ช่องโหว่ทางกฎหมายนับเป็นเรื่องสำคัญที่ภาครัฐ และ เอกชนต้องพยายามอุดรูรั่วเหล่านี้ เพื่อไม่เปิดโอกาสให้กับ กลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จ้องทำลายวงการธุรกิจ ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบ การหลายบริษัท ต่างเห็นพ้องว่ากฎหมายขายตรงที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ ยังมีช่องโหว่ ซึ่งเรื่องนี้ต้องได้รับการแก้ไข
นางปราณี พุทธิพิพัฒน์ขจร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ยูนิไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า การแก้ไขกฎหมายขายตรงถือเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจเครือข่ายของประเทศชาติ เพราะจะทำให้สอดคล้อง กับธุรกิจยุคสมัยใหม่ โดยทุกวันนี้ธุรกิจทุกอย่างก็พัฒนาไปมาก มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยหลายช่องทาง
"การที่เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ย่อมมีผลดีและผลเสีย ตามมา อย่างที่เห็นคงเป็นกลุ่มคนที่ไม่หวังดี ที่ทำให้บุคคลอื่นๆ เสียหายต้องตกเป็นเหยื่อหลายราย โดยหากการแก้ไขกฎหมายขายตรงเกิดขึ้นจริง ก็ต้องปรับให้เข้ากับยุคนี้ เพราะธุรกิจขายตรงมีมูลค่าการตลาดมหาศาล" นางปราณี กล่าว
ปัจจุบันบริษัทขายตรงในประเทศไทยมีจำนวนมาก มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ทำให้มาตรฐานการจ่ายผลตอบแทน ก็จะต้องชัดเจน และจะเห็นบ่อยๆ ว่า ทำไมนักลงทุนหลายรายต้องผิดหวังกับบริษัทที่จ่ายเงินไม่ตรงเวลา บางทีก็ปิดบริษัทหนีหายไป เลยก็มี แต่ก็ไม่สามารถเรียกร้อง อะไรกับบริษัทนั้นได้ เพราะกฎหมายก็ยังครอบคลุมไม่หมด ทำให้มีช่องโหว่ที่ทำให้คนทำผิดใช้หาผลประโยชน์ตลอดทุกครั้ง
ขณะที่ตลาดการค้าเสรีที่กำลังจะเกิดขึ้นปี 2558 ซึ่งเมื่อ ถึงวันนั้นคงจะวุ่นวายพอสมควร เพราะจะมีนักลงทุนหลั่งไหล เข้ามาในประเทศไทย เพื่อมาทำงานและลงทุนทำธุรกิจ จึงจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการ หรือรีบปรับกฎหมายให้ควบคุมดูแลให้ทั่วถึง เพราะปัญหามีแน่ แต่จะเอาอยู่แค่ไหน ก็อีกเรื่องหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม หากมีกฎกติกาเข้มแข็ง มีศักยภาพเพียงพอก็จะนำไปสู่ประโยชน์ต่อธุรกิจขายตรงเป็นอย่างมาก และยังเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศชาติด้วย ซึ่งเป็น การยกระดับธุรกิจขายตรงให้ดูดีขึ้นเพราะภาพลักษณ์ในปัจจุบันต้องยอมรับว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร จากคนที่เข้ามาฉวยโอกาสหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ดังนั้น หากมีกฎเกณฑ์ที่ดีควบคุมได้ ก็จะป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ และทำให้นานาประเทศที่ยังไม่มีความรู้เรื่องขายตรง ก็จะนำกฎหมายของ ประเทศไทยไปเป็นแบบอย่าง