โอภาศ สายใหม ประธานกรรมการ บริษัท ทีแอนด์วาย โกลบอล กรุ๊ป จำกัด  (T&Y GLOBAL GROUP Co., Ltd.)  ร่วมกับ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต โดย รศ.ดร.พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีวิทยาเขตภูเก็ต มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว โครงการ “ทีแอนด์วายเทรนนิ่งเดอะเทรนเนอร์

โปรเจ็ค”(T&Y Training The Trainer Project) ณ เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต เพื่อเป็นการฝึกอบรม ส่งเสริมอาชีพเทรนเนอร์ เพิ่มทักษะความรู้ ด้านมวย ด้านภาษา เสริมบุคลิกภาพ เพื่อไปทำงานกับฟิตเนสระดับมาตรฐานที่เมืองปักกิ่ง และหลายมณฑล ในประเทศจีน 

ผู้ที่อบรมจะได้รับการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจากคณะครูอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และเทรนเนอร์ครูมวยไทย จากบริษัททีแอนด์วายมวยไทยจำกัด และดารานักแสดงและผู้มีชื่อเสียงด้านสุขภาพ และได้รับใบประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต รับรองการประกอบอาชีพเทรนเนอร์

ภายในงานจัดให้มีการแสดงโชว์ศิลปะมวยไทย โดยดารานักแสดงระดับอินเตอร์ ครูไซม่อนกุ๊ก จากเรื่องยิบมัน และครูมวยสาวสวยนักกีฬามวยไทย เพชรพลอย ขวาท่อนซุง ร่วมด้วย ปอปอ ปภาวี เลขา  นางเอกภาพยนต์เรื่อง ภูเก็ตแดนเจอรัส  นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีการเปิดตัวเหล่าเทรนเนอร์ดังคน กุ๊กกิ๊ก กชกร ส่งแสงเติม , ปอนด์ โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์ และดารารับเชิญคนดัง อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์ ที่มาร่วมงานแถลงข่าวพร้อมมาสร้างบันดาลใจให้กับทุกคน

ด้าน โอภาศ สายใหม ประธานกรรมการ บริษัท ทีแอนด์วาย โกลบอล กรุ๊ป จำกัด ครูมวยไทยที่โด่งดังระดับโลก อดีตนักมวยไทยที่ไปชื่อที่จีนจนประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงโด่งดังในจีน และเปิดยิมภายใต้ชื่อ T&Y กว่า 30 สาขาในประเทศจีน นอกจากนั้นแล้วก็ยังได้รับเชิญให้ไปสอนมวยไทยทั่วโลก ก็ได้กล่าวถึงแรงบันดาลใจในการจัดโครงการนี้ว่า

“จุดประสงค์ของการก่อตั้งโครงการ ก็เพื่อต้องการส่งเสริมเด็กรุ่นใหม่ให้ได้รับโอกาสเหมือนที่ผมเคยได้รับโอกาส จึงร่วมกับม.อ.ภูเก็ต พัฒนาสร้างหลักสูตรการเป็นเทรนเนอร์โดยการเสริมทักษะมวยไทยเพื่อส่งเสริมอาชีพเทรนเนอร์ต่อไปและส่งเสริมศิลปะมวยไทยให้คงอยู่ต่อไป”

“ในด้านของธุรกิจค่ายมวย เราต้องการสร้างความแตกต่าง จากที่มีเทรนเนอร์คนจีน เปลี่ยนเป็นเทรนเนอร์คนไทย ก็เป็นจังหวะการสร้างอาชีพ มวยไทยก็ต้องคนไทย แต่คนที่จะมาเป็นเทรนเนอร์ได้จะต่อยเก่งอย่างเดียวไม่ได้ เพราะบางคนเก่งแต่ไม่ใช่จะสอนได้ เราจึงได้เปิดฝึกอบรมโครงการนี้ขึ้นมา”

“โดยจะเป็นการเสริมทักษะมวยไทย ไม่จำกัดเพศ  อายุ 22-35 ปี บุคลิคดี ดูแลเอาใจใส่สุขภาพร่างกายรักและชื่นชอบในการ ออกกำลังกาย จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิทยาศาตร์การกีฬา สาขาพลศึกษา และสันทนาการ หรือถ้าไม่จบด้านนี้ก็ต้องเป็นคนที่ชื่นชอบในการออกกำลังกาย โดยจะนำเอาหลักสูตรมวยไทยที่ถูกต้องใส่ไปให้เขา”

“ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจากโครงการ ต้องการไปทำงานที่จีนจะมีผลตอบแทนเงินเดือนขั้นต่ำ 45,000 - 50,000 บ. ไม่รวมรายได้พิเศษ สัญญาจ้าง 3 ปี สวัสดิการพนักงาน ฟรีที่พัก ฟรีอาหาร ฟรีค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ฟรี ประกันสุขภาพ ในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังแย่แบบนี้หลายๆ คนก็กำลังมองหาช่องทางการทำมาหากินใหม่ๆ โครงการนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับทุกคน ผมอยากจะบอกทุกคนว่า ขอให้ทุกคนอย่าท้อ ธุรกิจอาจเดินไม่ได้อย่างที่เราหวัง แต่เราก็ต้องอยู่ในเส้นทางถูกต้องที่ดี ไม่ทำอะไรที่แย่ลงกว่าเดิม แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ที่สำคัญเลยเราต้องมีจุดมุ่งหมาย ผมเป็นคนที่ชอบกำหนดเป้าหมาย เมื่อกำหนดแล้วก็จะเดินไปทางนั้นเลย อาจช้าหน่อยแต่เราต้องเดินในเส้นทางของมัน ถ้าไขว้เขวจะสำเร็จยาก และจะทำจนกว่าจะไม่ไหวจริงๆ ซึ่งที่ผ่านก็ไม่มีอะไรที่ไม่ไหว เพราะเรามีความอดทนและความมุ่งมั่น ไม่มีอะไรที่ไม่สำเร็จ”