สสส.จับมือพันธมิตรคุ้มครองผู้บริโภค-ป้องถูกโกง

วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

สสส.จับมือพันธมิตรคุ้มครองผู้บริโภค-ป้องถูกโกง


สสส. ผนึก 19 ภาคีเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภค ลงนาม MOU แก้ปัญหาซื้อ-ขายสินค้าไม่ปลอดภัยในตลาดออนไลน์ ผุด 21 ข้อตกลง มุ่งสร้างกลไกประชาชนดูแลประชาชนดึงผู้ให้บริการตลาดออนไลน์เป็นต้นทางสกัดผลิตภัณฑ์อันตราย ด้าน รมต. ดีอีเอส ร่วมเดินหน้ายกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค

 

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ และภาคีเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคทั้งภาครัฐและเอกชน จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการในตลาดออนไลน์

โดย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า การทำธุรกิจออนไลน์เป็นการทำตลาดตรงกับผู้บริโภค ดังนั้นรูปแบบการสื่อสาร การโฆษณาชวนเชื่อ จึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้บริโภค และผู้บริโภคไม่สามารถเห็นหรือสัมผัสสินค้าได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ที่สำคัญผู้ซื้อไม่สามารถรู้ตัวตนที่แท้จริงของผู้ขาย ถือเป็นความเสี่ยงของผู้บริโภคที่อาจก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย การลงนามในบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ในการยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคไทยไปสู่มาตรฐานสากล

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัญหาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เป็นอันตรายและการใช้ที่ไม่เหมาะสมจากการได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องจากการโฆษณาเกินจริง ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล ส่งผลให้ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อขายผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านตลาดออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูลสถานการณ์การคุ้มครองผู้บริโภค ปี 2562 โดยศูนย์วิชาการคุ้มครองผู้บริโภคผู้บริโภคด้านสุขภาพ พบผู้บริโภค มีการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพทางออนไลน์ถึงร้อยละ 21.6 โดยซื้อเครื่องสำอางมากที่สุด ร้อยละ 78.0 รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ร้อยละ 47.2 ที่สำคัญพบมีการสั่งซื้อยาที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาแผนปัจจุบัน ยาลดความอ้วน ยานอนหลับ มากถึงร้อยละ 15.9 ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 เนื่องจากเป็นการซื้อขายยานอกสถานปฏิบัติการ ถือเป็นปัญหาที่นำไปสู่การผลกระทบต่อสุขภาพและสูญเสียค่าใช้จ่ายของประชาชน

ดร.สุปรีดา กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงฯครั้งนี้ถือเป็นพันธสัญญาความร่วมมือในการเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาที่เกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เป็นอันตรายในตลาดออนไลน์ โดย สสส. มุ่งเป้าพัฒนาระบบที่ทำให้ประชาชนซื้อขายสินค้าที่ปลอดภัย มีแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค อาทิ ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ต้องไม่ยินยอมให้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรืออาหารที่ไม่ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ที่เคยถูกเพิกถอนทะเบียน หรือสั่งห้ามจำหน่าย และดำเนินการปิดกั้นไม่ให้เกิดการซื้อขายสินค้าไม่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เกิดกลไกประชาชนดูแลประชาชน มุ่งให้ประชาชนสามารถปกป้องตัวเองและสังคมได้

นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค กล่าวว่า การร่วมกันทำข้อตกลงความร่วมมือการคุ้มครองผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและบริการในตลาดออนไลน์ฉบับนี้ มี 21 ข้อ อาทิ ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ปฏิบัติต่อผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม โดยจัดทำระบบตรวจสอบร้านค้า สินค้า หรือบริการ ก่อนยินยอมให้มีการขายสินค้าหรือบริการนั้น ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์ให้ความสำคัญกับการร้องเรียนของผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคสำหรับการซื้อ-ขายทางของออนไลน์ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ รวมถึงความปลอดภัยทางเศรษฐกิจดิจิตอลในอนาคตและช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว ซึ่งขอบคุณ เจดี เซ็นทรัล ลาซาด้า แอลเอ็นดับเบิลยู บิวตี้นิสต้า แอสเชนด์ คอมเมิร์ซ ที่เข้าร่วม

นางสาวอภิญญา ตันทวีวงศ์ เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า  การซื้อขายสินค้าออนไลน์ของผู้บริโภคไม่ได้รับการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ทำให้ยังมีการหลอกลวงคุณสมบัติเกินจริงเพื่อสร้างยอดขาย ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามคำโฆษณา สินค้าเสียหายก่อนถึงมือ รวมไปถึงปัญหาการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัว ดังนั้นถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่รมว.ดีอีเอส, สสส.,องค์กรด้านการคุ้มครองผู้บริโภคฯและองค์กรภาคเอกชน จะมาร่วมมือกันในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง

นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผอ.สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) กล่าวว่า ภารกิจสำคัญที่ ETDA คือส่งเสริมให้การทำธุรกรรมทางออนไลน์ของประเทศมีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ ผู้ใช้บริการเกิดความเชื่อมั่น ผลักดันให้เกิดร่าง พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการควบคุมดูแลการประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ. …จัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCC พร้อมจัดทำแนวปฏิบัติการกำกับดูแลกันเองระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ประกอบการที่ใช้ตลาดออนไลน์ เพื่อป้องกันปัญหาและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคได้อย่างทันสถานการณ์มากที่สุด  โดยแนวปฏิบัติที่ถูกระบุใน MOU เช่น ผู้ให้บริการตลาดออนไลน์จะต้องมีการปฏิบัติต่อผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม จำหน่ายสินค้าและบริการ ยึดมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าและบริการ แสดงราคาอย่างโปร่งใส และบันทึกประวัติการซื้อขายอย่างเหมาะสม

ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการแจ้งร้องเรียนผลิตภัณฑ์สุขภาพ โฆษณาเกินจริง สอบถามได้ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค 084-652-4607, 089-788-9152 หรือ เฟซบุ๊กแฟนเพจมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เว็บไซต์ www.consumerthai.org  หรือแจ้งปัญหาการซื้อขายออนไลน์ สายด่วน โทร.1212 และเว็บไซต์ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ www.1212occ.com



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ