โดยมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการวางตำแหน่งทางกลยุทธ์ใหม่เสร็จสมบูรณ์
ผลการดำเนินธุรกิจที่สำคัญ1 ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล โดยคำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริง2
ผลการดำเนินงานในประเทศไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งผ่านการขยายผลิตภัณฑ์และบริการ และการขายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์)
นายไมค์ เว็ลส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลมีการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพและแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการวางตำแหน่งทางกลยุทธ์ใหม่ในธุรกิจของเรา ที่มุ่งเน้นการทำธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกาเป็นหลัก โดยเราได้ให้บริการลูกค้าของเราในช่วงวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างดีที่สุด และผมต้องขอขอบคุณพนักงานและตัวแทนของเราทุกคนเป็นอย่างสูง สำหรับความทุ่มเทในการทำงานอย่างหนักตลอดมา ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลได้มีการประกาศไปก่อนหน้านี้ว่าผมจะเกษียณจากตำแหน่งปัจจุบันในปลายเดือนมีนาคม 2565 นี้ ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับพนักงานและคณะกรรมการของกลุ่มบริษัทฯ และจะหมั่นติดตามความก้าวหน้าและความสำเร็จของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลในอนาคตต่อไป”
“ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย กระจายกันไปในหลายภูมิภาค ผนวกกับการปรับเปลี่ยนไปสู่รูปแบบดิจิทัลของเราเป็นปัจจัยให้ยอดเบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE)3 เติบโตร้อยละ 86 และส่งผลให้ธุรกิจของเราเติบโต 10 ใน 14 ประเทศ7 ถึงแม้ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ธุรกิจใหม่ในฮ่องกงยังคงได้รับผลกระทบจากการปิดชายแดนของสาธารณรัฐประชาชนจีน หากไม่นับรวมฮ่องกง เบี้ยประกันภัยรับปีแรกแบบคำนวณรายปี (APE) มีการเติบโตร้อยละ 166 จากการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ของเราในสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย โดยมีกำไรจากธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 136 จากการผสมผสานผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่ออัตรากำไร และการเติบโตของยอดขายจากธุรกิจใหม่
“ธุรกิจที่มีศักยภาพสูงของกลุ่มพรูเด็นเชียล เมื่อพิจารณาจากรายได้จากเบี้ยประกันภัยรายงวด การมุ่งเน้นด้านสุขภาพและความคุ้มครอง อัตราการคงอยู่ของลูกค้าที่สูง เป็นแรงขับที่ทำให้เกิดการเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจประกันชีวิตต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลสามารถเพิ่มผลกำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุง5 ร้อยละ 86 แม้ว่าจะมีการเรียกร้องสินไหมที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 เป็นจำนวนมากก็ตาม โดย 7 ใน 14 ประเทศ มีการเติบโตในส่วนของกำไรจากการดำเนินงานหลังปรับปรุง5 เป็นตัวเลขถึงสองหลัก6 นอกจากนี้ กำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุงของอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ มีการเติบโตถึงร้อยละ 106 โดยมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารกว่า 258 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีเงินลงทุนไหลเข้าจากธุรกิจประกันชีวิตต่าง ๆ ของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลอย่างต่อเนื่อง หากนับรวมทั้งธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจบริหารสินทรัพย์ กำไรจากการดำเนินงานหลังปรับปรุง5 เติบโตขึ้นร้อยละ 86 และเติบโตร้อยละ 76 สำหรับส่วนเกินทุนจากการดำเนินงาน โดยหลังจากการดำเนินการตามแผนการประหยัดต้นทุนส่วนกลาง กำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุงสุทธิของกลุ่มบริษัทฯ มีการเติบโตถึงร้อยละ 166
“กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลจะยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนระยะยาวในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ การขยายศักยภาพด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล เพื่อสร้างจุดยืนในฐานะผู้นำด้านช่องทางตัวแทนและการขายผ่านช่องทางธนาคาร และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ ๆ ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นปัจจัยที่ดึงดูดลูกค้าใหม่ที่ไม่ได้เป็นลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ของพรูเด็นเชียลแต่เดิมกว่า 2.5 ล้านรายในปี 2564 และเป็นปัจจัยที่เพิ่มฐานลูกค้าของเราเป็น 18.6 ล้านราย (จาก 17.4 ล้านรายในปี 2563 โดยไม่นับรวมแจ็คสัน) โดยจำนวนกรมธรรม์ของธุรกิจใหม่ที่ขายให้แก่ทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3.9 ล้านกรมธรรม์ คิดเป็นร้อยละ 16 และอีก 109,000 กรมธรรม์ซึ่งขายให้แก่ลูกค้าโดยตรงผ่านช่องทางดิจิทัล รวมถึง Pulse ในจำนวนนี้ กว่า 2.2 ล้านกรมธรรม์เป็นกรมธรรม์ประกันสุขภาพและความคุ้มครอง ซึ่งสะท้อนถึงความเอาใจใส่ในสุขภาพที่มากยิ่งขึ้นของลูกค้าในช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาด
“นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลยังได้ดำเนินการวางตำแหน่งทางกลยุทธ์ใหม่เสร็จสมบูรณ์ เพื่อมุ่งเน้นการทำธุรกิจเฉพาะในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา โดยในไตรมาสที่ 4 เราประสบความสำเร็จในการระดมทุนผ่านการขายหุ้นสามัญในฮ่องกงเป็นจำนวน 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในเดือนธันวาคม 2564 และมกราคม 2565 กระแสเงินสดที่ได้จากการออกหุ้นสามัญนี้ได้นำมาใช้ในกระบวนการลดภาระหนี้จำนวน 2.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้ บวกกับภาระดอกเบี้ยที่ลดลง เป็นปัจจัยที่ยกระดับความคล่องตัวทางการเงินของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล ส่งผลให้สามารถขยายโอกาสการลงทุนเพื่อการเจริญเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกาได้มากยิ่งขึ้น
“เราก้าวเข้าสู่ปี 2565 ด้วยงบดุลการเงินและสถานะเงินทุนที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม การเปิดชายแดนฮ่องกงยังคงไม่มีกำหนดที่แน่นอน และโรคโควิด-19 จะยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่องต่อไป นอกจากนี้ ปัญหาความขัดแย้งในยูเครนอาจจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อสภาพเศรษฐกิจและตลาดโลก รวมไปถึงความสัมพันธ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจแบบหลากหลายช่องทาง และการมุ่งเน้นด้านธุรกิจที่มีคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติการทางธุรกิจ จะเป็นหัวใจสำคัญในการรับมือกับปัจจัยผันผวนภายนอกที่อาจส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ เรามีความมั่นใจว่า การลงทุนในธุรกิจใหม่ของเรา รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะยังคงตอบสนองความต้องการของลูกค้าของเรา และสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว”
สรุปผลการดำเนินงาน |
2564 ล้านเหรียญฯ |
2563 ล้านเหรียญฯ |
Change on AER basis3 |
Change on CER basis3 |
กำไรจากธุรกิจใหม่ จากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง1,4 |
2,526 |
2,201 |
15% |
13% |
ส่วนเกินทุนจากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง1,8 |
2,071 |
1,888 |
10% |
7% |
กำไรจากการดำเนินงานที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว จากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง1,5 |
3,233 |
2,757 |
17% |
16% |
กำไรตามมาตรฐานบัญชี IFRS หลังหักภาษี จากการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง1 |
2,214 |
2,468 |
(10)% |
(12)% |
กำไร (ขาดทุน) ตามมาตรฐานบัญชี IFRS ในช่วงระยะเวลาภายหลังการลดค่าของแจ็คสันสู่มูลค่ายุติธรรม |
(2,813) |
2,185 |
n/a |
n/a |
|
|
|
|
|
|
31 ธ.ค. 2564 |
31 ธ.ค. 2563* |
||
|
สุทธิ |
ต่อหุ้น |
สุทธิ |
ต่อหุ้น |
ส่วนของผู้ถือหุ้น ตามมาตรฐานบัญชียุโรป |
$47.4bn |
1,725¢ |
$54.0bn |
2,070¢ |
ส่วนของผู้ถือหุ้น ตามมาตรฐานบัญชี IFRS |
$17.1bn |
622¢ |
$20.9bn |
800¢ |
* นับรวมแจ็คสัน แต่หากไม่รวมในส่วนของผู้ถือหุ้น ตามมาตรฐานบัญชียุโรปจะมีมูลค่า 41.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ (1,607 เซนต์ต่อหุ้น) และส่วนของผู้ถือหุ้น ตามมาตรฐานบัญชี IFRS คิดเป็น 12.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564
Change on AER basis – เปลี่ยนแปลงในด้านอัตราเทียบเท่ารายปี
Change on CER basis – เปลี่ยนแปลงในด้านอัตราเทียบเท่าคูปอง
นายโรบิน สเปนเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียลเล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย และให้ความสำคัญกับประเทศไทยในฐานะตลาดหลักที่มีการเติบโตสูง โดยมีการลงทุนต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ เป้าหมายของเราในการส่งมอบผลิตภัณฑ์การออมและสุขภาพ เป็นปัจจัยในการเติบโตแบบก้าวกระโดดของพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ซึ่งผมมีความภูมิใจเป็นอย่างมาก
เป้าหมายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้และมีความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้าถึงได้ และในราคาที่ย่อมเยา เป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตของธุรกิจในปี 2564 และเราให้คำมั่นว่า จะทำตามเจตนารมณ์ที่เราตั้งไว้ให้มากยิ่งกว่าเดิมในปี 2565 นี้
การลงทุนเพื่ออนาคตในแพลตฟอร์มสุขภาพด้านดิจิทัลของเราอย่างแอปพลิเคชัน “Pulse by Prudential” คือข้อพิสูจน์ในคำมั่นสัญญาของเรา เพราะแอปฯ สามารถใช้งานได้ฟรี และได้รับการดาวน์โหลดแล้วมากกว่า 3.1 ล้านครั้งในประเทศไทย โดยในปีนี้ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อการดูแลสุขภาพของผู้หญิง ซึ่งจะสอดคล้องกับการการวางจุดยืนของแบรนด์ในการเสริมสร้างพลังให้แก่ผู้หญิงในสังคมไทย”
หมายเหตุ