รฟท. เคลียร์ประเด็นรัฐเสียเปรียบเอกชนคู่สัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2565

รฟท. เคลียร์ประเด็นรัฐเสียเปรียบเอกชนคู่สัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน


สกพอ. ร่วม รฟท. เคลียร์ประเด็นรัฐเสียเปรียบเอกชนคู่สัญญาในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ย้ำดำเนินการอย่างรอบคอบ  

จากกรณีที่มีการแสดงความคิดเห็นกรณีการก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โดยระบุว่าภาครัฐเสียเปรียบเอกชนคู่สัญญาในหลายประเด็นด้วยกัน ส่งผลให้ สกพอ. ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลโครงการ และการรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าของโครงการ ขอชี้แจงในประเด็นต่างๆ ดังนี้ 

การโอนและชำระค่าบริหารแอร์พอร์ต เรลลิงก์ 

สกพอ. ชี้แจงว่า จากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และรุนแรง ถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้นภายหลังการลงนามสัญญาโครงการฯ ส่งผลให้รัฐต้องออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้ผู้โดยสารที่มาใช้บริการ ARL ลดลง จากเดิม 80,000 คนต่อวัน เหลือประมาณ 30,000 คนต่อวัน ส่งผลให้เกิดการขาดทุนค่าดำเนินการประมาณ 68 ล้านบาทต่อเดือน

โดยยังคงไม่มีแนวโน้มว่าผู้โดยสารจะกลับมาใช้บริการเช่นเดิม จากสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้สถาบันการเงินไม่สามารถให้เงินทุนกว่า 10,000 ล้านบาท แก่เอกชนคู่สัญญาเพื่อชำระค่าสิทธิให้ รฟท. ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการให้บริการประชาชน เพื่อไม่ให้บริการของ ARL สะดุดหรือหยุดลง รฟท. และเอกชนคู่สัญญาตกลงกันให้เอกชนคู่สัญญาสนับสนุนการเดินรถ ARL เท่านั้น ไม่ได้ให้สิทธิบริหารจัดการและไม่ได้เป็นการส่งมอบ ARL ให้เอกชนคู่สัญญาแต่อย่างใด ปัจจุบันรายได้จากค่าโดยสารยังเป็นของ รฟท. และเอกชนคู่สัญญาจะทยอยชำระค่าสิทธิให้รัฐไม่น้อยกว่า 1,067 ล้านบาทต่อปี

เมื่อมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและผลกระทบต่อการดำเนินงานของเอกชนคู่สัญญาสิ้นสุดลง รฟท. ก็จะได้รับชำระเงินค่าสิทธิ ARL ทั้งหมด พร้อมดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะส่งผลดีต่อผู้โดยสารที่ใช้บริการ ARL ได้อย่างต่อเนื่อง และ รฟท. ไม่ต้องแบกภาระการขาดทุนของ ARL  ทั้งยังได้รับค่าสิทธิ ARL ครบจำนวนอีกด้วย 

แจงกรณีการแก้ไขปัญหาทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทยจีน ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง 

ด้านการรถไฟแห่งประเทศไทย ชี้แจงว่า ได้เจรจาให้เอกชนคู่สัญญา เริ่มก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงบางซื่อถึงดอนเมือง ก่อนกำหนดในสัญญา นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มงานก่อสร้างทางวิ่งรถไฟไทย-จีน เพิ่มความเร็วการเดินรถไฟและเปลี่ยนมาตรฐานการออกแบบและก่อสร้างจากยุโรปเป็นจีน ส่งผลให้เอกชนคู่สัญญามีงานและค่าก่อสร้างเพิ่มจากสัญญาเดิม 9,207 ล้านบาท ซึ่งเอกชนต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าก่อสร้างดังกล่าว

โดยรัฐไม่ต้องเสียงบประมาณในส่วนนี้ ด้วยเหตุนี้ รฟท. จึงชดเชยงานและค่าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นของเอกชนคู่สัญญา ด้วยการปรับวิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน จากเดิมที่รัฐเริ่มชำระหลังงานก่อสร้างทั้งโครงการแล้วเสร็จ เป็นทยอยชำระระหว่างการก่อสร้างและให้เอกชนคู่สัญญาวางหลักประกันสัญญาเพิ่ม ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวทำให้ความเสี่ยงการกู้เงินของเอกชนคู่สัญญาลดลง ส่งผลให้เอกชนคู่สัญญาประหยัดค่าดอกเบี้ยลงซึ่งจะถูกส่งคืนกลับสู่รัฐทั้งหมด ทำให้รัฐประหยัดงบประมาณไม่น้อยกว่า 17,000 ล้านบาท จากการชำระเงินร่วมลงทุนที่น้อยลงและไม่ต้องจ่ายค่างานก่อสร้างส่วนที่เพิ่มขึ้นมา 9,207 ล้านบาท ที่สำคัญการแก้ปัญหาทับซ้อนช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง จะช่วยให้ทั้ง 2 โครงการสามารถเดินหน้าก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ตามกำหนด ประชาชนได้ประโยชน์จากบริการสาธารณะ และช่วยให้รัฐสามารถบริหารงบประมาณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ รฟท. ยังได้ทำหนังสือถึงสำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อหารือถึงประเด็นต่างๆ ที่ได้มีการเจรจากับคู่สัญญาว่าเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาและถูกต้องตามระเบียบ ข้อกฎหมายหรือไม่อีกด้วย เพื่อให้เกิดความละเอียดรอบคอบ รัดกุม

รฟท. ยืนยันว่า การดำเนินการต่างๆ นี้ เป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชนโดยรวม และ รฟท. มิได้เพิกเฉยต่อการบริหารงบประมาณ หรือข้อตกลงต่างๆ ที่ต้องเจรจากับเอกชนคู่สัญญา และพยายามดำเนินการในกระบวนการต่างๆ อย่างรอบคอบ โปร่งใส ตรวจสอบได้ ด้าน สกพอ. ที่ผ่านมาก็พยายามกำกับดูแลให้โครงการสามารถขับเคลื่อนได้โดยเร็ว และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติ



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ