อ.ต.ก.แจงข้าวเน่าโปร่งใสไม่กระทบเงินหลวง

วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2556

อ.ต.ก.แจงข้าวเน่าโปร่งใสไม่กระทบเงินหลวง


จากกรณีที่ น.พ.วรงค์ เดชกิจ-วิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเฟซบุ๊ก ชื่อ "Warong Dechgitvigrom" ว่า

"นี่คือหลักฐานกระสอบข้าวที่ทับถมกับกองข้าวที่รถตัก ตักขึ้นมาพบว่า มีกระสอบข้าวปะปนกับกองข้าวจำนวนมาก ที่น่าสังเกตคือ กระสอบข้าว ถูกผ่าเอาข้าวออก แต่ทิ้งกระสอบไว้ เป็น ไปได้หรือไม่ว่า มีการเอาข้าวนี้ไปเวียนเทียนเข้าโครงการจำนำปัจจุบัน ส่วนที่เหลือนี้ ความจริงน่าจะเอาไปขาย แต่ก็ ทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน"

รวมถึงการนำเสนอจากสื่อมวลชน หลายสายก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในการทำงานของรัฐบาลที่อาจจะปล่อยให้เกิดการทุจริตในโครงการจำนำข้าวขึ้นอีกซ้ำซาก ทางองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก. หน่วย งานที่รับผิดชอบข้าวเจ้าปัญหาดังกล่าว จำต้องออกมาอธิบายให้สังคมเข้าใจ

นายธเนศพล ธนบุญยวัฒน์ ผู้อำนวยการ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร เปิดเผยว่า จากกรณีที่คุณหมอวรงค์ เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับข้าวที่ถูกพบทิ้งบริเวณกลางทุ่งนา ต.บ้านวัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ว่าข้าว ดังกล่าวอยู่ในการดูแลของ อ.ต.ก.จังหวัด พิษณุโลก ซึ่งได้เช่าพื้นที่ของคลังสินค้ากลาง บริษัท เกษตรไพศาลธัญกิจ จำกัด ซึ่งข้าวดังกล่าวอยู่ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2551 และในเบื้องต้น ได้เข้าไปตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นข้าว สารเก่า แต่เกิดฝนตกทำให้พื้นโกดังมีความชื้น ข้าวดังกล่าวจึงเกิดการสันดาป ส่งผลให้เกิดเชื้อไฟปะทุขึ้นในกอง

ทางคลังสินค้าฯ เห็นว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการลุกลามไปยังกองข้าว อื่นที่คลังสินค้าเก็บอยู่รวมกว่า 13,000 ตัน ทางคลังจึงตัดสินใจดำเนินการกำจัด ข้าวดังกล่าวโดยพลการและไม่ได้แจ้งให้ทาง อ.ต.ก.ทราบมาก่อน

โดยโกยไปทางด้านหลังของโกดัง ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ติดกับพื้นที่นาของเกษตรกรบริเวณลำราง ในขณะที่ข้าวเปียกน้ำเริ่มเน่าและส่งกลิ่น น้ำเริ่มไหล ลงที่นาของเกษตรกรบริเวณใกล้เคียง และมีการร้องเรียนไปยังนักการเมืองในพื้นที่เพื่อเข้ามาแก้ไข ทางคลังจึงรีบใช้รถแบ็กโฮโกยข้าวบริเวณดังกล่าวไปยังพื้นที่ของตนเอง

ในเบื้องต้นได้มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปบ้างแล้วเพื่อให้เกิดผลกระทบ น้อยที่สุด แต่ในส่วนของขั้นตอนการ จัดเก็บข้าวสารยังเชื่อว่ามีปัญหา ซึ่งต้องมีการตรวจสอบ และแก้ไขต่อไปจะ เริ่มตรวจโกดังในภาคกลาง จ.สุพรรณบุรี ชัยนาท อ่างทอง ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.นี้ และจะเชิญสื่อมวลชนไปร่วมตรวจสอบ ด้วย หากพบว่าโกดังใดมีสภาพไม่พร้อม เก็บข้าวหรือทำผิดสัญญา จะตัดออกจากโครงการทันทีในฤดูกาลที่จะถึงนี้ และ จะนำชื่อขึ้นบัญชีดำห้ามร่วมโครงการอีก รวมทั้งบริษัทจะต้องชดเชยความเสียหายให้กับเกษตร

สำหรับข้าวที่เกิดการเสียหายได้ทำประกันอัคคีภัยเอาไว้แล้ว แต่ข้าวจำนวนเหล่านี้ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ขายให้กับจีนในลักษณะ จี ทู จี ไปแล้ว ดังนั้น อยู่ระหว่างการทยอยส่งมอบ และ ทางบริษัทจะต้องรับผิดชอบจัดหาข้าวดังกล่าวเพื่อส่งมอบได้ทันตามเวลาด้วย

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับโกดังเก็บข้าวอื่นๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อ.ต.ก. ประมาณ 300 แห่งใน 30 จังหวัด ซึ่งมีข้าวอยู่ในความรับผิดชอบรวมประมาณ 4.3 หมื่นตันข้าวเปลือกหรือ 4 ล้านตัน ข้าวสาร ทาง อ.ต.ก. จึงจะส่งทีมร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เข้าไปตรวจ สอบทั้งบริเวณที่ตั้งตัวอาคาร กรณีที่อยู่ ติดกับแหล่งน้ำ ทาง อ.ต.ก.จะยกเลิกการเช่า รวมทั้งในการประกันภัยครั้ง ต่อไปจะให้โกดังรับผิดชอบความเสียหาย ที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมด้วย นอกจากนี้ จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เห็นชอบให้การระบาย ข้าวแต่ละคลังให้เร่งระบายในส่วนของข้าวเก่าก่อนเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเน่าเสียและเกิดการปะทุไหม้ เรื่องจากข้าวไทยมีความชื้นอยู่ในตัวเพียง 15% เท่านั้น ในขณะที่บางกองมีการใช้ สารอะลูมิเนียมฟอสเฟต ที่สามารถทำปฏิกิริยากับน้ำและเกิดไฟไหม้ได้

สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลกระทบกับ อ.ต.ก. เนื่องจากได้ รับค่าจ้างการจัดเก็บข้าวและส่งคืนให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร (ธ.ก.ส.) แล้ว ในขณะที่การ ประกันภัยในโครงการรับจำนำข้าวปี 2554-2555 อ.ต.ก. ได้ทำแบบคุ้มครองความเสี่ยงทั้งหมด ในขณะที่คุณภาพข้าวในโกดังจะรับผิดชอบโดยบริษัท เซอเวย์เยอร์ ดังนั้น จึงรับประกันได้ว่า อ.ต.ก. จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ หากเกิดปัญหากับข้าวในโกดัง นอกจากนี้ ผอ.อ.ต.ก.ยังได้กล่าวสำทับอีกว่า

"ขอเรียนว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นแต่อย่างใด สามารถชี้แจงได้ทั้งหมด เพราะ ข้าวสารเมื่อเก็บไว้นานความชื้นสะสมในข้าวก็มีมากขึ้น เมื่อถูกอบด้วยความร้อนใน โกดังนานเข้า ข้าวสารจึงเกิดลุกไหม้ได้ ทำ ให้เจ้าของโกดังเกรงว่าอาจเกิดไฟลุกไหม้ ทำให้ข้าวของรัฐในส่วนอื่นที่รับฝากไว้เสียหายด้วย จึงตัดสินใจโดยพลการนำข้าว ส่วนที่มีปัญหาย้ายออกไปไว้นอกโกดัง แต่ ยังอยู่ในที่ดินของตัวเอง โดยนำไปกอง ไว้ใกล้กับลำรางสาธารณะของชาวบ้าน เมื่อเกิดฝนตกน้ำจึงชะข้าวสารดังกล่าว ลงไปในแหล่งน้ำ ชาวบ้านจึงมาร้องเรียนกับ ส.ส. จึงปรากฏเป็นข่าวขึ้น" นายธเนศพล กล่าว


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ