“เอปสัน” เผย ตลาดไอทีไม่โตติดลบ 3 % ชู กลยุทธ์ 5Ss รุกเดินหน้าธุรกิจปีนี้ ปั้นยอดโตมากกว่า 10%

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2565

 “เอปสัน” เผย ตลาดไอทีไม่โตติดลบ 3 % ชู กลยุทธ์ 5Ss รุกเดินหน้าธุรกิจปีนี้ ปั้นยอดโตมากกว่า 10%


นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับภาพรวมตลาดไอทีปีที่ผ่านมาถ้าในแง่ของยูนิตไม่มีการเติบโตแถมติดลบราว 3% ส่วนแง่เวลูโตขื้น 21 % โดยสินค้าที่เติบโตที่ดีสุดได้แก่ แท็บเล็ตซึ่งเติบโตมากกว่า 40 % เนื่องมาจากอานิสงค์ของโควิด-19 ที่หันมาจากการทำงานที่บ้านมากขึ้น ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องนำอุปกรณ์ไอทีเข้ามาช่วยในการใช้ชีวิต ในการทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ ทำงาน , เรียนออนไลน์  เป็นต้น  ในส่วนของผลประกอบการในปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น 9% ซึ่งมาจากการเติบโตของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังของ 2564 เอื้อต่อการขยายตัวของธุรกิจ ทั้งการลงทุนของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นตามวัฏจักรการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและไทย  เป็นต้น

ในส่วนของบริษัทฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการขยายทีมขายและทีมบริการลูกค้า B2B ในกรุงเทพและต่างจังหวัด และทีมพิเศษที่เน้นเจาะลูกค้าองค์กรญี่ปุ่น โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรม ทั้งยังได้เพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะตลาด B2B และได้ฝึกอบรมตัวแทนเดิมให้สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาด B2B ได้ ในด้านการขาย บริษัทฯ ได้ใช้ช่องทางออนไลน์เข้ามาสนับสนุนการขายลูกค้าองค์กรธุรกิจ ทั้งกลุ่มเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญ เอปสันยังคงนำเข้าสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ส่วนการตลาด ได้มีการจัดกิจกรรมออนไลน์และออฟไลน์มากกว่า 200 กิจกรรม เพื่อเข้าถึงลูกค้าใหม่มากขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทระบบแท็งค์ เอปสันยังรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดได้ ด้วยส่วนแบ่งตลาด 46% ในด้านมูลค่า และ 43% ในด้านจำนวนเครื่องที่ขายได้ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 18% นอกจากนี้ ในกลุ่มเครื่องถ่ายเอกสารอิงค์เจ็ทระบบหมึกความจุสูง ยังขายเครื่องได้เพิ่มขึ้น 30% ส่วนในกลุ่มเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ได้แก่ เครื่องพิมพ์ฉลากที่เติบโตมากที่สุดที่ 63% ตามมาด้วยเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา ที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว เพราะทั้งศูนย์การค้า ร้านค้า และธุรกิจต่างๆ เริ่มกลับมาทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและรีโนเวทหน้าร้านมากขึ้น เติบโต 21% ต่อมาในส่วนของโปรเจคเตอร์ธุรกิจฟื้นตัวกลับมาโตที่ 11%  ส่วนหนึ่งมาจากการที่สถาบันการศึกษา บริษัท และหน่วยงานต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดดำเนินงานอีกครั้ง

นอกจากนี้ ในกลุ่มโฮมโปรเจคเตอร์ก็มีสัญญาณที่ดี เพราะในช่วงโควิด มีลูกค้าจำนวนมากที่หันมาลงทุนทำโฮมเธียเตอร์ระดับไฮเอนด์ ซึ่งเอปสันเริ่มมีสินค้าใหม่เข้ามารองรับตลาดกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นแล้ว สุดท้ายคือผลิตภัณฑ์หุ่นยนต์แขนกล ซึ่งในปี 2564 มียอดขายเติบโตขึ้นมากกว่า 60% โดยลูกค้าหลักยังอยู่ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น

นายยรรยง กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางธุรกิจในปีงบประมาณ 2565 ของเอปสัน ประเทศไทยในปีนี้ ตลาดไอทียังอยู่ท่ามกลางหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวค่อนข้างมาก ทั้งสถานการณ์โควิดที่ยังแพร่ระบาดอยู่ทั่วโลก และโรงงานชิปเซมิคอนดักเตอร์ไม่สามารถผลิตป้อนได้ทันตามการเติบโตของดีมานด์ที่พุ่งสูงขึ้น บวกกับภาวะขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งยังเกิดสงครามที่ยูเครน ซึ่งกระทบกระเทือนเศรษฐกิจไทย ทำให้ค่าน้ำมันและภาวะเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงจีดีพีของประเทศอาจจะมีการปรับลดลงอีกประมาณ 1% ปัจจัยเหล่านี้รบกวนระบบซัพพลายเชนทั่วโลก ทำให้กระบวนการผลิตสินค้าหลายรายการชะลอตัว ต้นทุนจากการผลิตและขนส่งปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่ภาคเอกชนมีแนวโน้มที่จะปรับลดการใช้จ่ายและการลงทุนใหม่

อย่างไรก็ตาม เอปสันต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้น พร้อมกับวางกลยุทธ์ที่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุดสำหรับปี 2565 โดยกำหนดแผนกลยุทธ์ผสานจุดแข็งทุกด้าน ขับเคลื่อนธุรกิจเดินหน้าฝ่ายุคโควิด ภายใต้จุดแข็งดังกล่าวที่รวมกันเป็นส่วนผสมของความสำเร็จ หรือ 5Ss ประกอบด้วย Smart technology, Simple start, S-curve trend, Service excellence และ Sustainable value”  อาทิ จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในทุกกลุ่มมากกว่า 20 รุ่นตลอดทั้งปี , เตรียมจะออกโมเดลธุรกิจใหม่ๆ อาทิ บริการให้เช่าเครื่องโปรเจคเตอร์ ซึ่งเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการการบริการดูแลและบำรุงรักษา แต่ไม่ต้องการเก็บเครื่องเป็นทรัพย์สินของบริษัท และไม่ต้องการจ้างพนักงานประจำสำหรับดูแลซ่อมเครื่อง ,ซึ่งเอปสันมีแผนที่จะนำ PaperLab เครื่องรีไซเคิลกระดาษแบบแห้งเข้ามาทำตลาดในไทยเร็วๆ นี้ และ เตรียมเปิดตัวหุ่นยนต์แขนกลเพิ่มขึ้น เช่น รุ่น T-B Series Scara Robot เป็นต้น โดยปีนี้เราตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มมากขึ้นกว่า 10%  เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ