรัดสายเคเบิลอากาศแบบยืดหยุ่นที่ กฟภ.จัดจ้างในครั้งนี้ เป็นพัสดุที่ผ่านการศึกษาวิจัย และพัฒนาร่วมกันระหว่าง กฟภ.กับศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) โดยผ่านการทดสอบ และทดลองติดตั้งการใช้งานในระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ กฟภ.แล้ว ปรากฏผลว่า มีความคุ้มค่า และมีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการใช้งานกับระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ กฟภ.ได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบัน โครงการจัดซื้อจัดจ้างทำเคเบิลสเปเซอร์ ชนิด HDPE  ยังไม่สามารถลงนามสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเป็นทางการได้ แบบนี้คงต้องเกาะติด และติดตามดูว่า หน่วยงานของ กฟภ.ที่รับผิดชอบในการประมูล จะมีคำอธิบายอย่างชัดเจนว่าอย่างไร และหากไม่สามารถดำเนินการในโครงการนำร่องได้แล้ว จะมีผลกระทบต่อการเปิดประมูลโครงการในอนาคตหรือไม่  ซึ่งทาง กฟภ.มีความจำเป็นต้องมีการปรับปรุงคุณภาพของเคเบิลสเปเซอร์ ชนิด HDPE จำนวนรวมกว่า 5 แสนชุด

ดังนั้น ในอนาคตโครงการนี้จึงมีความน่าสนใจ เพราะมีมูลค่าที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว