“แอสเซท โปรฯ-APM” ปรับทัพรองรับการเติบโต-สู่ความยั่งยืนไปพร้อมกับตลาดทุน ตั้งเป้าเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3-5 ปี เตรียมตั้ง APM Academy ปั้นบุคลากรรองรับธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน(FA) พร้อมแตกไลน์เป็นที่ปรึกษาออกเหรียญดิจิทัล-สยายปีกต่างประเทศรุกกลุ่ม CLMV พาเข้าตลาดหุ้นไทย เผยงาน FA ในมือกว่า 20 บริษัท ส่งเข้าเทรดปีนี้ 3-4 บริษัท
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ APM เปิดเผยว่า บริษัทปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เพื่อรองรับการเติบโต และสร้างองค์กรสู่ความยั่งยืนในอนาคตควบคู่ไปกับการเติบโตของตลาดทุนไทย ด้วยการพัฒนาบุคลากรที่มีความพร้อม มีประสบการณ์ และทำงานอย่างเป็นมืออาชีพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย มีความซับซ้อนในเชิงธุรกิจมากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งมีการนำเสนอนวัตกรรมและเครื่องมือทางการเงินแบบใหม่ที่ทันสมัย เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมการลงทุนและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เสมือนเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจที่พร้อมเดินเคียงข้างไปกับลูกค้า เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายสูงสุดของลูกค้าได้
บริษัทยังมีแผนจะจัดตั้ง APM Academy เพื่อเป็นสถาบันฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรที่ประกอบวิชาชีพที่ปรึกษาทางการเงิน ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ ให้มีความรู้ความสามารถ รู้เท่าทันสถานการณ์โลกการลงทุนในทุกรูปแบบ โดยจะพัฒนาหลักสูตรที่ปรึกษาทางการเงินร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินในอนาคตอย่างเป็นระบบ
นอกจากการพัฒนาบุคลากรให้สอดรับการสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว APM ยังเตรียมจัดสรรบุคลากร เพื่อรองรับการขยายงานด้านที่ปรึกษาทางการเงินไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีความพร้อมและศักยภาพ ภายใต้กฎเกณฑ์การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งในรูปแบบ Dual-listed Company และ Secondary Listing Company ซึ่งถือว่าจะเป็นประโยชน์ ทั้งในด้านการเพิ่มปริมาณหลักทรัพย์ รวมทั้งการเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Capitalization) จนทำให้ตลาดหุ้นไทยมีมูลค่าที่สูงขึ้นและเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุน อีกทั้งจะทำให้ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นศูนย์กลางการระดมทุนของบริษัทในกลุ่ม CLMV ได้ในอนาคต
“APM ถือเป็นองค์กรที่มีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งขับเคลื่อนภาคธุรกิจให้สามารถแข็งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ APM มีการพัฒนาองค์กรและบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความยั่งยืน และเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา รวมไปถึงการผลักดันธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงินให้กับกลุ่มประเทศ CLMV จนทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็นศูนย์กลางการระดมทุนระดับภูมิภาค” ดร.สมภพ กล่าว
ด้านนายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ตั้งเป้านำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้ หลังจากที่ได้มีการปรับแผนองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
โดยปัจจุบันมีงานที่ปรึกษาการเงิน (FA) เพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนทั้ง SET และ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) รวมกว่า 20 บริษัท คาดเข้าซื้อขายในปีนี้ 3-4 บริษัท ซึ่งล่าสุดได้ยื่นไฟลิ่งเพิ่มไปอีก 1 บริษัท ได้แก่ "เจริญอุตสาหกรรม (CH)" และจะทยอยยื่นไฟลิ่งต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี
ขณะที่ล่าสุดบริษัทมีความพร้อมการเป็นที่ปรึกษาให้กับกลุ่มลูกค้าประเภทสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ต้องรอความชัดเจนจากหน่วยงานที่กำกับดูแลเกี่ยวกับกฎหมายและกฎเกณฑ์ต่างๆ
ทั้งนี้ปัจจุบันมีลูกค้าที่มีความต้องการที่จะออกและเสนอขาย Utility token ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำดีลจำนวน 1 โครงการ ซึ่งลูกค้าเป็นกลุ่มธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ และคาดว่าจะมีเข้ามาเพิ่มอีก 1-2 ดีลในปีนี้
ส่วนงานในกลุ่มประเทศ CLMV หลังจากที่ได้มีการจัดตั้งสำนักงาน "APM ลาว" และ "APM กัมพูชา" จึงมีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการนำบริษัทจากต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งในรูปแบบ Dual-listed และ Primary Listing
นอกจากนี้บริษัทได้มีส่วนร่วมให้กลุ่ม Start Ups และ SMEe เพื่อเข้าถึงการระดมทุนในกระดาน 3 หรือ Live Exchang ซึ่งถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของกลุ่มดังกล่าว และถือเป็นโอกาสในการรองรับกลุ่มลูกค้าประเภท Private Equity ที่บริษัทจะมุ่งเน้นในปีนี้