Eastspting เปิดขายกองทุน TMB-ES-VIETNAM รับโอกาสเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเวียดนาม

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2565

Eastspting เปิดขายกองทุน TMB-ES-VIETNAM รับโอกาสเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเวียดนาม


Eastspting เปิดขายกองทุน TMB-ES-VIETNAM ตั้งแต่วันนี้ถึง18 ม.ค.65 
รับโอกาสเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นเวียดนาม
 
AW-Speaker_TMB_ES_Vietnam-1920x1080-1_1920x1080.jpg

 

TMBAM Eastspring และ Thanachart Fund Eastspring เปิดตัวกองทุน ทีเอ็มบี อีสท์สปริง Vietnam Active Equity หรือ TMB-ES-VIETNAM ในงานสัมมนาออนไลน์ “VIETNAM…ASIA’S RISING STAR เปิดมุมมองลงทุนหุ้นเวียดนาม” เมื่อวันอังคารที่ 11 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา  โดยมีวิทยากรเข้าร่วมในงานสัมมนา ดังนี้ นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ TMBAM Eastspring และ Thanachart Fund Eastspring, ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร สุดยอด VI และผู้บุกเบิกลงทุนหุ้นเวียดนามนายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน TMBAM Eastspring และนายพงศ์สรร ยอดเมืองเจริญ, CFA, FRM ผู้อำนวยการส่วนบริหารผลิตภัณฑ์ TMBAM Eastspring

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ TMBAM Eastspring และ Thanachart Fund Eastspring กล่าวในระหว่างงานสัมมนาว่า ในปีที่ผ่านมาเวียดนามถือเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีมาก และโดยส่วนตัวก็เชื่อว่าเวียดนามยังมีอนาคตและมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แม้ปัจจุบันตลาดหุ้นเวียดนามจะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Frontier Market แต่จากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศและกฎหมายที่เอื้อต่อการลงทุน ทำให้มั่นใจได้ว่าตลาดหุ้นเวียดนามมีโอกาสจะขยับจาก Frontier Market ไปสู่ Emerging Market  ได้ในไม่ช้านี้

ทางด้าน ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร สุดยอด VI และผู้บุกเบิกลงทุนหุ้นเวียดนามได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับหุ้นเวียดนามไว้อย่างน่าสนใจว่า10 ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของเวียดนาม และเชื่อว่าเป็นการเติบโตที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ แต่ละปีมีผลตอบแทนติดลบเฉลี่ยไม่เกิน10% และปัจจุบันมีการเติบโตถึง 4 เท่าแล้ว ดังนั้นหากถามว่าตอนนี้หุ้นเวียดนามแพงไปหรือยัง ก็มองว่าเวียดนามยังมีโอกาสเติบโตต่อได้อีกอย่างน้อย 10 ปี

นอกจากนั้น ดร. นิเวศน์  ยังได้แชร์ประสบการณ์การลงทุนหุ้นเวียดนามในระยะแรกๆไว้ว่า ตอนที่ตัดสินใจลงทุน เพียงแค่อยากจะกระจายลงทุนจึงเริ่มมองดูหุ้นทั่วอาเซียนว่าประเทศไหนน่าสนใจลงทุนบ้าง และก็เริ่มกระจายลงทุนในหุ้นเวียดนาม โดยในระยะแรกเน้นเฉพาะหุ้นเวียดนามที่มีราคาถูกตามแนวคิดแบบ Value Investor แต่ปัจจุบันเริ่มเข้าลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ลักษณะ Super Stock มีการวิเคราะห์พื้นฐานและโอกาสของแต่ละบริษัทที่ลงทุนมากขึ้นยิ่งกว่าเอดีต ทำให้พอร์ตปัจจุบันพอร์ตลงทุนสามารถรักษาระดับการเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพกว่าเดิม ส่อง 4 ปัจจัยหลักหุ้นเวียดนาม

นายบดินทร์ ได้กล่าวเสริมว่า หุ้นเวียดนามมี 4 ปัจจัยหลัก ที่ทำให้ความน่าสนใจลงทุนอยู่ในระดับที่สูงมาก อย่างปัจจัยด้านมหภาค จะพบว่าเวียดนามเป็นประเทศที่เติบโตมากที่สุดในอาเซียนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่าขนาดเศรษฐกิจของเวียดนามอาจโตขึ้นอันดับ 3 ในอาเซียนในเวลาไม่กี่ปีต่อจากนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้เม็ดเงินลงทุนตรงหรือ FDI เติบโตได้ต่อเนื่อง และยังคงดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติได้ เนื่องจากความได้เปรียบเรื่องต้นทุนการผลิตด้านแรงงาน

นอกจากนั้น เวียดนามยังมีปัจจัยพื้นฐานที่ดึงดูดการลงทุนสูงมาก โดยพบว่าในปัจจุบันค่าเงินของเวียดนามมีเสถียรภาพมากขึ้น จากทุนสำรองที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับมาตรการภาษีที่จูงใจทั้งภาษีนิติบุคคล และภาษีเขตเศรษฐกิจพิเศษ ยิ่งทำให้เสน่ห์ของเวียดนามหอมหวานมากขึ้น และพบว่าข้อตกลงทางการค้า ( FTA) ที่เป็นพื้นฐานการสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศของเวียดนามนั้นครอบคลุมกว่า 50 ประเทศ ซึ่งสูงกว่าไทยพอสมควร

อีกปัจจัยที่สำคัญ คือ เวียดนามมีศักยภาพการเติบโตที่สูงมาก เวียดนามมีการลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตในอัตราที่สูงมาก  และโดยส่วนตัวคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปี เวียดนามมีโอกาสเข้าร่วมใน MSCI EMERGING MARKETS INDEX ยิ่งตอกย้ำความมั่นใจว่าเวียดนามจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องต่อไป

นายบดินทร์ กล่าวถึงปัจจัยสุดท้ายที่สนับสนุนการลงทุนในหุ้นเวียดนาม ว่า  ปัจจุบันการเติบโตของกลุ่ม ธนาคาร อสังหาฯ ก่อสร้าง สาธารณูปโภค ในเวียดนามนั้นโดดเด่นมาก เนื่องจากเป็นช่วงการเติบโตแบบ S Curve และ EPS GROWTH ยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้เวียดนามมีความน่าสนใจในระยะยาว เมื่อเทียบกับการเติบโตของกำไร ระดับมูลค่า และความผันผวน นอกจากนั้นหุ้นเวียดนามมีความสัมพันธ์กับแต่ละสินทรัพย์ในระดับต่ำ ทำให้เหมาะกับการกระจายการลงทุนประมาณ 5-15% ของพอร์ตการลงทุน

นายพงศ์สรร ได้เปิดเผยเกี่ยวกับกองทุน ทีเอ็มบี อีสท์สปริง Vietnam Active Equity หรือ TMB-ES-VIETNAM ที่จะเปิดขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 12-18 มกราคมนี้ไว้ว่า กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในเวียดนาม และจัดตั้งกองเป็นแบบ Fund of Funds ซึ่งปัจจุบันเน้นลงทุนใน 2 กองทุนหลัก คือ กองทุนVietnam Equity (UCITs) ในสัดส่วนประมาณ 75% และ Lumen Vietnam (UCITs) ในสัดส่วนประมาณ 25% โดยทั้ง 2 กองทุนต่างมีจุดเด่นที่เมื่อนำมาผสาน จึงเกิดเป็นความลงตัวอย่างมาก และเชื่อว่าจากการคัดสรรหุ้นคุณภาพของ 2 กองทุนหลัก จะสามารถสร้างโอกาสให้พอร์ตลงทุนเติบโตได้ต่อเนื่อง (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6 จาก 8)

โดย Vietnam Equity (UCITs) ซึ่งเป็นกองทุนหลัก บริหารจัดการกองทุนโดย DRAGON capital จะเน้นวิเคราะห์งบการเงิน ปัจจัยเชิงคุณภาพ และโอกาสเติบโตของแต่ละบริษัท และเมื่อได้หุ้นที่ต้องการ จะนำมาวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค และตลาด รวมไปถึงวิเคราะห์ความถูกแพงเพื่อให้ได้หุ้นประมาณ 25-35 ตัวเข้าพอร์ตลงทุน

และ Lumen Vietnam (UCITs) – share class USD - I กองทุนหลักอีกหนึ่งกองนั้น มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่อยู่ในประเทศเวียดนามหรือเกี่ยวข้องกับประเทศเวียดนามโดยมีการใช้ปัจจัยด้าน ESG และธรรมาภิบาลของบริษัทเข้ามาร่วมพิจารณาในการลงทุนเพื่อมุ่งหวังให้การลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน

หากสนใจลงทุน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.TMBAMeastspring.com หรือโทร 1725 ในวันและเวลาทำการ หรือผ่านช่องทางการขายของบริษัทฯ หรือตัวแทนการสนับสนุนการขายและรับซื้อคืนที่ได้รับแต่งตั้ง



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ