WFX ขายไอพีโอ 142 ล้านหุ้น-คาดเข้าSET กลางธ.ค.นี้

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

WFX ขายไอพีโอ 142 ล้านหุ้น-คาดเข้าSET กลางธ.ค.นี้


"เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX)" เตรียมขายไอพีโอ 142 ล้านหุ้น ต้นเดือน ธ.ค.นี้  พร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ SET กลางเดือน ธ.ค.64 พร้อมวางงบ 740 ล้านบาทขยายกำลังผลิต 1.24 หมื่นตัน/ปี

 

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ฝ่ายวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ WFX เปิดเผยว่า WFX จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 142 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น คิดเป็น 30.59% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายในช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค หมวดธุรกิจ แฟชั่น ได้ภายในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 64

ทั้งนี้ WFX ได้กำหนดสัดส่วนการกระจายหุ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Pre-emptive Right) จำนวนไม่เกิน 11,360,000 หุ้น หรือ ประมาณ 8 %  2.เสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทและผู้มีอุปการคุณ จำนวนไม่เกิน 14,200,000 หุ้น และ 3.เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 116,440,000 หุ้น โดยจะมีสัดส่วนที่จำหน่ายให้แก่กลุ่มนักลงทุนสถาบันทางการเงินราว 30-40%

"เรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะ WFX เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดเจ้าแรกของประเทศไทยและรายใหญ่ระดับภูมิภาคซึ่งเงินที่ได้ส่วนหนึ่งจะนำไปใช้เพื่อลงทุนขยายกำลังการผลิตซึ่งจะสามารถรองรับคำสั่งซื้อได้จำนวนมาก รวมไปถึงโอกาสในการขยายตลาดใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับกลุ่มบริษัทตามแผนกลยุทธ์ที่ได้วางไว้"นายรัฐชัย กล่าว

นายณัฐ วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการ WFX กล่าวว่า จากจุดแข็งของบริษัทที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจยาวนานกว่า 30 ปี ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าทางธุรกิจ รวมไปถึงสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายมีคุณภาพตรงกับความต้องการของลูกค้า และสามารถที่จะนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิเช่น เฟอร์นิเจอร์ การแพทย์ สิ่งทอและถุงเท้า เป็นต้น

โดยบริษัทมีทีมขายที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ สามารถสื่อสารลูกค้าได้มากกว่า 10 ภาษา ให้บริการและเข้าถึงลูกค้ากว่า 50 ประเทศทั่วโลก และบริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะในประเทศบังกลาเทศและปากีสถาน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสามารถจะเติบโตได้อีกมาก

พร้อมกันนี้ยังเตรียมขยายตลาดใหม่ไปยังประเทศบราซิลและอเมริกาใต้ โดยอยู่ระหว่างการหาตัวแทนจำหน่ายจำนวน 2 ราย จากปัจจุบันอยู่มีตัวแทนจำหนวนอยู่ทั้งหมดราว 20 ราย แบ่งเป็นประเทศจีน 6 ราย ประเทศตุรกี 2 รายประเทศเวียดนาม 2 ราย และประเทศอินโดนีเซีย 1 ราย ประเทศอิหร่าน 1 ราย ประเทศปากีสถาน 2 ราย และประเทศบังกลาเทศ 2-3 ราย เป็นต้น โดยปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์ถึง 99% ส่วนที่เหลือ 1% จำหนายภายในประเทศ

"สำหรับจุดเด่นของเรานั้น ที่เห็นได้ชัดคือเราสามารถผลิตยางยืดได้ทุกชนิด ทุกเกรดา มีราคาตั้งถูกไปจนถึงแพง จึงรองรับได้ทุกตลาด ขณะเดียวกันก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วทิ้ง มีอายุสั้นทำให้มีความต้องการต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเราตั้งอยู่ในทำเลดีจึงมีความได้เปรียบในเรื่องต้นทุนโดยเฉพาะน้ำยางข้น นอกจากนี้เรายังมีทีม R&D วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และด้วยความที่เราเป็นสินค้ากลางน้ำ โอกาสถูกดิสรัปต์มีน้อย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นจุดเด่นที่ทำให้เชื่อว่าจะรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างแน่นอน"

สำหรับแผนการระดมทุนในครั้งนี้ จะแบ่งออกเป็นสามส่วนหลักๆ คือใช้เป็นเงินทุนในการขยายกำลังการผลิตเส้นด้ายยางยืดโดยมีแผนใช้งบลงทุนมูลค่า 740 ล้านบาท เพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มอีก 12,400 ตัน/ปี โดยเฟสที่ 1 กำลังการผลิตประมาณ 6,200 ตัน คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนก.ค. 65 ส่วนเฟสที่ 2 มีกำลังการผลิตประมาณ 6,200 ตันคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน ม.ค. 66 โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 35,000 ตัน/ปี

ส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และการคืนหนี้สถาบันการเงินบางส่วน ทำให้เห็นโอกาสการเติบโตของฐานรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถสำหรับการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในอนาคต สนับสนุนรายได้และกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน

ภาพรวมผลการดำเนินงานของ WFX ล่าสุดในงวด 6 เดือนแรกของปี 64 บริษัทมีรายได้รวมจำนวน1,622.08 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 95.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าจำนวน 48.71 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 104.47% เนื่องจากบริษัทได้ขยายกำลังการผลิตเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้งเพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าเดิม และรองรับการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ของเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้งซึ่งเป็นส่วนประกอบของอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น สายคล้องหน้ากากผ้า ยางยืดขอบชุด PPE และหมวกคลุมผมทางการแพทย์ เป็นต้นให้เติบโตอย่างยั่งยืน

 

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ