Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
ตั้งสติรับสถานการณ์ เขาพระวิหาร
ตั้งสติรับสถานการณ์ เขาพระวิหาร
วันเสาร์ที่ 02 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
ศาลโลกนัดตีความคดี "เขาพระวิหาร" ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.กระทรวงการต่างประเทศ เคยคาดการณ์ผลการตีความว่า มีแนวโน้มออกมา 2 ด้าน คือ "แพ้ หรือเสมอตัว"
ในทรรศนะของนายสุรพงษ์ไม่มีผลทางคดีว่า "ไทยจะชนะ" เนื่องจากคดีที่นำขึ้นสู่ศาลโลกเป็นความต้องการของกัมพูชา ส่วนไทยเป็นคู่กรณีจึงคัดค้าน ด้วยเหตุนี้ "ผลการเสมอตัว" จึงมีความหมายว่า ไทยชนะคดีไปโดยปริยาย
แต่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายไทยในการต่อสู้คดีการตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 ประเมินว่า ผลการตีความ จะออกมาใน 4 แนวทาง
แนวทางที่ 1 ศาลไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดี แนวทางที่ 2 ศาลอาจตัดสินว่าขอบเขตพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารเป็นไปตามเส้นเขตแดนบนแผนที่ 1 : 200,000
แนวทางที่ 3 ศาลอาจตัดสินเป็นไปตามคำร้องของฝ่ายไทย หมายถึงขอบเขตปราสาทพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหารเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีไทย เมื่อ พ.ศ.2505
และแนวทางที่ 4 คือ ศาลอาจไม่ตัดสินให้เป็นไปตามคำร้องทั้งของไทยและกัมพูชา โดยอาจจะกำหนดขอบเขตพื้นที่โดยรอบเขาพระวิหารขึ้นมาใหม่
ไม่ว่าผลการตีความจะออกมาด้านใด ทั้งไทยและกัมพูชาล้วนเป็นมิตรประเทศในกรอบความร่วมมือประชาคมอาเซียน ทุกอย่างจึงมีสติมากกว่าการเผชิญหน้าใช้กำลัง
กรณีพิพาท "เขาพระวิหาร" ในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นเกิดจากกัมพูชาต้องการนำปราสาทพระวิหารเป็น "มรดกโลก" โดยเกี่ยวพันกับพื้นที่ทับซ้อนรอบปราสาทประมาณ 4.6 ตารางกิโลเมตร รัฐบาลไทยสมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2551 คัดค้านการผนวกพื้นที่ทับซ้อน แต่กลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า พื้นที่ทับซ้อนเป็นของไทย จึงกลายเป็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่าง ประเทศ
กัมพูชายื่นเรื่องเมื่อ 28 เมษายน 2554 เพื่อขอให้ศาลโลกตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารปี 2505 และขอให้ศาล โลกออกคำสั่งมาตรการชั่วคราวให้ไทยถอน ทหารออกจากพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร
กระทั่งความแตกต่างในกรณีการเสนอปราสาทพระวิหารเป็นพื้นที่มรดกโลก ได้บานปลายไปสู่การช่วงชิงพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร จนหวนกลับไปสู่การตีความ การวินิจฉัยคดีเมื่อปี 2505 เพื่อหาพื้นที่ภายใต้อำนาจขอบเขต "อำนาจอธิปไตย" ให้กระจ่าง
อย่างไรก็ตาม ความคลุมเครือของศาลโลกอยู่ที่การวินิจฉัยแสดงความเป็นเจ้าของปราสาทพระวิหาร แต่ไม่ได้ชี้ขาดในกรณี "แผนที่" ที่ทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อนกัน แต่สังคมทั้งสองประเทศต่างอยู่ร่วมกัน มาด้วยดีตลอด 50 ปี โดยยอมรับความเป็นเจ้าของตัวปราสาท
และเข้าใจในพื้นที่ทับซ้อนว่า ต้องนำ มารังสรรค์ให้เกิดประโยชน์ร่วมกันของสอง ประเทศ โดยเฉพาะรัฐบาลสมัยนายชวน หลีกภัย ได้ลงนามใน MOU 2543 ซึ่งยอมรับเส้นแบ่งเขตแดนแบบ 1 : 200,000 ที่ผนวกพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร เข้าไปด้วย
ความขัดแย้งยุคใหม่ของสองประเทศ เกิดขึ้นในทศวรรษ 2550 นับตั้งแต่กัมพูชาต้องการนำปราสาทพระวิหารพร้อมพื้นที่โดยรอบ 4.6 ตารางกิโลเมตร (โดยอ้าง MOU 2543) ขึ้นเป็นมรดกโลก จนนำไปสู่ความขัดแย้งทั้งระหว่างประเทศและการเมืองภายในประเทศของไทย กระทั่งใช้กำลังทหาร ต่อสู้กัน
กรณีปราสาทเขาพระวิหารได้สร้างปัญหาทั้งในระดับระหว่างประเทศและภายในประเทศไทยอย่างน้อย 2 ประเด็นหลัก คือ ปัญหาการเมืองในประเทศและปัญหาสำนึก จักรวรรดินิยมล่าเมืองขึ้นยุคใหม่ของไทย
ปัญหาในประเทศเกิดขึ้นบนความแตกต่างในการพิจารณาผลประโยชน์เกี่ยวเนื่องจากกรณีปราสาทพระวิหาร โดยฝ่ายรัฐบาลทุกยุคสมัย (ยกเว้นช่วงนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี) เชื่อว่าในคำวินิจฉัยของ ศาลโลกเมื่อปี 2505 และเห็นชอบร่วมกันว่า พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นพื้นที่ทับซ้อน ทั้งไทยและกัมพูชาล้วนมีผลประโยชน์ร่วมกัน
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มอนุรักษ์ชาตินิยมไทย กลับเชื่อว่า พื้นที่เขาพระวิหารทั้งหมดเป็นไทยฝ่ายเดียว ดังนั้น จึงชูประเด็น "ทวงคืนสมบัติชาติ" กลับคืนมา
ประเด็นความเชื่อของพันธมิตรฯและกลุ่มแนวร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รวมทั้งไม่ใส่ใจกับการวินิจฉัยของศาลโลกทั้งในปี 2505 และคำวินิจฉัยที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในปี 2556
ความแตกต่างเช่นนี้นำไปสู่การทำให้ เกิดประเด็นทางการเมืองขึ้นมา โดยแยกประเภทรัฐบาลให้เป็นฝ่าย "ขายชาติ" ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นฝ่าย "รักชาติ" การแยกแยะเช่นนี้เกิดจากนำพื้นที่ทับซ้อนไปสู่ การแลกเปลี่ยนและแสวงหาผลประโยชน์จากพลังงานธรรมชาติที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศ
ด้วยเหตุนี้ พื้นที่ทับซ้อนจึงเท่ากับการ แลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของนักการเมืองขายชาติ ดังนั้น ตรรกการเมืองจึงถูกผนวก ไปสู่การ "ขับไล่" รัฐบาลที่ขายชาติ ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ
กลุ่มพันธมิตรฯ โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เริ่มก่อหวอดเรียกร้องกดดันให้รัฐบาล "ไม่ยอมรับ" คำตัดสินของศาลโลก ซึ่งเท่ากับทำให้รัฐบาลประกาศ "ความเป็นเจ้าของ" ในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรแต่ฝ่ายเดียว
ปัญหาเบื้องหลังการแข็งกร้าวของกลุ่มอนุรักษ์ชาตินิยมไทย อยู่ที่แนวคิดว่า ไทยเป็นประเทศเอกราช มีแสนยานุภาพที่แข็งแกร่งกว่ากัมพูชา หากตัดสินปัญหาด้วย กำลังทหารแล้ว ไทยย่อมได้เปรียบและมีความเป็นไปได้ในการชิงพื้นที่เขาพระวิหารกลับมาสู่ไทยได้ตามเดิม
แนวคิดของพันธมิตรฯ และกลุ่มอนุรักษ์ ชาตินิยมได้ก่อปัญหา เกิดการปะทะทางการ ทหารมาแล้ว ชีวิตมนุษย์กลายเป็นเหยื่อ และตายบนซากความเชื่อเขตแดนทางประวัติศาสตร์ เป็นความชอบธรรม และอยู่เหนือชีวิต สังคม วัฒนธรรมความเป็นมนุษย์
ถึงที่สุดแล้ว ผลการตัดสินของศาลโลกย่อมอยู่ในกรอบทั้ง "ด้านดีและด้านลบ" ต่อรัฐบาล คือด้านดีเป็นการตัดสินให้ทุกอย่างคงสภาพเดิมตามคำตัดสินเมื่อปี 2505 แต่ด้านลบอยู่ที่ผลการตัดสินใหม่ลงรายละเอียดไปถึงการชี้ขาดให้พื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชาด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การเคลื่อนไหวกดดันของกลุ่มพันธมิตรฯ รุนแรงขึ้นถึงขั้นเกิดการปะทะกันของสองประเทศ
รหัสการเคลื่อนไหวอยู่ที่ "ปกป้องพื้นดินไทย" หากรัฐบาลไม่ทำตามย่อมถูกกล่าวหาว่า "ขายชาติ" แล้วนำไปสู่การขับไล่รัฐบาล
สถานการณ์ความระทึกในเดือนพฤศจิกายนนั้น เริ่มปรากฏร่องรอยความ แตกแยกมากขึ้น ต้องตั้งสติพิจารณาเหตุการณ์อย่างรอบคอบจึงจะปลอดภัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ถอดรหัส !! ปรากฏการณ์ “เจนนี่ ได้หมดถ้าส...
...
AI Search คืออะไร? ทำไมธุรกิจยุคใหม่ต้อง...
...
เลือกต่อเติมกันสาดอย่างไรให้ตอบโจทย์การใ...
...
ชวนอ่าน ! ทรัพย์สินทางปัญญาหมายถึงอะไร...
...
5 เทรนด์อนาคตพลังงาน สร้างความมั่นคง-ลด ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ