คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ที่มีหน้าที่กำกับดูแลพลังงานของประเทศมูลค่าหลายแสนล้านบาทแต่ละปี กำลังอยู่ระหว่างคัดเลือกผู้ที่จะมาเป็นกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ( กกพ.) คนใหม่ 3 คน หลังจากนาง อรรชกา สีบุญเรือง นายชาญวิทย์ อมตะมาทุชาติ และนายพีระพงษ์ อัจฉริยชีวิน จะพ้นวาระการดำเนินงาน ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 นี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา ได้ปิดรับสมัครคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานแล้ว โดยนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการสรรหากรรมการกำกับกิจการพลังงาน (คณะกรรมการสรรหาฯ) ได้เปิดรับสมัครผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เพื่อดำรงตำแหน่งกรรมการกำกับกิจการพลังงานทดแทนกรรมการกำกับกิจการพลังงาน จำนวน 3 คน ปรากฏว่ามีผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 31 คน
ในการนี้ คณะกรรมการสรรหาฯ จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจะดำเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครจากทั้งหมดให้เหลือไม่เกิน 9 คน เพื่อให้แสดงตนและวิสัยทัศน์ด้วยวาจาต่อที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา กกพ. ในระหว่างวันที่ 13 - 14 กันยายน 2564 และคัดเลือกผู้สมัครให้เหลือผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดเพียง 3 คน ก่อนที่จะนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะรัฐมนตรีเพื่อทูลเกล้าฯ เพื่อให้พระมหากษัตริย์ทรงพิจารณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ยคณะกรรมการสรรหาฯ ที่จะเป็นผู้ชี้ขาดคัดเลือกผู้สมัคร 3 คน ประกอบด้วย นายณอคุณ สิทธิพงศ์ อดีตปลัดกระทรวงพลังงาน นายประสงค์ พูนธเนศ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายปรเมธี วิมลศิริ อดีตเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒน์ นายสุพันธ์ มงคลสุธี ผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายประเสริฐ ตปนียางกูร นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ผู้แทนของอธิการบดีของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ และนายวิจารณ์ สิมะฉายา อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้แทนองค์กรเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรทางธุรกิจ
สำหรับผู้สมัครทั้งหมด 31 คน เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านพลังงานหลายคน โดยตัวเต็งที่คาดว่าจะได้รับคัดเลือกเป็นคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีจำนวน 9 คนด้วยกัน ประกอบด้วย 1.นายพิทักษ์ จรรยพงษ์ อดีตประธานกรรมการและกรรมการ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด และที่ปรึกษา บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่มีความรู้ความสามารถด้านก๊าซธรรมชาติ คาดว่าจะมาดูแลกำกับการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติที่ภาครัฐกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ อีกทั้งจะมาแทนโควตาผู้เชี่ยวชาญด้านก๊าซธรรมชาติในบอร์ด กกพ. แทนนายพีระพงษ์ อัจฉริยชีวิน ด้วย
2.นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว อดีตผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ภาครัฐกำลังต้องการผู้ที่มีความรู้ความสมารถด้านไฟฟ้ามากำกับเกี่ยวการคิดค่าบริการสายส่งจำหน่ายไฟฟ้า รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน โรงไฟฟ้าขยะชุมชนด้วย
3.นายยงยุทธ จันทรโรทัย อดีตอธิบดีกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งขณะนี้ภาครัฐกำลังผลักดันพลังงานหมุนเวียนจำนวนมาก 4.นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านก๊าซธรรมชาติ 5.นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี อดีตรองผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 6.นายเริงชัย คงทอง รองผู้ว่าด้านระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ 7.นางนฤภัทร อมรโฆษิต อดีตเลขาธิการ สำนักงาน กกพ.