จากผู้ประกอบการ ไปจนถึงนักธุรกิจอิสระผู้คร่ำหวอดจนแตกฉานความรู้เกี่ยวกับธุรกิจขายตรง มาฉบับนี้ทีมงานคอลัมน์ต้องการเปิดความคิดของผู้หนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการเรียนการสอน และผลักดัน ให้ธุรกิจขายตรง เข้าไปอยู่ในตำราเรียนของนักศึกษา โดยที่อาจารย์ท่านนี้ มองว่า กฎหมายจะทำให้เหล่า 18 มงกุฎ เข้ามาหาผลประโยชน์จากธุรกิจได้ยากขึ้น หากกฎหมายมีความแข็งแกร่ง และทันยุคสมัย
ศ.ดร.สุธรรม เลิศพงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการสอน และบรรจุหลักสูตรวิชาการตลาดและธุรกิจเครือข่ายของวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ได้เปิดเผยในประเด็นกฎหมายขายตรงกับ "สยามธุรกิจ" ว่า คงจะต้องมีการปรึกษาหารือเรื่องนี้กันหลายรอบ เนื่องจากที่ผ่านมากฎหมายขายตรงและ การตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 ยังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน ทำให้มีหลายบริษัทร้องเรียน โดยตนอยากให้มี การแก้ไขกฎหมายขายตรงฉบับนี้เสียที เพื่อเป็นการรับมือการรวมตัวประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ "เออีซี" อาจจะมีการร่วมหารือถึงกฎหมายฉบับนี้แน่นอน
"บางบริษัทที่ทำธุรกิจเครือข่ายก็ทำตามกฎหมายที่บัญญัติเอาไว้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่ก็มีหลายบริษัทเรียกร้องอยากให้แก้ไข เรื่องนี้คงต้องมีการพูดคุยกับ หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หากจะให้แก้ไข"
แต่โดยส่วนตัวหากจะมีการปรับแก้ไขกฎหมาย ก็คิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะการแก้ไขคงต้องให้สอดคล้องกับยุคสมัยในปัจจุบัน เพราะโลกได้พัฒนาไปมากแล้ว มีหลายช่องทางที่กลุ่มไม่หวังดี จะ สามารถเข้ามาหาผลประโยชน์ทำให้วงการขายตรงเสื่อมเสียได้
ศ.ดร.สุธรรม ยังกล่าวต่อว่า ตอนนี้มูลค่าทางธุรกิจขายตรง สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศชาติหลายแสนล้านบาท และมีผู้ที่ เข้ามาทำธุรกิจขายตรงเป็นจำนวนมาก เพราะอาชีพนี้สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาได้ บางคนมีหนี้สิน หรือติดหนี้ต่างๆ นานา ก็ได้เงินจากการทำธุรกิจเครือข่ายมาช่วยปลดล็อกชีวิตให้พวกเขามีความสุขได้ เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรวย หากทำงานประจำแล้วไม่รวยก็มีความคิดที่จะลองทำอาชีพใหม่ๆ
"ผมมองว่า ธุรกิจขายตรงเป็นอาชีพที่ไม่ได้หลอกลวงใคร แต่ปัญหาที่มันเกิดขึ้นคงเป็นเพราะกลุ่มคนที่ไม่หวังดีจริงๆ โดยตอนนี้รัฐบาลก็ได้ตั้งหน่วยงานอย่าง สคบ.เข้ามาช่วยเหลือ แล้ว แม้จะยังไม่เพียงพอ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าภาครัฐยังใส่ใจผู้ประกอบการธุรกิจเครือข่าย"
โดยอยากให้สมาชิกที่ทำธุรกิจขายตรงทั่วประเทศ ตัดสินใจให้รอบคอบก่อนจะร่วมธุรกิจขายตรงกับบริษัทไหน ต้องดูให้ดีว่า มีใบอนุญาตรับรองหรือไม่เปิดได้ถึง 2 ปี หรือยัง และสินค้าผ่าน อย. หรือเปล่า เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ตกเป็น เหยื่อจะดีที่สุด