อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้มันเกิดเลยปีนี้
สำหรับยอดขายของกลุ่มบริษัทขายตรง รวมถึงการเติบโตภาพรวมของธุรกิจ เพราะไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเช่นกัน กับสถานการณ์ในปีนี้
หากจะบอกว่า ปัญหาของธุรกิจขายตรงที่ต้องประสบในปีนี้คืออะไร คงไม่สามารถบอก หรือระบุได้อย่างเจาะจง จะ ชี้ให้เห็นได้ดีที่สุด เห็นทีจะเป็นในส่วนของสภาพเศรษฐกิจที่ทำให้อำนาจการซื้อของผู้บริโภคลดลง รวมถึงอารมณ์ในการ ซื้อที่มีน้อยลงไปในชนิดทิ้งดิ่ง
ธุรกิจขายตรงต้องประสบกับภาวการณ์ซื้อที่ลดต่ำลงมาตั้งแต่ช่วงต้นปี จากที่ประชาชน หรือกลุ่มผู้บริโภค หันไป เทหน้าตักให้กับสิ่งที่ต้องการหลายอย่าง โดยเฉพาะกับโครงการ ต่างๆ ที่รัฐบาลได้ผุดขึ้นมา
จนกลุ่มบริษัทขายตรงต้องทำอะไรหลายๆ อย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งยอดขายที่ตั้งเป้า ผลักดันให้ธุรกิจมีการเติบโตอย่าง ที่ตั้งความหวัง
เหมือนทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้น แต่ก็ไม่นาน เหตุการณ์ทาง การเมืองกลายเป็นประเพณีปฏิบัติที่คนไทยต้องเจออยู่ทุกปี มากน้อย ร้ายแรงต่างกันเท่านั้น
การเมืองกลายเป็นตัวแปรที่จะคอยฉุดความเจริญของธุรกิจ เศรษฐกิจ รวมถึงความเจริญของบ้านเมืองในทุกปี สิ่งนี้ เราแก้ไขอะไรไม่ได้ นอกจากทำตัวให้ชิน
แล้วธุรกิจขายตรงที่ต้องเจอกับปัญหารอบทิศนี้ จะงัด เอาอะไรขึ้นมาสู้ เพราะลำพังการจะแข่งขันระหว่างธุรกิจกับคู่แข่งนี่ก็เหนื่อยพอแรง และยังต้องมาต่อสู้กับเรื่องที่ไม่สามารถ ควบคุมได้อีก นี่ยิ่งไปกันใหญ่
ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทขายตรงพยายามสร้างแคมเปญ ผุดโปรโมชั่นต่างๆ ขึ้นมาสู้ ทำทุกวิธีที่จะสามารถทำได้ เพื่อกระตุ้นแรงซื้อจากผู้บริโภค รวมถึงกระตุ้นสมาชิก หรือผู้มุ่งหวัง
โปรโมชั่นท่องเที่ยวกลายเป็นสิ่งแรกที่กลุ่มผู้ค้าจะงัดขึ้น มาเป็นกลยุทธ์หลักในการทำตลาด แต่อย่างที่ผู้เขียนเคย นำเสนอไปเมื่อประมาณ 2-3 ฉบับก่อน ว่ากลยุทธ์นี้ดูจะไม่ได้ ผลมากนักในยุคปัจจุบัน เพราะต้องมองว่า ไม่ใช่ปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมา สร้างความเดือดร้อนให้เพียงผู้ประกอบการ แต่เช่นเดียวกัน ปัญหาต่างๆ ที่ว่านี้ ก็ส่งผลกระทบไปยันผู้บริโภค ทำให้อารมณ์ความต้องการเดินทางท่องเที่ยวลดลง กลยุทธ์ นี้จึงกลายเป็นสิ่งจำเจในสายตาผู้บริโภค
การลด แลก แจก แถม สินค้า นับเป็นอีกกลยุทธ์พื้นฐานที่ผู้ค้านำเข้ามาช่วยดันยอดขาย กลยุทธ์นี้ ได้ผลในระดับหนึ่ง ผู้ค้ามีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้น เพราะอย่างน้อย ก็ดีกว่า ถ้าจะจ่ายแล้วได้สินค้าจำนวนเดิม โดยไม่มีอะไรตอบแทน ที่เย้ายวน
อีกสิ่งที่ผู้ค้า เริ่มเอาเข้ามาเล่นมากขึ้น นั่นคือ การปรับ เปลี่ยนแผนการจ่ายโบนัสให้กับสมาชิก สิ่งนี้กลายเป็นเรื่องตื่นเต้นที่สุดสำหรับนักธุรกิจขายตรง แต่ก็ทำได้แค่ทรงตัว ไม่ให้ยอดขายติดหล่ม จมกว่าที่คาดเท่านั้น
ช่วง 2 เดือนท้ายนี้ ความจริงจะเป็นช่วงที่กลุ่มบริษัทขายตรง จะต้องนั่งนับเงินที่ไหลเข้ามามากกว่าทุกช่วงของปี เป็นช่วงที่หลายคนบอกว่า วงการขายตรงสนุกที่สุด เพราะบริษัท ขายตรงจะแข่งขันกันด้วยนโยบายรวมถึงกิจกรรมแบบฝุ่นตลบ
ส่องมาที่ปีนี้ ดูเงียบเหงาเสียเหลือเกิน
จนคนระดับกูรูในวงการมองว่า ปีนี้บริษัทขายตรงส่วนใหญ่ เห็นทีจะต้องลดเป้า ลดความฝัน ภาพรวมคงโตเพียง 5-7%
วิธีแก้ไขที่ดีที่สุด คือ ไปเริ่มต้นใหม่ปีหน้า...