กรกต วุฒิหิรัญธำรง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ดานอน ประเทศไทย กล่าวว่า ดานอนเริ่มเข้าสู่ประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 โดยมุ่งเน้นด้านโภชนาการสำหรับช่วงแรกเริ่มของชีวิต และผลิตภัณฑ์ส่งเสริมโภชนาการในวัยผู้ใหญ่ อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ ไฮคิว วัน พลัส (Hi-Q 1 Plus) และ ดูเม็กซ์ (Dumex) ที่ทำให้ดานอนกลายเป็นผู้นำในตลาดนมเสริมอาหารสูงในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และเพื่อการตอบรับความต้องการด้านโภชนาการ ไม่ว่าจะเป็น การเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย ปัญหาด้านโภชนาการในกลุ่มแม่และเด็ก และการเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลาง โดยการพัฒนานวัตกรรมด้านโภชนาการที่มีคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ปัญหาด้านสุขภาพของคนไทยได้อย่างเหมาะสม เช่น ปัญหาด้านการขาดโปรตีนในวัยผู้ใหญ่ ภาวะสมองเสื่อมในระยะเริ่มต้น และ ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในเด็ก ซึ่งผลิตภัณฑ์จากนวัตกรรมของดานอน เป็นหนึ่งในพันธกิจที่ต้องการส่งมอบสุขภาพที่ดีผ่านการดูแลโภชนาการให้ผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ประกอบกับจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นแน่นอนว่าได้ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจ ทุกอุตสาหกรรม และทุกคนทั่วโลก ซึ่งดานอนเองเราก็ได้ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน เราจึงให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการรีบปรับตัวการทำงานของเราให้ไวที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคในประเทศไทยที่ปรับวิถีชีวิตเข้าสู่ยุคนิวนอร์มอล โดยจะยิ่งให้ความสำคัญกับสุขภาพ ภูมิคุ้มกันที่ดีจึงทำให้ผู้บริโภคสนใจสินค้าสุขภาพมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นสิ่งหนึ่งเราต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงจุดกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ดานอนจะได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ส่งเสริมโภชนาการของวัยผู้ใหญ่หรือผู้สูงวัย ที่เราเพิ่งได้เริ่มทำตลาดในเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับการที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุจากการที่คนมีอายุยืนยาวมากขึ้น โดยได้เปิดตัว “โปรติเน็กซ์ (Protinex)” สินค้าใหนกลุ่มเฮลตี้ เอจจิ้ง ในรูปแบบพร้อมดื่ม ต่อยอดผลิตภัณฑ์ส่งเสริมโภชนาการยอดนิยมในวัยผู้ใหญ่ โดย PROTINEX เป็นเครื่องดื่มโปรตีนสูง อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงกล้ามเนื้อและกระดูก และคงความแอคทีฟแม้อายุจะเพิ่มขึ้น และ “ซูวีเนด(Souvenaid)” เป็นอาหารทางการแพทย์ สำหรับผู้มีอาการแรกเริ่มของโรคอัลไซเมอร์โดยผลการวิจัยพบว่า คนที่สูญเสียความทรงจำ ในระยะเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์นั้น มีสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่ต่ำกว่าคนทั่วไป ซึ่งการรับประทานอาหารตามปกติ ไม่สามารถให้สารอาหารเหล่านั้นได้อย่างเพียงพอ โดยตลาดในไทยยังไม่มีใครเข้ามาทำตลาดสินค้ากลุ่มดังกล่าว แต่ในต่างประเทศการทำตลาดในกลุ่มสินค้าอาหารทางการแพทย์มีอยู่จำนวนมาก และในอนาคตเราวางแผนจะนำสินค้ากลุ่มดังกล่าวเข้ามาทำตลาดให้เหมาะสมกับความต้องการของไทยต่อไป