ขายตรงฟื้นเด้งรับ คสช. ปลื้มไร้เหตุร้องเรียนศูนย์ 1166

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ขายตรงฟื้นเด้งรับ คสช. ปลื้มไร้เหตุร้องเรียนศูนย์ 1166


ตลาดขายตรงฟ้าหลังฝนกลับมาคึกคักอีกครั้งหลัง คสช.เข้าบริหารประเทศ หลายค่ายเร่งโหมอัดการตลาดพร้อมชูโปรโมชั่นช่วงครึ่งปีหลังหวังปั๊มยอดขายตามเป้า ขณะที่ สคบ.ชี้ผลกระทบที่ผ่านมาเป็นเพียงระยะสั้นๆ ปลื้มสุดๆ หลังไร้เหตุร้องเรียนศูนย์ 1166 เชื่อนักธุรกิจเริ่มปรับตัวและเข้าใจแนว ทางการทำธุรกิจขายตรงมากขึ้น
ร้อยตรีไพโรจน์ คนึงทรัพย์ ผู้อำนวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สคบ. เปิดเผยกับ “สยามธุรกิจ” ว่า วิกฤติการเมืองช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมาคงไม่มีใครปฏิเสธว่าส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างรุนแรงโดยเฉพาะกับธุรกิจขายตรง แต่หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจการบริหารประเทศ ส่งผลทำให้ค่ายขายตรงทั้งไทยและเทศกลับมาคึกคักกันอีกครั้ง เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังหลายค่ายคงเน้นด้านการตลาดพร้อมกับอัด โปรโมชั่นใหม่ๆ เพื่อหวังโกยยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง
ขณะที่ในส่วนของบทบาทสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ผู้อำนวยการกอง เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สคบ. กล่าวว่า สคบ.ยังคงดำเนินการตาม นโยบายเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด โดยจะพยายามเร่งพัฒนาให้ธุรกิจขายตรงมีมาตรฐานสากลเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดเออีซีในปี 2558 ที่กำลังจะ มาถึงในปีหน้า
“การที่ คสช.เข้ามาบริหารประเทศ ในส่วนของธุรกิจขายตรงไม่ได้รับผล กระทบแต่อย่างใด เพราะสินค้าสามารถซื้อขายได้ตลอด แต่ในช่วงที่มีประกาศเคอร์ฟิวก่อนหน้านี้อาจกระทบในเรื่องของการเดินทางของนักขายอิสระ รวมถึงบริษัทเครือข่ายต่างๆ แต่ก็ยังแก้ไขประคับประคองจนผ่านมาได้”
ขณะที่ปัญหาการร้องเรียนจาก ผู้บริโภคไม่มีการร้องเรียนมายัง “ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน สคบ.1166” เลยแม้แต่รายเดียวไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้านี้ที่มีการประกาศเคอร์ฟิว หรือเวลานี้ทาง เจ้าหน้าที่ สคบ. ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียน เลย แสดงให้เห็นว่านักธุรกิจทุกภาคส่วนเริ่มปรับตัวและเข้าใจแนวทางการทำธุรกิจมากขึ้น ประกอบกับกรอบนโยบายที่ทาง สคบ. ได้กำหนดออกมาก็ดีอยู่แล้ว อาจจะมีการปรับและพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น
“ผมมองว่าเป็นจังหวะดีที่คนจะกลับมาให้ความสนใจกับธุรกิจมากขึ้น นักธุรกิจจะหันมาให้ความสำคัญกับการทำงานอย่างเต็มร้อย แข่งขันกันอย่างยุติธรรม หากใครทำผิดกฎหมายก็มีบทลงโทษอยู่แล้ว โดยสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายน่าจะเป็น ทางออกให้กับธุรกิจขายตรงได้เริ่มต้น ขับเคลื่อนตัวเองใหม่ในทิศทางที่ดีขึ้น เป็นโอกาสที่จะได้โฟกัสธุรกิจมากขึ้น และยังส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศชาติดีขึ้นตามไปด้วย”
ขณะที่การตั้งคณะอนุกรรมการ หรือ องค์กรอิสระมาทำงานร่วมกันในธุรกิจเครือข่าย “ร้อยตรีไพโรจน์” กล่าวต่อว่า จากที่มีการประชุมเรื่องนี้ไป 2 รอบ ตอนนี้เหลือแต่ผลสรุปว่าจะใช้กลไกอะไรในการทำงานเท่านั้น เพราะการสร้างองค์กรขึ้นมาเพื่อเป็นจุดรวมของขายตรงและตลาดแบบตรงให้มีความเข้มแข็งและสามารถดูแลกันเองได้ จะต้องละเอียดและรอบคอบไม่ใช่จะกำหนดหลักเกณฑ์และทำได้ยาก แบบนี้ก็ไม่มีประสิทธิภาพ หากกำหนดกลไกที่ขับเคลื่อนทุกภาคส่วนได้สามารถทำงานร่วมกันได้จริง เมื่อทุกอย่างลงตัว ภาครัฐเองก็จะถอยตัวเองออกมาเป็นผู้กำกับและส่งเสริม


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ