ไม่แน่ใจว่า แฟนเพลงเมทัลรุ่นใหม่ยุคไอโฟน ไอแพด จะดี๊ด๊าซ่าส์สุดเสียงสังข์กับพลังท่อนริฟฟ์อันเร่าร้อน ลุ่มลึก กับเฮฟวี่ เมทัล กระเดื่องโลกนามแบล็ค ซับบาธ ที่กลับมา รวมตัวทำสตูดิโออัลบั้มใหม่ในรอบเกือบ 20 ปี..กันขนาดไหน
แต่สำหรับคอเมทัลรุ่นเก๋าที่ยังคงจงรักภักดีกับเมทัลรุ่นเก๋าในยุคเดียวกัน เช่น ยูไรห์ ฮีพ, ดีพ เพอร์เพิล, แกรนด์-ฟังค์เรลโรด, เลด เซพพลิน, และ ฯลฯ ไม่ต้องห่วง..ยังไงก็ ตามซื้อ ตามอุดหนุนกันจนกว่าหูจะหนวก 555
นอกจากตัวออสซี่เอง ที่ยังพรีเซ็นต์ตัวเองได้คงเส้นคงวา อย่างน้อยก็งานเทศกาล Ozz fest ที่เขาเป็นโต้โผใหญ่จัดมาหลายปี การกลับมารวมตัวกันครั้งนี้มีการเตรียมการกันมาตั้งแต่ ต้นปีที่แล้ว เข้าห้องอัดเดือนสิงหาคมจนเสร็จสิ้นกระบวนการ เมื่อต้นปีนี้และแถลงข่าวเปิดอัลบั้มเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่นครลอสแองเจลีส และเป็นที่ใช้สตูดิโอทำงานด้วย
มีข้อสังเกตหลายประการเกี่ยวกับอัลบั้มชุดนี้ อันดับแรก คือ มือกลอง Bill Ward สมาชิกยุคก่อตั้ง ไม่ได้เข้ามาร่วมด้วย เพราะผู้จัดการส่วนตัวไม่เห็นด้วย บอกว่า ไม่น่าจะคุ้มกับการ ทำงาน เลยไปคว้าเอาตัว Brad Wilk มือกลองวง Rage Against The Machine มาทำงานเฉพาะกิจแทน ก็ถือว่าดีกรีอยู่ในระดับ ที่ใช้ได้ ถือเป็นเกียรติของเขาเองที่ในชีวิตหนึ่งได้มีโอกาสเข้าร่วมงานกับวงเมทัลหมายเลขหนึ่งที่มีแฟนเพลงทั่วโลก
ต่อมาคือ โปรดิวเซอร์ Rick Rubin โปรดิวเซอร์มือทอง แห่งยุค ที่ฝากฝีไม้ลายมือกับหลายๆ วง รวมไปถึงวงเฮฟวี่ เมทัลกระเดื่องโลก Metallica ในอัลบั้ม Death Magnetic ประสบความสำเร็จมากมาย ปกติแบล็ก ซับบาธ ไม่นิยมใช้โปรดิวเซอร์ ส่วนใหญ่โทนี่ ไอออมมี่ มือกีตาร์จะโปรดิวซ์งาน เอง..
การทำงานของสมาชิกทั้งหมดมาปักหลักอยู่ที่ลอสแองเจลีสแทนที่จะเป็นบ้านเกิดที่อังกฤษ นั่นเป็นเพราะว่า แบล็ค ซับบาธ ต้องการสิ่งแวดล้อมที่มีบรรยากาศเป็นเฮฟวี่ เมทัล..และที่ แอล.เอ. นี่ มีวงเมทัลเกิดขึ้นมากมาย เรียกว่าบรรยากาศคึกคัก และตลาดเพลงเมทัลในอังกฤษ มีแนวเพลง เมทัลใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่สำหรับงานเมทัลแบบโอลด์ สคูลของแบล็ค ซับบาธ ดูจะไม่เหมาะกับสถานการณ์เพลงเมทัลที่เปลี่ยนแปลงค่อนข้างจะรวดเร็วของอังกฤษ
คุณูปการมหาศาล ที่แบล็ค ซับบาธ ทิ้งไว้เป็นมรดกให้แก่ชาวหูเหล็กคือ การสร้างเพลงที่เรียกกันว่า ท่อนริฟฟ์ (Riff) ริฟฟ์หมายถึง การเล่นกีตาร์กลับไปกลับมาเป็นท่อนสั้นๆ.. เพื่อใช้เป็นกระดูกสันหลังของเพลง...พูดง่ายๆ คือ เป็นโครงกระดูก ก่อนจะสร้างกระดูกซี่โครงแผ่สาขายึดให้โครงกระดูก แข็งแกร่ง จนกระทั่งมีคำกล่าวเป็นอมตะในวงการเพลงเฮฟวี่จากลักษณะการทำงานเพลงแบบนี้ว่า No Riff No Song คือถ้าเพลงเฮฟวี่ ไม่มีท่อนริฟฟ์ ถือว่าเป็นเฮฟวี่ที่ไม่สมบูรณ์แบบ หรืออีกนัยหนึ่ง No Riff No Heavy และแบล็ค ซับบาธ นี่แหละที่กลายเป็น "เจ้าพ่อ" ของการสร้างท่อนริฟฟ์ที่สุดยอด..เพลงที่มีท่อนริฟฟ์เขย่าโลกอย่าง Iron Man, NIB เป็นตัวอย่างที่ดีการศึกษาแนวเพลงของพวกเขา
อัลบั้มชุดนี้ สิ่งแรกที่เปลี่ยนแปลงไปของคือ ซาวด์ของ กลอง..แบล็ค ซับบาธ ได้ชื่อว่า เล่นกลองได้อย่างมีสีสัน บิล วอร์ด เป็นมือกลองที่ชอบตีแฉ และฉาบ เป็นอย่างมาก... เรียกว่า เกือบทุกห้องของเพลงจะมีเสียงแฉกับฉาบปะปนไปด้วยตลอดเวลา ปกติแฉกับฉาบจะมีไว้เพื่อส่งเข้าแต่ละท่อนของเพลงเท่านั้น แต่บิล วอร์ด ใช้เป็นปกติแบบใช้กลองทอม และกลองกระเดื่อง...นักดนตรีที่เคยแกะเพลงของแบล็ค ซับบาธ บอกว่า เหนื่อยกับการยกมือตีแฉ นี่แหละ 555
สำหรับแฟนเพลงของแบล็ค ซับบาธ อาจจะไม่ซาบซึ้ง กับมิติของเสียงกลองที่ขาดไป แต่เสียงร้องของออสซี่ เสียงเบสมหากาฬของกีเซอร์ บัทเลอร์ และกีตาร์ปรับเสียงต่ำทุ้มลึกให้อารมณ์หม่นหมอง ลึกลับ แบบเสียงสวดสาปส่งซาตาน และความตาย จึงกลายเป็น "มนต์ดำ" ยังคงคุ้มค่า คุ้มราคา สมควรควักกระเป๋าซื้ออย่าลังเลเป็นอันขาด!!!
อัลบั้มวางแผงจำหน่ายทั่วทุกแผงแล้ววันนี้ โดยค่ายเพลงคุณภาพ..ยูนิเวอร์แซล มิวสิค...ประเทศไทย