"นีโอไลฟ์" มั่นใจยอดขายรวมปีนี้โต 30% แม้เจอ ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและวิกฤติการเมือง ล่าสุดโครงการจับมือ "เคลทิ กรุ๊ป" ยักษ์ใหญ่ในไต้หวันรุกคืบ ประเดิมส่งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและชุดเสริมอาหารแบรนด์ "esme" ทำตลาดในไทย พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ต้นปี 57 ชี้อนาคตจะได้ขยายความร่วมมือกับแบรนด์สินค้าชั้นนำจากไต้หวันเพิ่มอีก
ดร.นพรุจ เวชกุล ประธานกรรมการ บริษัท นีโอไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า จากระยะเวลาร่วม 13 ปีที่ผ่าน มา นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 ซึ่งเป็นปีที่ "นีโอไลฟ์" ถูกก่อตั้ง ด้วยปณิธานความตั้งใจที่ต้องการช่วยเหลือผู้คนได้มีอาชีพ มีชีวิตที่ดีขึ้น มีรายได้ที่มั่นคง และประสบ ความสำเร็จตามความฝันของแต่ละคน
ที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ "นีโอไลฟ์" ถือกำเนิดในช่วงนั้นธุรกิจขายตรงไม่ใช่ธุรกิจที่ได้รับการยอมรับจากผู้คนในวงกว้าง มากนัก เนื่องจากความที่ไม่มีกฎหมายอะไร มาควบคุม ภาครัฐยังไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก รวมถึงกลุ่มมิจฉาชีพก็จ้องที่จะเข้า มาหาผลประโยชน์โดยมิชอบ นำพาธุรกิจ ขายตรงไปสู่ความเสียหายทางชื่อเสียง กลายเป็นภาพติดตาของกลุ่มผู้บริโภค จนถึงทุกวันนี้
"ในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจนีโอไลฟ์ เต็มไปด้วยความยากลำบากจากปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมา แต่ด้วยความมุ่งมั่นทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้ โดยต่อมาหลังจากที่ใช้เวลา กับการฝ่าฟันอุปสรรคในยุคเริ่มต้น ก็เข้าสู่ยุคที่ 2 ของบริษัท ซึ่งเป็นยุคแห่งการสร้าง การรับรู้ สร้างความเชื่อมั่นต่างๆ ให้เกิดขึ้น โดยเป็นยุคที่นีโอไลฟ์ต้องมีการลงทุน เรื่องสื่อประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะการเปิดสถานี ดาวเทียม "นีโอ ทีวี" ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น "สยามธุรกิจแชนแนล" ดร.นพรุจ เผย
อย่างไรก็ดี มาถึงปัจจุบัน นีโอไลฟ์เข้า สู่ยุคของการสร้างนวัตกรรม ทั้งทางด้านสินค้า นวัตกรรมของแผน อีกทั้งยังสร้างนวัตกรรมแห่งวงการขายตรงอีกด้วย โดยล่าสุดในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา นีโอไลฟ์ ก็ได้จัดงานเกียรติยศประจำเดือนของบริษัทขึ้น ภายใต้ชื่องาน "Neolife Neo Innovation" เพื่อเป็นการตอกย้ำความเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรม ซึ่งการจัดงานประจำเดือน นีโอไลฟ์จัดเป็นบริษัทที่มีการจัดงานประดับเข็มผู้ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศ รวมถึงยังเป็นบริษัทที่มีผู้ประสบความสำเร็จ ขึ้นตำแหน่งมากที่สุดอีกด้วย
นอกจากนี้ การทำงานนโยบายในปีนี้ ทางบริษัทได้พยายามสร้างความก้าวหน้าให้กับบริษัทมากมาย ทั้งเรื่องของการร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อออกบัตรชำระ สินค้า สร้างความสะดวกให้กับสมาชิกของนีโอไลฟ์ รวมถึงการจับมือด้านธุรกิจกับบริษัท ต่างประเทศ เพื่อนำเข้า ส่งออกสินค้าระหว่างกัน รวมทั้งยังตั้งเป็นพันธมิตรเพื่ออนาคต เมื่อมีการขยายสาขาสู่ต่างประเทศ
โดยที่ผ่านมา บริษัทได้จับมือกับ "เคลทิ กรุ๊ป" แบรนด์ผลิตและจำหน่ายสินค้าด้านความงามระดับสากลจากไต้หวัน รวมถึงการจับมือกับพันธมิตรในกลุ่มประเทศ อาเซียน เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ซึ่งเป็นการวางรากฐานให้กับสมาชิกของนีโอไลฟ์ทุกคน
ด้านนายภัทรพล ไพรจิตร กรรมการ บริหาร บริษัท นีโอไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยกับ "สยามธุรกิจ" ว่า หลังจากที่ บ.นีโอไลฟ์ฯ ได้จับมือกับ "เคลทิ กรุ๊ป" บริษัทผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและความงาม เพื่อนำเข้าสินค้าของ เคลทิ กรุ๊ป มาขายภายใต้แผนงานของ "นีโอไลฟ์" ซึ่งมีการสรุปแบรนด์กันหลายรอบ จนได้ชื่อ "esme" เป็นแบรนด์สินค้า ที่จะส่งให้ "นีโอไลฟ์"
โดยชื่อ "esme" นั้น มีแหล่งที่มาจาก ภาษาฝรั่งเศส แปลว่า มีความรักและคนที่ รักมากมาย โดยบริษัทหวังว่าทุกๆ คนที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ esme ทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และชุดเสริมอาหารจะได้รับความสดใสดั่งมรกต มีทั้งเสน่ห์แบบธรรมชาติ และล้อมรอบไปด้วยความรักที่ไม่มีสิ้นสุด ซึ่งปัจจุบัน esme มีการจดทะเบียนแล้วในหลายประเทศ อาทิ จีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น และไต้หวัน ส่วนประเทศไทยอยู่ระหว่างจดทะเบียน แต่ไม่น่า จะมีปัญหาอะไรคาดว่าจะเรียบร้อยในปีนี้แน่นอน
"ทุกอย่างกำลังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งยังหาข้อสรุปกันอยู่ โดยในปีหน้าจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยจะมีสินค้าเกี่ยวกับเครื่องสำอาง, สกินแคร์ และอาหารเสริม ออกมาอีกหลาย รายการ และจะมีการเปิดตัวแบรนด์ esme อย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ก.พ.2557 ในงานใหญ่ประจำปี "นีโอไลฟ์" โดยอนาคตมีความเป็นไปได้ว่า นีโอไลฟ์ จะเข้าไปร่วมทุนกับ บ.เคลทิ กรุ๊ป ที่มีความเชี่ยวชาญสินค้าด้านความงามและสุขภาพมากว่า 26 ปี ซึ่งเป็นที่ยอมรับในหลายๆ ประเทศทั่วโลก แต่ก็เป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งคงต้องรอดูกัน อีกที หลังแบรนด์ esme ได้ออกสู่ตลาดในปีหน้า"
นอกจากนี้ ในส่วนของเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ "นีโอไลฟ์" ได้รับผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากที่ตั้งของสาขา "นีโอไลฟ์" อยู่ในจุดที่ดีมาก โดยสาขาที่ได้รับผลกระทบมีไม่กี่แห่ง อาทิ สุรินทร์กับ ชลบุรี เท่านั้น ซึ่งสมาชิกก็ยังสามารถเดินทางไปที่สาขาอื่นๆ ของ "นีโอไลฟ์" ได้ เพราะอยู่ไม่ห่างกันมาก ซึ่งยังมีโครงการ "นีโอไลฟ์ ออนไลน์" ที่มีกว่า 2 พันแห่ง โดยแต่ละจังหวัดจะมี 1 ศูนย์ต่อ 1 อำเภอ ทำให้ใกล้และสะดวก สมาชิกสามารถเข้าไป ใช้จัดประชุมเทรนนิ่งได้
ส่วนเรื่องที่ "นีโอไลฟ์" ได้จับมือกับพันธมิตรธนาคารไทยพาณิชย์ ออกบัตรชำระเงินธุรกิจ เพื่อสร้างความสะดวกให้สมาชิกใช้จ่ายสินค้า และบริการของบริษัท ผ่านบัตรเดียว ภาพรวมที่ผ่านมาสมาชิกยัง ไม่นิยมมากนักเนื่องจากยังไม่เข้าใจ อาจจะ ต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้มากกว่านี้ ซึ่งอนาคต อาจจะมีการจัดแคมเปญต่างๆ ช่วยในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี สำหรับภาพรวมในปี 2556 "ภัทรพล" แสดงความมั่นใจว่า บริษัทได้เดิน มาถูกทางแล้ว โดยอีก 2 เดือนก็จะมีการสรุปการดำเนินงานทุกอย่าง ซึ่งเชื่อว่า "นีโอไลฟ์" จะเติบโตถึง 30% โดยในครึ่งปีหลังที่ผ่านมา บริษัทได้พยายามกระตุ้นยอดขายด้วยการให้สมาชิกซื้อซ้ำมากขึ้น เพราะการ ซื้อซ้ำบ่อยๆ จะทำให้สมาชิกได้รายได้คืนกลับ มา ซึ่งการที่สมาชิกซื้อซ้ำจะทำให้มีรายได้เป็นทวีคูณ