“น้ำมันพืชกุ๊ก” ประกาศยุทธศาสตร์ มุ่งสู่องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ในปี พ.ศ. 2608 เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2565

“น้ำมันพืชกุ๊ก” ประกาศยุทธศาสตร์ มุ่งสู่องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ในปี พ.ศ. 2608  เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน


นายเพชร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันพืชกุ๊ก เปิดเผยว่า ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับนโยบายในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainability) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีพันธกิจ “ส่งเสริมการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน” ด้วยการกำหนดการดำเนินการในด้านต่างๆ ประกอบด้วย การพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงาน, กระบวนการผลิต และทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่อง โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ ตลอดจนการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง และความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กร 

โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของบริษัท คือ การมุ่งสู่องค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2608 ด้วยการกำหนดยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง (GREEN BUSINESS ROAD MAP) โดยวิธีการประเมินเชิงปริมาณของการใช้ทรัพยากร ปริมาณมลพิษที่เกิดขึ้น และผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อโลก และระบบนิเวศ ตามหลักการ Life Cycle Assessment (LCA) 

“เป้าหมายในเรื่องนี้ เป็นการมุ่งเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล ที่สอดคล้องกับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP26) ซึ่งเป็นเป้าหมายระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริม BCG Model, การก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ. 2593 และการที่รัฐบาลไทยตั้งเป้าหมายสู่ประเทศที่ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี พ.ศ. 2608” นายเพชร กล่าว 

ทั้งนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว บริษัทได้กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานที่ส่งผลต่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ประกอบด้วย การเดินหน้าเพื่อมุ่งสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนในการผลิต (Sustainable Energy) การลดการใช้พลังงาน รวมถึงการเลือกวัตถุดิบทีมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ ฯลฯ ส่งผลให้การปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ของการผลิตผลิตภัณฑ์น้ำมันถั่วเหลืองของบริษัทลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2563 สามารถลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2555 และลดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 4 เท่า สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำมันทานตะวัน 

นายเพชร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทยังได้จัดทำและทบทวนแผนการจัดการคาร์บอน (Carbon Management Plan) ทุกปี  โดยมุ่งหาเทคโนโลยี นวัตกรรมและกลยุทธ์ที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยตนเองให้มากที่สุด ตลอดจนส่งเสริมคู่ค้า และผู้บริโภค ให้เข้าร่วมกิจกรรมชดเชยคาร์บอน และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีการติดฉลาก Carbon footprint of products  และ Carbon Neutral นอกจากนี้ ยังได้จัดทำ Sustainability Certification และจัดทำ Digital Interface จากระบบการผลิต และระบบบัญชี มาใช้ในการคำนวณ Carbon Footprint ของผลิตภัณฑ์  เพื่อใช้ในการบริหารจัดการการใช้พลังงาน 

ทั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายดังกล่าว ตลอดเวลาที่ผ่านมาบริษัทมีการนำเทคโนโลยีการผลิตต่างๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly production) มาใช้ในการผลิต โดยบริษัทถือผู้ผลิตน้ำมันพืชรายแรกในเอเชียที่นำระบบ ICS (Ice Condensing Vacuum System) มาใช้ในกระบวนการกลั่น เพื่อให้ได้น้ำมันพืชคุณภาพที่ดีที่สุด ลดการใช้พลังงานความร้อน และระยะเวลาในการกลั่น ทำให้สามารถรักษาคุณภาพน้ำมันได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่ปี 2548 นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาด้านการผลิต พัฒนาและติดตั้งเทคโนโลยีจากเบลเยียม ระบบ Nano Neutralization & Combined clean เพื่อลดปริมาณการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต และลดปริมาณการเกิดน้ำเสีย ตั้งแต่ปี 2561
ตลอดจนการให้ความสำคัญในการใช้พลังงานทดแทน ต่างๆ เช่น พัฒนาและติดตั้ง Multi biomass boiler ทดแทน Heavy oil boiler ในการผลิตพลังงานไอ และติดตั้ง Solar cell ผลิตพลังงานไฟฟ้าภายในโรงงาน ตั้งแต่ปี 2563 และมีแผนที่จะทำการติดตั้งเพิ่มเติมในอนาคต



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ