"มนุษย์" เป็นสัตว์ประเสริฐ เป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลาย อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ด้วย น้ำมือของมนุษย์ทั้งในแง่ของการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ การสรรค์สร้างสิ่งดีๆ และ ในอีกแง่มุมหนึ่งหลายสิ่งหลายอย่างก็ถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์ ทำลายได้แม้กระทั่ง ประเทศชาติแผ่นดินเกิดของตนเอง สำหรับการดำเนินธุรกิจมนุษย์เป็นทรัพยากรที่มี คุณค่าขององค์กร (พนักงาน/บุคลากรขององค์กร) และมนุษย์ก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญที่สุดของธุรกิจ (ลูกค้า)
ในดำเนินการขายตรงก็เช่นกัน ต้องเกี่ยวข้องกับมนุษย์ซึ่งเป็นการดำเนินกิจกรรม ที่ต้องเผชิญหน้ากันระหว่างมนุษย์สองฝ่ายนั่นคือ ฝ่ายของนักขายหรือองค์กรขายกับฝ่ายของกลุ่มเป้าหมายและลูกค้า ด้วยลักษณะของการขายตรงที่จะต้องสร้างสรรค์ สื่อสารและส่งมอบคุณค่าหรือโอกาสไปยังกลุ่มเป้าหมายและลูกค้าโดยตรงด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความประทับใจ เกิดความพึงพอใจจนนำไปสู่การ ซื้อสินค้าและบริการหรือสมัครสมาชิก
ดังนั้น สิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินกิจกรรมการขายตรงจะต้องทำความเข้าใจกับ "ธรรมชาติของมนุษย์" ซึ่งมีลักษณะโดยรวมดังต่อไปนี้
1.ต้องการการยอมรับ หรือเห็นว่าตนมีความสำคัญ มนุษย์โดยทั่วไปจะรู้สึกภาคภูมิใจในตนเองเมื่อได้รับการยอมรับจากกลุ่มหรือบุคคลอื่นเห็นว่าตนเองมีความ สำคัญ มนุษย์เรามีทางเลือกในการดำเนินชีวิตหรือมีสินค้าและบริการต่างๆ ให้เลือก มากมายรออยู่ โดยมนุษย์เราก็จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ซึ่งนั่นหมายถึงตนเอง จะต้องได้รับการยอมรับจากกลุ่มเพื่อนฝูงหรือสังคมที่ตนสังกัดอยู่ หรือบุคคลอื่นมีความ เห็นคล้อยตามตน ดังนั้น การขายตรงจะต้องเป็นกิจกรรมที่สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับบุคคลในลักษณะเฉพาะ หรือการให้ความสำคัญกับการรักษาลูกค้าเก่า ด้วยการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าและการให้บริการที่ดีเลิศ ลูกค้ามีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
2.สนใจตนเองมากกว่าคนอื่น มนุษย์เราส่วนใหญ่ทุกวันนี้ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมก็เพื่อค้นหาสิ่งใหม่ๆ ที่ดีที่สุดให้กับตนเองนำมาตอบสนองต่อความยาก ตัณหาและราคะที่มีไม่สิ้นสุด จริงๆ ลึกๆ แล้วก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ตนเองมีความสุขมีคุณภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของตนเองและครอบครัวดียิ่งขึ้น ยิ่งได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารมากขึ้นก็จะทำให้มนุษย์เราสนใจตนเองและให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะคงไม่มีใครที่ต้องการก้าวถอยหลัง หรือต้องการให้ชีวิตสภาพความเป็นอยู่ของ ตนเองย่ำแย่ และจะมีกี่คนที่สนใจคนอื่นมากกว่าตนเอง
3.ต้องการความสะดวก รวดเร็ว มีสิทธิพิเศษ ปัจจุบันมนุษย์เราจะต้องดำเนินชีวิตภายใต้สภาพการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่และรูปแบบการดำเนิน ชีวิตจะต้องดำเนินด้วยความเร่งรีบ ขวนขวาย และด้วยสภาพการแข่งขันทางธุรกิจของ สินค้าต่างๆ ที่มีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งต้องสร้างความแตกต่างให้ผู้บริโภครับรู้ด้วยการ ส่งมอบและการบริการที่มีคุณภาพ ทำให้ผู้บริโภครับรู้ถึงความสะดวกสบายมากขึ้น จนเกิดความเคยชินและให้ความสำคัญกับคุณค่าของความสะดวก รวดเร็ว เพราะเวลา เป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับทุกคนและไม่สามารถย้อนเวลากลับได้
4.ชอบพูดมากกว่าฟัง ด้วยปัจจุบันเป็นยุคของโลกไร้พรมแดน ซึ่งทำให้มนุษย์สามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วในปริมาณที่มากขึ้นเมื่อรับรู้ข้อมูลมากก็ส่งผลให้เกิดความรู้มากและเมื่อมนุษย์รู้มากก็จะพูดมากแล้วก็จะส่งผลคือ ไม่ยอมรับ ฟังคนอื่น หรือไม่ชอบการฟัง ซึ่งสำหรับกิจกรรมขายตรงนักขายจะต้องเป็นนักฟังที่ดีและจะต้องให้ลูกค้าพูดให้จบประเด็นหรือหาช่วงจังหวะที่เหมาะสมสำหรับการตอบ หรือการพูดเพื่อนำเสนอ
5.ชอบความเป็นอิสระ มนุษย์เราจะไม่ชอบข้อผูกมัดทั้งในด้านการตัดสินใจซื้อ หรือการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก นั่นหมายถึงกิจกรรมการขายตรงจะ ต้องนำเสนอหรือสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจในข้อผูกมัดหรือเงื่อนไขต่างๆ ที่มีอย่างชัดเจน ตรงไปตรงมาและจะต้องไม่สร้างความยุ่งยากหรือสลับซับซ้อน ตลอดจนจะต้องเปิด โอกาสให้ลูกค้าตัดสินใจอย่างเป็นอิสระ
6.มีความอยากรู้อยากเห็น เป็นลักษณะธรรมชาติของคนไทยเมื่อเกิดเหตุการณ์ อะไรขึ้นมาก็จะให้ความสนใจเข้าไปรุมดู เพื่อให้รู้เฉยๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้ดูเพื่อช่วย แก้ไขปัญหา หรือที่หลายๆ คน เรียกกันว่า "ไทยมุง" ความอยากรู้อยากเห็นเรื่องของ คนอื่นที่อยู่ในกระแสความนิยมจะได้รับความสนใจมากเพราะกลัวว่าจะเป็นคนตก กระแส และเป็นสิ่งจำเป็นที่กิจกรรมขายตรงจะต้องทันกระแสและทันต่อความอยากรู้อยากเห็นของกลุ่มเป้าหมายเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประกอบการนำเสนอจนนำไปสู่การปิดการขาย
ทั้งหมดก็เป็นลักษณะโดยธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ซึ่งอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับสถานการณ์และแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลง ด้านต่างๆ ซึ่งเหล่าองค์กรธุรกิจทั้งหลายจะต้องเฝ้าคอยติดตามอย่างต่อเนื่องเพราะ จิตใจมนุษย์ยากนักที่จะหยั่งถึง