Toggle navigation
วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
ขายตรง
ตลาดโฮมช็อปปิ้งเดือด! สองบิ๊กทุ่มงบปลุกตลาดหมื่นล้าน
ตลาดโฮมช็อปปิ้งเดือด! สองบิ๊กทุ่มงบปลุกตลาดหมื่นล้าน
วันพุธที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
Tweet
ตลาดโฮมช็อปปิ้งแข่งเดือดยันท้ายปี "ทีวี ไดเร็ค" หนุนบริษัทร่วมทุน "เจเอ็มแอล ไดเร็คท์" หรือ JML จากอังกฤษ เดินหน้าอัดงบโฆษณา 80 ล้านบาท ทุ่มงบโฆษณาอีก 80 ล้าน ป้องแชมป์ตลาดชูจุดเด่นสินค้าไอเดียหลากหลาย กระตุ้นกำลัง ซื้อผู้บริโภค เล็งเปิดตัวสินค้าใหม่ทุก 6 สัปดาห์ ผ่านช่องทางห้าง สรรพสินค้าและร้านค้าปลีกเชนสโตร์กว่า 100 จุด ทั่วประเทศ ฝั่งรองแชมป์ "พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่" เจ้าของคอลเซ็นเตอร์ 1577 ลั่นปี 57 ขึ้นแท่นแชมป์ตลาดโฮมช็อปปิ้ง หลังทุ่มงบตลาด กว่า 250 ล้านบาท ปี 56 มั่นใจดันธุรกิจโต 40% คาดตลาดโฮมช็อปปิ้งรวมปีนี้โตกว่า 25% ทะลุ 10,000 ล้าน
นายพีรวัฒน์ สนธิอรุณทัต ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เจเอ็มแอล ไดเร็คท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ JML (John Mills Limited) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกจากประเทศอังกฤษ บริษัทร่วมทุนบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD เปิดเผยว่า เนื่องจากสินค้าของบริษัทมีจุดเด่นในด้านความหลากหลายของสินค้าที่มีมากกว่า 100 รายการ จากสินค้าประเภท Life Style {amp} Living ที่มีด้วยกัน 5 หมวด หลัก ได้แก่ เครื่องใช้ภายในบ้าน ของใช้ส่วนตัว เครื่องครัว ผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาด และผลิตภัณฑ์ดูแลรักษายานยนต์ ที่ได้รับความนิยม จากลูกค้า 72 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 100 ล้านบาท แรกภายในปี 2557 โชว์จุดเด่นในความหลากหลายของสินค้า มั่นใจ การตอบรับผู้บริโภคในไทย โดยวางราคาจำหน่ายแบบผู้ซื้อไม่ต้องลังเลใจ ที่เริ่มตั้งแต่ 299 บาทต่อชิ้น ขึ้นไป ซึ่งบริษัทเชื่อว่าเป็นราคาที่สอดรับ กับกำลังซื้อของผู้บริโภคตามแต่ละทำเลและประเภทของร้านค้าปลีก และน่าจะช่วยผลักดันให้ยอดขายของบริษัทออกมาในทิศทางที่ดีได้
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดนั้น บริษัท มีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ทุก 6 สัปดาห์ โดยชูจุดขายสินค้าที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เอาใจผู้บริโภคด้วยการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทาง ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้า ปลีกเชนสโตร์ เช่น ห้างโรบินสัน ห้างท็อปส์ มาร์เก็ต ร้านทีวี ไดเร็คโชว์เคส และร้านค้า ปลีกชั้นนำที่เริ่มเข้าร่วมรายการเป็นบางสาขา เช่น วัตสัน ซูรูฮะ ลอฟท์ และตั้งฮั่วเส็ง ที่ทยอยนำเสนอสินค้าไอเดียแปลกใหม่ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ก่อนขยายไปสู่ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ต่อไป
พร้อมกันนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณ 80 ล้านบาทในการโฆษณา เพื่อสร้างการรับรู้ถึงจุดเด่นของสินค้าผ่านช่องทางเคเบิล ทีวี และฟรีทีวี ตามลำดับ เพื่อเชิญชวนลูกค้า ผู้สนใจไปยังร้านค้าปลีกที่ร่วมรายการ โดย บริษัทติดตั้งจอวิดีโอสาธิตสินค้าที่ชั้นวางสินค้า ซึ่งวิดีโอจะทำหน้าที่เสมือนเป็นพนักงานขาย บอกจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ โดยมีภาพ และเสียงประกอบอย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ณ จุดขายได้ทันที นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรม แนะนำสินค้าในงานแฟร์ต่างๆ ตามห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และออฟฟิศสำนักงานอีกด้วย
"การนำเสนอสินค้าใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ ผ่านจอวิดีโอ ณ ร้านค้าปลีกของ JML ครั้งนี้ นับว่าเราเป็นผู้ประกอบการรายแรก ที่ประกาศจุดยืนในการทำตลาดแนวนี้อย่างเต็มตัวในประเทศไทยจากประสบการณ์กว่า 30 ปี บริษัทมีความเชื่อมั่นว่าลูกค้าชาวไทยจะให้การสนับสนุนสินค้า ของบริษัทเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับลูกค้าทั่วโลกที่ได้สัมผัสกับเรา ซึ่งในภูมิภาคเอเชีย เรามีสาขาในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และ มาเลเซีย โดยเราได้เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา วิดีโอที่นำเสนอภายในร้านค้าปลีก มีความยาวประมาณ 1 นาที สามารถสร้างความต้องการซื้อสินค้า ได้เป็นอย่างดี วิดีโอทำหน้าที่เปรียบเสมือนพนักงานสาธิตสินค้า ที่สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ทุกที่ ทุกเวลา บริษัทหวังแจ้งเกิดสินค้าภายใต้แบรนด์ JML ในตลาดค้าปลีกของไทยภายใต้สโลแกน "เจเอ็มแอล ไอเดียที่ใช่ สำหรับคุณ" ได้ภายในเวลา 2 ปี" นายพีรวัฒน์ กล่าว
+ 1577 ทุ่ม 250 ลบ. ขย่มตลาด {lt}br{gt} + มั่นใจปี 57 ขึ้นแชมป์
โดยก่อนหน้านี้ นายจุล โชติกะวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่ จำกัด ผู้ให้บริการช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ ตามที่รู้จักกันในนามคอลเซ็นเตอร์ 1577 เปิด เผยว่า ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาถือว่ามีอัตราเติบโตเกินกว่าเป้าหมาย ที่ตั้งไว้ประมาณ 15% คิดเป็นยอดขายประมาณ 850 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจะสามารถทำยอดขายทั้งปีได้ตามที่ตั้งเป้าไว้คือ 1.4 พันล้านบาท หรือเติบโตขึ้นจากปีก่อน 30% โดยปัจจัยที่ทำให้ผลประกอบการ เติบโตเกินคาดมาจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ ในกลุ่มสุขภาพและความงาม 6 รายการเมื่อ ช่วงต้นปี โดยสินค้าเหล่านั้นได้รับการยอมรับ ในคุณภาพและตรงความต้องการของผู้บริโภค จึงทำให้ติดตลาดอย่างรวดเร็ว
"ปัญหาเรื่องกำลังซื้อผู้บริโภคลดลงและอัตราค่าครองชีพที่สูงขึ้นในขณะนี้ไม่มีผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ของเราเป็น กลุ่มสุขภาพและความงามซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงและให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพมากกว่าเรื่องราคา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องราคาสื่อโทรทัศน์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ประมาณ 30-40% ในทุกช่องทาง ทั้งฟรีทีวี เคเบิล และดาวเทียม จนส่งผลให้เราต้องตัดงบโฆษณาในบางรายการลง แม้รายการ นั้นจะมีเรตติ้งดีก็ตาม"
ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมใช้งบประมาณการตลาด รวมถึงโฆษณาประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ประมาณ 250 ล้านบาท เพื่อเป็นการส่งเสริมการขายอย่าง ต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นการแนะนำสินค้าให้เป็น ที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายและเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังจัดงบประมาณพิเศษอีก 2-3 ล้านบาทต่อไตรมาส ในการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเป็นการขอบคุณ และตอบแทนลูกค้าจากเดิมที่เคยจัดเพียงปีละ 1-2 ครั้ง โดยที่ผ่านมาเพิ่งจัดกิจกรรม "1577 โฮม ช็อปปิ้ง ฉลองครบรอบ 9 ปี แจกทองคำ 99 เส้น 99 รางวัล"
"การดำเนินงานในปีนี้ยังอาจมีอุปสรรค และปัญหาที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานได้ โดยเฉพาะเรื่องสถาน-การณ์ทางการเมือง เราจึงจำเป็นต้องวางกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเรา มีเป้าหมายสำคัญในปี 2557 คือก้าวขึ้นเป็น ผู้นำตลาดโฮมช็อปปิ้ง พร้อมทำยอดขายเพิ่มขึ้น 40% เช่นเดียวกับมุ่งขยายฐานลูกค้า เพิ่มขึ้นอีก 40% รวมทั้งเพิ่มสินค้าใหม่อีกประมาณ 15%"
"ภาพรวมของตลาดโฮมช็อปปิ้งถือว่า ดีและมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 25% ต่อปี เนื่องจากใน ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าสู่ระบบมากขึ้นและมีการแข่งขันที่ดุเดือด อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการแต่ละราย ต่างมีจุดแข็งและกลไกการตลาดที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังมีผลทำให้ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ เริ่มทดลองใช้บริการและมีประสบการณ์การ ซื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีอัตราการเติบโต สูงขึ้นมาก ซึ่งในปี 56 นี้ ตลาดโฮมช็อปปิ้งจะมีมูลค่ารวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
Happy MPM Business Trip @ จันทบุรี...
...
กิฟฟารีน แนะนำไอเท็มเด็ด “Giffarine Roya...
...
กิฟฟารีน แนะนำไอเท็มเด็ด “Giffarine Adva...
...
“แอมเวย์” ยกระดับสินค้าเพื่อสุขภาพ เปิดต...
...
“กิฟฟารีน” ฉลองความสำเร็จ 29 ปี จัดใหญ่ ...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ