ผลประกอบการทรุด!! ปิดตำนาน ‘สุพรีเดอร์ม’

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ผลประกอบการทรุด!! ปิดตำนาน ‘สุพรีเดอร์ม’


ช็อก!! ประวัติศาสตร์ขายตรงไทย “หมอมั่น” ประกาศ สนง.MLM “สุพรีเดอร์ม” หลังผลประกอบการทรุดต่อเนื่อง ยอดขายปี 56 ร่วงหลายเท่าตัว เหลือ 370 ล้าน ยุติตำนานแบรนด์เก่าแก่ 27 ปี สร้างความตะลึง! ให้สมาชิกและผู้บริหารมึนตึ้บไปตามๆ กัน เผยเตรียมเทียบโอนย้ายผู้นำสมาชิกร่วมก๊วน “กิฟฟารีน” พร้อมผลิตสินค้าป้อนเต็มสูบ
หลังจาก “หมอมั่น” พ.ต.ท.น.พ.มั่น อุดมพาณิชย์ ประธานกรรมการ บริษัท สุพรีเดอร์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ช็อกวงการธุรกิจเครือค่ายด้วยการออกมาประกาศปิดกิจการอย่างเป็นทางการ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2557 เนื่องจากบริษัทประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก จนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แม้ว่าจะมีการพยายามปรับตัวรองรับมาโดยตลอด
ส่วนการที่ “หมอมั่น” ตัดสินใจปิดกิจการครั้งนี้ สร้างความตะลึงให้กับสมาชิกและผู้บริหารในค่ายเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา “สุพรีเดอร์ม” ได้จัดงานประดับเข็มเกียรติยศให้กับนักธุรกิจ ที่หอประชุมกองทัพเรือ รวมถึงการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่อย่าง “ก้อง-สหรัถ” ที่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับเครื่องดื่มสมุนไพร “ปัณจะ ภูตะ” ที่เซ็นสัญญาไปเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2557 โดยมีเงื่อนไขสัญญามีระยะเวลา 1 ปี หรือถึงวันที่ 30 เมษายน 2558
ขณะที่ศูนย์สาขาของ “สุพรีเดอร์ม” ทั่วประเทศจะปิดกิจการทั้งหมด พร้อมกับจ่ายค่าชดเชยให้กับพนักงาน โดยสมาชิกสามารถแจงยอดและซื้อสินค้าทั้งหมดได้ภายในวันที่ 15 กรกฎาคม 2557 จากนั้น จะมีการเทียบโอนย้ายรหัสสมาชิกและผู้ที่สมัครใจไปอยู่กับบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ “หมอต้อย” น.ต.พญ.นลินี ไพบูลย์ ในส่วน โรงงานผลิตสินค้าของ “สุพรีเดอร์ม” นั้น จะยังคงให้ “หมอมั่น” ทำหน้าที่บริหารงานเช่นเดิม ซึ่งจะเปลี่ยนบทบาทมาดูแลและผลิตสินค้าป้อนให้กับ “กิฟฟารีน” แทน
หากย้อนไปก่อนหน้านี้ “สุพรีเดอร์ม” ได้มีการปรับแผนการตลาดครั้งใหญ่ในปี 2553 จาก “สแตร์สเต็ป” มาเป็น “ไบนารี่” เพื่อให้บริษัทสามารถเดินหน้าและแข่งขันกับค่ายขายตรงอื่นๆ ได้ แต่ก็ยังไม่ ทำให้บริษัทมีแนวโน้มดีขึ้น และปี 2554 บริษัทก็ต้องปรับแผนการตลาด มาใช้รูปแบบเดิม แต่สุดท้ายก็ยังต้อง แบกรับภาระการขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุสำคัญในการปิดกิจการครั้งนี้ “หมอมั่น” ได้พิจารณาจาก Potential ทางการตลาด และเงื่อนไข ที่ทางบริษัทได้ตั้งไว้ ซึ่งผลประกอบการของ “สุพรีเดอร์ม” ในช่วง 5 ปีหลังนับตั้งปี 2552-2556 บริษัทมีมีกำไรที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2552 บริษัทมีกำไร 107.90 ล้านบาท ปี 2553 กำไรลดลงเหลือเพียง 74.99 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2554 บริษัทมีกำไรขยับเพิ่มขึ้นมาเป็น 87.77 ล้านบาท แต่มาในปี 2555 กำไรลดลงเหลือเพียง 20.15 ล้านบาท และในปี 2556 ที่ผ่านมาบริษัทมีกำไร 30.29 ล้านบาท
ซึ่งในช่วง 2 ปีล่าสุด บริษัทมียอดขายลดลงอย่างมาก โดยปี 2555 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 439.61 ล้าน มาจากการขาย 434.94 ล้าน รายได้จากการบริการ 3.42 ล้าน และรายได้อื่น 1.24 ล้าน ส่วนในปี 2556 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 373.80 ล้าน โดยมาจากการขาย 369.46 ล้าน รายได้จากการบริการ 2.63 ล้าน และรายได้อื่น 1.71 ล้าน
ทางด้าน นายศอลหลี บูเต็ม นักธุรกิจเครือข่ายระดับตำแหน่ง “นพรัตน์” จาก “สุพรีเดอร์ม” ถือเป็นผู้นำระดับต้นๆ ของบริษัท ที่เทียบโอนย้ายไปอยู่ตำแหน่ง “พาราไดซ์” กล่าวว่า “ตอนแรกรู้สึกตกใจมากที่ได้ทราบข่าวการปิดตัวลงของบริษัท แต่เวลานี้ก็คงต้องเดินหน้าลุยต่อ เพราะได้ปรึกษากับทีมงานและทุกคนพร้อมใจจะไปทำงานร่วมกับ บ.กิฟฟารีนฯ ซึ่งสมาชิกทุกคนจะเริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2557 เป็นต้นไป ส่วนแผนการตลาดของ “สุพรีเดอร์ม” กับ “กิฟฟารีน” มีการจ่ายผลตอบแทนใกล้เคียงกัน เพราะเป็นแบบแผน “สแตร์สเต็ป” ทำให้สมาชิกไม่สับสนสามารถทำงานได้เลย เพียงแค่มาปรับและศึกษาทำความเข้าใจบางอย่างเท่านั้น”
ส่วนทาง นายศุภชาติ อังคสุวรรณศิริ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ออร์กาโน่ โกลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า รู้สึกใจหายสำหรับตำนานที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทขายตรงที่มีประวัติมายาวนาน แต่ก็เรื่องที่เข้าใจได้ เพราะว่าทุกธุรกิจก็จะมีเรื่องของวัฏจักรของธุรกิจเอง ซึ่งสุพรีเดอร์มเองก็ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน และมีการปรับแผนตลาดมาเป็นไบนารี่ แต่ก็ต้องเคารพการตัดสินใจครั้งสำคัญของเจ้าของธุรกิจที่ต้องการยุติบทบาทตรงนี้
โดยการที่ “สุพรีเดอร์ม” ไปร่วมกับ “กิฟฟารีน” นั้น ถือว่าเป็นการผสมผสานกันที่ลงตัว เพราะสองบริษัทนี้ถนัดคนละแบบ โดย “หมอมั่น” มีโรงงานผลิตและมีความเชี่ยวชาญเรื่องของการผลิตสินค้า ส่วน “หมอต้อย” เก่งในเรื่อง การตลาด ทำให้เป็นจุดแข็งและเป็น การเสริมให้กับ “กิฟฟารีน” ครบเครื่องขึ้นไปอีก
ทั้งนี้ “สุพรีเดอร์ม” ได้ก่อตั้ง ขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2530 โดย พ.ต.ท.น.พ.มั่น อุดมพาณิชย์ และจดทะเบียนวันที่ 7 มิถุนายน 2534 โดยทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 120,000,000 บาท ซึ่งได้ดำเนินรูปแบบธุรกิจขายตรงจนเข้าสู่ปีที่ 27 ปัจจุบันมีศูนย์สาขากระจายอยู่ ทั่วประเทศ 93 แห่ง และได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มความงาม, กลุ่มสินค้าในครัว-เรือน, กลุ่มการเกษตร, กลุ่มสุขภาพ, กลุ่ม Herbal Fresh และกลุ่มเวย์โปรตีนเข้มข้น


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ