คอลัมน์ "กุญแจสู่ความสำเร็จ" ยังเดินหน้าล่าตัวละครที่จะมาฉายความสำเร็จ ในการทำอาชีพนักธุรกิจอิสระ ที่พร้อมมาเปิดแนวความคิด มุมมองเรื่องขายตรง ธุรกิจ ที่หลายคนยังมองว่ามี 2 หน้า ซึ่งเขาเหล่านี้ จะแสดงให้เห็นว่า ความที่กล่าวหาวงการขายตรงนั้นไม่ใช่เสมอไป เพราะขายตรงกับคนหลายคน ก็ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไป ในทางที่ดีขึ้นได้ ขอเพียงความพยายามทุ่มเท มุ่งมั่นกับสิ่งที่ทำธุรกิจขายตรงก็จะเป็นคำตอบให้คนที่ร้องหาความสำเร็จที่ฝันถึง
โดยครั้งนี้ ทีมงาน Key to Success ได้ดึงเอานักธุรกิจคู่รหัส จากบริษัท โมนาวี (ประเทศ ไทย) จำกัด "เกตุกุลธร จีระเดชดำรง" และ "ศศิน วีรฉัตรสกุล" นักธุรกิจระดับ "ไดมอนด์ (Diamond)" ของบริษัท
ทั้งสองคนต่างมีประวัติชีวิตก็สมบูรณ์แบบ เริ่มจาก "เกตุกุลธร" ที่มีธุรกิจโรงงานผลิตพลาสติกหลายแห่ง ส่วนแฟนหนุ่ม "ศศิน" ก็เป็นทายาทเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ระดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่ ทำไมทั้งคู่ถึงยอมผันตัวเองเข้ามาทำธุรกิจ MLM ได้
+ จุดเปลี่ยนอะไร... ดึงเข้าทำ MLM
"บอกตรงๆ เลยค่ะ ปกติเราสองคนกำลัง มองหาธุรกิจเสริมอะไรสักอย่างที่ทำร่วมกันได้ เพราะการมีเงินอย่างเดียวไม่ใช่ว่าจะมีความสุข ทุกคนต้องการมีเวลาอยู่กับคนที่เราอยาก อยู่ด้วย หรือเวลาทำอะไรๆ ก็ได้ที่เป็นส่วนตัว และธุรกิจ MLM ให้ทั้งเวลา ความสุข เงิน ซึ่ง 3 อย่างมาพร้อมกัน ทำให้เป็นสาเหตุให้ตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจนี้แบบเต็มตัวเลยค่ะ แต่ธุรกิจโรงงาน หรืออสังหาริมทรัพย์ก็ยังทำ อยู่ แต่เราสองคนก็ต้องจัดสรรเวลามาทำเป็น อาชีพเสริมให้ได้เท่านั้นเอง"
+ ทำไมถึงเลือกทำธุรกิจ MLM กับ "โมนาวี"
"บ.โมนาวี มีสินค้าที่เราสองคนต่างก็ชอบหลายอย่าง และสามารถตอบโจทย์เราได้ในการดูแลสุขภาพ รวมถึงแผนการตลาดระบบการจัดบริหารที่ดี อีกทั้งมีสาขาต่าง-ประเทศหลายแห่ง เพราะว่าเราเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ทำให้สามารถแวะซื้อสินค้า ได้ทันที"
+ ใครเปิดโอกาสให้เข้ามาทำ MLM
"คงเป็นเพื่อนคุณพ่อที่ให้คำแนะนำเข้ามาทำธุรกิจนี้ เพราะว่าตอนนั้นเรากำลังมองหาธุรกิจเสริมเกี่ยวกับสุขภาพ และความ งามอยู่ ก็เลยลองเข้ามาศึกษาธุรกิจเครือข่าย โดยศึกษาหลายๆ บริษัทอยู่หลายปี จนมาเจอ บ.โมนาวี ที่ตอบโจทย์ตัวเราได้ เพราะเราสองคนชอบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง อาหารเสริม จึงตัดสินใจเลือกบริษัทนี้"
+ ทำมากี่ปีกว่าจะมาถึงวันนี้
"อย่างที่บอกเราศึกษามาหลายปี รวมๆ ก็เกือบ 5 ปี แต่เราสองคนลงมือช่วยกันทำจริงๆ กับ บ.โมนาวี เพียง 1 ปีเศษๆ เท่านั้น ตอนนี้อยู่ตำแหน่งไดมอนด์ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 3-4 แสนบาท"
+ มาถึงตอนนี้...ตั้งเป้าหมายอะไรในธุรกิจ MLM
"ตอนนี้ความฝันจะพยายามก้าวไปสู่ตำแหน่งสูงสุด คือ ทริปเปอร์ไดมอนด์ ให้ได้ แต่คงต้องใช้เวลาหลายปีพอสมควร แต่จะตั้งเป้ายังไงต้องทำให้ได้ อีกทั้งตอนนี้ยังไม่มีใครทำได้ แต่ยังไงภายในสิ้นปีนี้จะขอขึ้นตำแหน่งแบล็กไดมอนด์ให้ได้ก่อน และจะพยายามสร้างตำแหน่งไดมอนด์ ติดตัวให้ได้อีก 5 คน"
+ ปกติเป็นคนชอบธุรกิจ MLM ไหม
"แรกๆ ตอนที่ทำขายตรงใหม่ๆ ยังไม่ค่อยชอบ เพราะตัวของเกตุเองเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่ชอบขาย แต่พอเข้ามาทำจริงๆ แล้ว รู้สึกว่า เป็นเหมือนกับเราได้ให้โอกาสเขาได้เปลี่ยนแปลงชีวิตมากกว่า แค่เจอคนหนึ่ง หรือสองคนที่ใช่ก็เพียงพอกับธุรกิจนี้แล้ว ส่วนคุณศศิน (แฟนหนุ่ม) เป็นคนเข้ากับคนเก่ง มีวิธีการพูดที่ดี รวมถึงเก่งเรื่องการบริหารจัดการ คือเก่งเรื่องคนเป็นพิเศษ"
+ เจออุปสรรคอะไรในธุรกิจ MLM บ้าง
"อุปสรรคที่เจอคงเป็นเรื่องของลูกทีมมากกว่า เพราะการที่เราจะดึงให้เขาอยู่กับเรา นานๆ ได้นั้น ก็ต้องทำให้เขามั่นใจในบริษัท และมีความศรัทธา แต่ปัญหาเหล่านี้มองว่า เกิดขึ้นได้ทุกที่อยู่แล้ว อยู่ที่เราจะจัดการกับมัน อย่างไรเท่านั้น เพียงเรามีความอดทนอยู่ในเป้าหมายที่ชัดเจนก็พอ คือเราต้องพยายามอยู่บนลู่วิ่งให้นานพอ ที่จะเอาชนะปัญหาได้"
+ ในมุมมองของแม่ทีม คนที่ใช่ สำหรับธุรกิจ MLM เป็นอย่างไร
"เราสองคนอยากได้คนใหม่ๆ ที่ใสๆ มี วิสัยทัศน์ เป้าหมายชัดเจน เข้ามาทำในธุรกิจนี้ เพราะเขาจะตั้งใจทำและทำได้อย่างมีเป้าหมายชัดเจน ทำให้เราอยากจะช่วยสนับสนุน คนแบบนี้เป็นอย่างมาก เพราะการที่ทำตัวเป็น น้ำเปล่าจะดีที่สุด ส่วนคนที่มีความรู้ หรือเชี่ยวชาญธุรกิจนี้มากๆ ค่อนข้างจะทำให้อยู่กับเรายาก จะมีปัญหาเสมอ ไม่เหมือนคนที่ไม่รู้เลยจะดีซะกว่าที่เชื่อฟัง ทำตามแผนเป็นอย่างดี"
+ มีเคล็ดลับอะไรดีๆ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จบ้างไหม
"อยากให้ทุกคนลองนึกถึงวันแรกๆ ที่เราทำงานใหม่ๆ ไม่มีอะไรที่สบายและได้มาง่ายๆ แน่นอน ก็เหมือนกับการทำธุรกิจ MLM ที่ก็ต้องลองพิสูจน์ดูก่อนสัก 3-4 เดือน ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่รู้เด็ดขาดว่า เป็นอย่างไร แต่ ต้องทำให้เต็มที่ที่สุด พยายามขยัน อดทน ยืนหยัดอยู่ในเป้าหมายที่ชัดเจน ที่สำคัญเวลา แม่ทีมชี้แนะอะไร ควรตั้งใจฟังและทำตาม เพราะแม่ทีมที่ประสบความสำเร็จจะช่วยให้เราสำเร็จตามได้แน่นอน"
ทั้ง 2 นักธุรกิจที่เราดึงมาในฉบับนี้ ทำให้เราเห็นว่าความสุข ไม่ได้หยุดที่การมีเงินทอง หรือร่ำรวย เพียงอย่างเดียว เพราะสุดท้ายความสุขมันต้องมากับการที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารักด้วย มันจึงจะสุข และประสบความสำเร็จ