Toggle navigation
วันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม 2568
หน้าแรก
ข่าวสาร
วิเคราะห์-บทความ-ต่างประเทศ
ประกัน
ยานยนต์
การเงิน-ธนาคาร
หุ้น-กองทุนรวม
อสังหาริมทรัพย์
พลังงาน-คมนาคม-โลจิสติกส์
อุตสาหกรรม-เออีซี-เอสเอมอี
ไอที
การศึกษา-กทม
การตลาด-ซีเอสอาร์
เกษตรยุคใหม่-ภูมิภาค
บันเทิง
ขายตรง
ประชาสัมพันธ์
PR NEWS -ข่าวประชาสัมพันธ์
ไลฟ์สไตล์
ท่องเที่ยว
แฟชั่นโซไซตี้-ดูดวง
ช๊อป-ชิม-ชิล
สุขภาพ-ความงาม
วิดีโอ-คลิปข่าว
E-Book
นสพ. สยามธุรกิจ
ติดต่อเรา
สามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ทางอีเมลล์ : siamturakijonlinenews@gmail.com และ สำหรับฝ่ายโฆษณา ทางอีเมลล์ : siamturakijadvertising@gmail.com
หน้าแรก
วิเคราะห์-บทความ-คอลัมน์
อายเขมร
อายเขมร
วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556
Tweet
สะบัดร้อนสะบัดหนาว : ณรงค์ ปานนอก
การเลือกตั้งในกัมพูชาที่ถูกฝ่ายค้านประท้วงหาว่า ไม่บริสุทธิ์ และไม่ยอมรับในชัยชนะของฝ่ายรัฐบาล จนกลายเป็นม็อบใหญ่และเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตไป 1 ราย
วิกฤติการเมืองที่นั่นทำท่าจะเป็น "กัมพูชาสปริง" ขึ้นมาอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งดูรูปการณ์แล้ว น่าจะเป็นกรณีศึกษาของฝ่ายค้านบ้านเราหยิบเอาไปประยุกต์เพื่อการต่อสู้ทางการเมืองมากกว่า
แต่ผิดคาด เมื่อนายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายฮุน เซน กลับใช้วิธีการนั่งโต๊ะเจรจา ทำให้บรรยากาศทางการเมืองผ่อนคลายลง จนรู้สึกเหมือนความขัดแย้งไม่อาจพัฒนาไปสู่ความรุนแรงแบบเมืองไทยหรืออาหรับได้
มองในเชิงเกมการเมือง นายฮุน เซน อาจรู้ดีว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาฝ่ายของตนเสียเก้าอี้ ส.ส.ในสนามเลือกตั้งมากที่สุด ขณะเดียวกันฝ่ายค้านก็ได้รับเลือกตั้งมาเป็นกอบเป็นกำจนถึงกับเชื่อว่าฝ่ายค้านถูกรัฐบาลโกงเลือกตั้งด้วยซ้ำ จึงเห็นท่าทีของนายฮุน เซน อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
สถานะของนายสม รังสี ที่เป็นฝ่ายค้านซึ่งมีความนิยมน้อยมากจนถูกกลั่นแกล้งให้ต้องหนีไปลี้ภัยอยู่ต่างประเทศในอดีต กับสภาวะปัจจุบันจึงเห็นความแตก ต่างเหมือนหน้ามือกับหลังมือ
นายฮุน เซน ยอมให้นายสม รังสี กลับเข้าประเทศได้ด้วยคิดว่านายสม คง "หมดเขี้ยวเล็บ" แล้ว เพียงแต่หาทางสกัดไม่ให้นายสม รังสี ลงเลือกตั้งโดยตรง แต่เป็นแกนนำแข่งขันในสนามเลือกตั้งฟากฝ่ายค้านได้...กระทั่งผลเลือกตั้งออกมาฝ่ายรัฐบาลต้องเสียวสันหลังเพราะเก้าอี้ ส.ส.ถูกแย่งไปเยอะมาก
นายฮุน เซน จึงไม่โง่พอที่จะใช้อำนาจแบบเผด็จการ หรือใช้อำนาจรัฐที่มีอยู่เต็มมือเข้าสลายพลังมวลชนของฝ่ายค้านแบบ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" จนอาจกลายเป็น "รัฐบาลมือเปื้อนเลือด" เหมือนบางรัฐบาลในบางประเทศที่เคยมีตัวอย่างมาแล้ว
ที่สำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติกัมพูชา คือมีอดีตที่ความคิดทางการเมืองแตกแยกขัดแย้งแบ่งเขมรออกเป็นหลายก๊ก และไล่ฆ่าล้างผลาญชนเผ่าเดียวกันล้มตายไปนับล้านคนมาแล้ว จนทั่วโลกกล่าวขานลือลั่นว่าเป็น "Killing field" และมีกองกำลังเขมรแดงที่โหดอำมหิตมาในอดีต
กองทัพไทยเราก็เคยเข้าไปพัวพันทั้งความขัดแย้ง และทั้งเป็นแกนในการสร้าง ความสามัคคีสลายกลุ่มให้เป็นสีเดียวมาจนสำเร็จแล้ว การเมืองของประเทศเพื่อน บ้านอย่างกัมพูชาจึงถือว่าได้ "ตกผลึก" ผ่านประสบการณ์เหล่านี้มามากกว่าการเมืองไทย
ทำให้เราได้เห็นพัฒนาการทางการเมืองของกัมพูชา แทนที่จะเข้าสู่โหมดของความเลวร้ายถึงขั้น "ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ" หรือถอยหลังไปสู่แดนมิคสัญญีเช่นอดีต กลับกลายเป็นเห็นบรรยากาศของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลที่ขัดแย้ง เป็นข้อตกลงที่ยอมรับกันได้ คือ จะยุติการใช้ความรุนแรงตามพระราชประสงค์ของกษัตริย์นโรดมสีหมุนี จะร่วมมือกันตั้งกลไกเพื่อปฏิบัติการเลือกตั้งให้ยุติ-ธรรม และทั้ง 2 ฝ่ายจะยึดมั่นการเจรจาแบบสันติวิธี
อาจเป็นเพราะประสบการณ์ในอดีต และสติสัมปชัญญะ ผสมผสานกับวุฒิภาวะของคนชั้นนำทางการเมืองของกัมพูชาได้พัฒนาไปเร็วกว่านักการเมืองบ้านเราก็ได้...แม้เราจะพอรู้ว่า นี่คือสัญญาณทางชั้นเชิงการเมืองของนายฮุน เซน อาจมีเลศนัยอีกหลายเกมที่ลึกลับ
แต่กัมพูชากลับเคยมีประสบการณ์การมีผู้นำ 2 ฝ่ายช่วยกันบริหารประเทศมาแล้ว
จะดีหรือไม่ดี ไม่รู้ แต่มันเป็นวิธีการประนีประนอมรูปแบบหนึ่ง ที่สามารถคลี่คลายสถานการณ์การเมืองของกัมพูชาให้รอดพ้นวิกฤติความขัดแย้งมาได้
อย่างน้อยก็ไม่เกิดสงครามกลางเมืองให้ไล่ล่าฆ่าแกงชนเผ่าเดียวกันย้อนกลับไปเหมือนในอดีตอีก
กัมพูชาจึงเป็นกรณีตัวอย่างทางการเมืองสำหรับเมืองไทยอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งคนไทยและนักการเมืองไทยบางกลุ่มกำลังพยายามสร้างสถานการณ์ให้การเมืองดึงอำนาจเผด็จการ หรือยั่วยุจะให้กองทัพออกมาตัดสินปัญหาด้วยรถถังหรืออาวุธ อันเป็นความล้าหลังของระบอบประชาธิปไตยไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของบ้านเมืองที่เจริญไปไกลโขแล้ว
แม้เราจะเชื่อมั่นในฝีมือของคนไทยด้วยกันว่า เจริญและมีวิวัฒนาการที่ดีกว่าหลายชาติอื่นในเอเชีย ร่ำๆ ว่าจะเป็น "เสือเศรษฐกิจ" ตัวใหม่ในภูมิภาคนี้มาก่อน แต่แล้วการเมืองบ้านเราลุ่มๆ ดอนๆ ฉุดรั้งให้ประเทศล้าหลังและพ่ายแพ้แก่เพื่อนบ้านไปทีละชาติสองชาติ...กระทั่งบางชาติที่ "โลว์เทค" กลับล้ำหน้ากว่าเราเสียด้วยซ้ำ
ไม่น่าเชื่อว่า ลาวใช้โทรคมนาคมระบบ 4G ไปก่อนไทย ขณะที่ไทยยังง๊องแง๊งทะเลาะกันด้วยผลประโยชน์ไม่ลงตัว และขัดแข้งขัดขากันเอง
เมื่อเห็นการเมืองที่ขัดแย้งของกัมพูชา ซึ่งไทยเราเคย "ปั้นมากับมือแท้ๆ" เล่นการเมืองอย่างมีสติ มีอำนาจต่อรองกว่าไทยในบางสถานการณ์ รวมถึงแก้ความ ขัดแย้งภายในคลี่คลายได้รวดเร็วอย่างนี้
นักการเมืองบ้านเรา ไม่รู้จักเขินอายกัมพูชา กันบ้างหรือครับ?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
The Associated Press
ภาษีบุหรี่: ความล่าช้า 4 หมื่นล้านบาทที่...
...
ภาษีบุหรี่ ค้างคา "แช่แข็ง" ไม่เดินหน้...
...
อะไรคือ ? โจทย์ใหญ่ กระทรวงการคลัง ที่มา...
...
ttb analytics มองเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็ง...
...
มาตรการ MPOWER เสาหลักกฎหมายควบคุมผลิตภั...
...
บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ
×
เว็บไซต์ “สยามธุรกิจ” ใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)
กดยอมรับ