"บิ๊กกร๊อง"ผุดนโยบายชิงนายกฯแข้งไทยคืนเจ้าอาเซียนอันดับแรก

วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556



"บิ๊กกร๊อง" วิรัช ชาญพาณิชย์ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย มั่นใจสมาชิกสโมสรหนุนนั่งเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คนใหม่ สักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์พระบิดาแห่งฟุตบอลไทยเป็นกำลังใจผลักดันสู่ความสำเร็จ เตรียมแผนพัฒนาทีมชาติไทยกลับสู่เจ้าอาเซียนเป็นอันดับแรก ยันไม่ใช่นอมินี เนวิน ชิดชอบ และไม่มีปัญหากับ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี แค่ความคิดเห็นแตกต่างกัน
"บิ๊กกร๊อง" นายวิรัช ชาญพาณิชย์ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งสมัครเข้าชิงนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้มาสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) องค์พระบิดาแห่งวงการฟุตบอลเมืองสยาม ที่ร.ร.วชิราวุธวิทยาลัย เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา
โดย "บิ๊กกร๊อง" เปิดใจว่า ที่มาสักการะพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ที่เป็นองค์พระบิดาแห่งวงการฟุตบอลครั้งนี้เพราะต้องการแสดงเจตนารมย์ว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ รวมทั้งที่นี่เป็นที่ทำการสมาคมฟุตบอลแห่งแรกด้วย เพราะฉะนั้นจึงเป็นการแสดงเจตนารมย์อย่างเปิดเผยที่จะเข้ามารักษากีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นของทุกคน ถ้าเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ คนใหม่ตั้งใจที่จะพัฒนาและฟื้นฟูกีฬาฟุตบอลให้กลับมายิ่งใหญ่เป็นเจ้าฟุตบอลในอาเซียน ซึ่งผมมั่นใจในเสียงสนับสนุนพอสมควร แม้จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการแก้ไขระเบียบวาระการดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ จากเดิม 2 ปี เป็น 4 ปี รวมทั้งเสียงสมาชิกสโมสรสนับสนุนจากเดิมให้เหลือ 72 เสียง ซึ่งยังไม่สามารถทำได้ แต่ถ้าจะทำต้องขอเสียงสมาชิกสโมสร 2 ใน 3 นั้น น่าจะไม่ทัน เพราะคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้หมดวาระการทำงานในวันที่ 17 มิ.ย.นี้แล้ว ถ้าจะเรียกประชุมวิสามัญขอเสียงสนับสนุน ก็ต้องลองดู แต่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย บอกแล้วว่า ตอนนี้วาระการทำงานก็ต้อง 2 ปี เหมือนเดิม ถ้าจะทำอะไรก็ต้องคิดให้มากๆ หน่อย โดยเฉพาะกระแสสังคม จับตามองอยู่ไม่เหมือนการล้มเลือกตั้งนายกสมาคมฯ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว รวมทั้งทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ได้ดูแลภาพรวมการเลือกตั้งให้ถูกต้องเรียบร้อยอยู่แล้ว
"ผมมั่นใจเสียงสมาชิกสโมสรที่สนับสนุนพอสมควร ผมทำงานหนักมีหลายคนรับปากจะให้การสนับสนุนผมอยู่แล้ว จริงๆ ไม่กังวลกับการเปลี่ยนแปลงเสียงโหวต แต่อยากให้ทุกอย่างโปร่งใสมากกว่า ไม่เหมือนเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งผมไม่อยากจะให้เรื่องบานปลาย หรือเกิดความแตกแยก เหมือนแบดมินตัน มวย แต่ครั้งนี้แตกต่างกัน ผมมีการเตรียมความพร้อมอย่างมาก ใช้เหตุการณ์เมื่อ 2 ปีที่แล้วเป็นบทเรียน ผมไม่มีความกังวัลทั้งนั้นตั้งใจที่จะทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด สมัยผมเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย อยู่อันดับ 5 ของเอเชีย และ อยู่อันดับ 41 ของฟีฟ่าแรงกิ้ง มีโอกาสที่จะไปสู่ระดับโลกด้วย เพราะฉะนั้นผมอยากที่จะผลักดันให้ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยกลับมาประสบความสำเร็จให้ได้"
"ผมไม่มีความขัดแย้งกับ "บังยี" วรวีร์ มะกูดู นายกสมาคมคนปัจจุบัน ผมยังเชียร์ให้ได้เป็นประธานเอเอฟซี ด้วยซ้ำ ผมทำงานกับทุกคนได้ แต่ผมมีแนวคิดที่แตกต่าง เลย ตัดสินใจลงสมัครเป็นนายกสมาคมฯ อีกครั้ง ผมมีความมั่นใจพอสมควร เพราะต้องการที่จะพัฒนาวงการฟุตบอลทีมชาติไทย ให้กลับมาประสบความสำเร็จให้ได้ ไม่ตกต่ำเหมือนปัจจุบันนี้ ส่วนเรื่องของ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผมไม่ใช่นอมินีของใคร แต่ก็ดีใจที่ทาง เนวิน ให้การสนับสนุนผม ทำให้รู้สึกดีใจอย่างมาก"


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ