“มายวาวา” ลุยปั้น “mywawa.me” แพลตฟอร์ม อี-มาร์เก็ตเพลส B2B ยกระดับ SMEs ไทยทรานส์ฟอร์ม สู่โลกการค้ายุคดิจิทัลระดับภูมิภาคอาเซียน

วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2565

“มายวาวา” ลุยปั้น “mywawa.me” แพลตฟอร์ม อี-มาร์เก็ตเพลส B2B ยกระดับ SMEs ไทยทรานส์ฟอร์ม สู่โลกการค้ายุคดิจิทัลระดับภูมิภาคอาเซียน


นายกร เธียรนุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วาวา เซอร์วิส แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด และผู้ร่วมก่อตั้ง MyWaWa กล่าวว่า  จากภาพรวมมูลค่าตลาดค้าส่งบริการ (Wholesale Market) อยู่ที่  5.8  ล้านล้านบาท และมีผู้ผลิต / ผู้ค้าส่งอยู่ที่  5 แสนราย และ SME อยู่ที่ 3 ล้านราย ซึ่งทำให้เห็นว่าตลาดดังกล่าวเป็นตลาดที่มูลค่าที่ใหญ่มาก ประกอบกับปัจจุบัน B2B อีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นช่องทางการขายที่สำคัญในยุคตลาดดิจิทัล ในขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจแบบดั้งเดิมต่างก็กำลังปรับตัวเข้าสู่อีคอมเมิร์ซ เนื่องจากสถานการณ์การค้าขายและระบบเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ทุกธุรกิจต้องเพิ่มช่องทางการขายผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจแบบ B2B ในแบบดั้งเดิม จะเน้นที่การให้พนักงานขายเดินทางไปพบเพื่อเจรจาซื้อขาย หรือการร่วมงานแสดงสินค้า (Trade Show) ทั้งในและต่างประเทศ เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 กิจกรรมเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ จึงส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำเนินงานของทั้งธุรกิจขนาดใหญ่ และ SMEs ที่อยู่ในภาคการผลิตสินค้าในประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนกว่า 400,000 -500,000 ราย ธุรกิจที่ทรานส์ฟอร์มได้รวดเร็วก็สามารถเดินหน้าต่อได้ แต่พบว่ายังมีอีกหลายรายที่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากขาดความรู้ทางดิจิทัลและขาดทรัพยากร

ขณะเดียวกัน แพลตฟอร์มที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นรูปแบบ B2C หรือ C2C ที่ไม่ได้ถูกออกแบบให้เข้ากับรูปแบบ B2B ซึ่งมีระบบการสั่งซื้อที่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากกว่า ระบบชำระเงินต้องรองรับการชำระเงินที่มีมูลค่าสูงในการสั่งซื้อต่อครั้ง ต้องใช้ระบบโลจิสติกส์หรือการขนส่งที่มีความเฉพาะทางในแต่ละอุตสาหกรรม และส่วนใหญ่เป็นแพลตฟอร์มของต่างชาติที่มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยทางดิจิทัล (Digital Safety) ส่งผลให้เกิดการรั่วไหลของข้อมูลเชิงธุรกิจของประเทศอีกด้วย

“จากผลกระทบทางเศรษฐกิจและ pain point ดังกล่าว MyWaWa ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทย ล่าสุด เราจึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มชื่อ www.mywawa.me ให้เป็น e-Marketplace สำหรับ B2B ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เป็นศูนย์กลางการซื้อขายทางธุรกิจทั้งรูปแบบค้าส่งและค้าปลีก รวบรวมโรงงานผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและซัพพลายเออร์จากทุกอุตสาหกรรม รองรับทุกฟีเจอร์ตั้งแต่การขาย วางบิล ชำระเงิน รวมถึงระบบขนส่งในแพลตฟอร์มเดียว ซึ่งมีความคล้ายกับแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง อาลีบาบา ของประเทศจีน”

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า สำหรับแพลตฟอร์ม www.mywawa.me ต้องการรองรับการใช้งานจากผู้ซื้อ-ผู้ขายทุกเจเนอเรชัน จึงถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถลงทะเบียนสมาชิกเพื่อใช้งานทุกฟีเจอร์ภายในระบบได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการสมัครหรือค่าบริการรายเดือนใด ๆ โดยผู้ขาย (Seller) จะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนการค้าในประเทศไทย สามารถใช้งานระบบได้ตั้งแต่การจัดตั้งหน้าร้าน ใส่ข้อมูลสินค้า กำหนดราคาและโปรโมชัน ออกใบเสนอราคา ออกใบวางบิล เลือกวิธีการขนส่ง ทั้งหมดสามารถดำเนินการได้เอง โดยมีเจ้าหน้าที่จาก MyWaWa คอยช่วยเหลือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ขายในการเข้าถึงผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการทำการตลาดแบบดั้งเดิมและไม่ต้องสร้างเว็บไซต์ใหม่ของตัวเอง ทำให้ประหยัดทั้งต้นทุนและเวลา โดย MyWaWa ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง มีเพียงการเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มจากผู้ขายในอัตรา 3-5% ขึ้นอยู่กับประเภทของอุตสาหกรรม และจะเรียกเก็บเมื่อกระบวนการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ และผู้ซื้อได้รับสินค้าแล้วเท่านั้น  ส่วนผู้ซื้อ (Buyer) สามารถใช้บริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบได้ทั้งแบบนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา เมื่อลงทะเบียนแล้วสามารถเลือกค้นหาสินค้าที่ต้องการ ด้วยระบบ search engine ทำให้ค้นหาสินค้าได้รวดเร็ว มีโอกาสพบซัพพลายเออร์รายใหม่ ๆ ใช้งานระบบแชต (chat) เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือต่อรองราคากับผู้ขายได้ ทำการขอใบเสนอราคาได้โดยตรง

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อความปลอดภัยในการซื้อขายผ่านระบบ MyWaWa ได้นำเอาเทคโนโลยีมารองรับในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการยืนยันตัวตนหรือ KYC (Know Your Customer) ทั้งฝั่งผู้ขายและผู้ซื้อ ระบบ Smart Contract ในการวางบิล ออกใบสั่งซื้อ (PO) ที่มีการบันทึกข้อมูลไว้สามารถเรียกดูเอกสารได้ตลอดเวลา ระบบ Track & Trace ติดตามสถานการณ์ส่งสินค้า และระบบ TSO (Trade Secure Order) ร่วมกับ Escrow Account ทำการจ่ายเงินค่าสินค้าให้ผู้ขาย เมื่อผู้ซื้อยืนยันการได้รับสินค้าถูกต้องตรงตามคำสั่งซื้อแล้วเท่านั้น ทั้งหมดนี้เพื่อให้มั่นใจว่าการทำการค้าขายบนแพลตฟอร์มมีความปลอดภัย ผู้ซื้อได้รับของ ผู้ขายได้เงิน อย่างแน่นอน

ซีอีโอ หนุ่ม กล่าวต่ออีกว่า หลังจากเปิดใช้งานมาได้เพียงไม่นาน แพลตฟอร์ม www.mywawa.me มีผู้ขายโรงงานผู้ผลิต ผู้จำหน่ายและซัพพลายเออร์ ในระบบมากกว่า 100 ราย มีสินค้ากว่า 3,000 รายการ (SKUs)  โดยปัจจุบันสัดส่วนจะอยู่ในกลุ่มงานพิมพ์ บรรจุภัณฑ์ มากที่สุดประมา 80-90 % แต่อย่างไรก็ตาม ภายในปีนี้เราจะทำการขยายไปยังหลากหลายหมวดอุตสาหกรรมที่เราพูดคุยไว้ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ อุปกรณ์สำนักงาน บ้านและวัสดุก่อสร้าง เคมี ยาง และพลาสติก สุขภาพและความงาม แบบเรียนและอุปกรณ์การศึกษา และอื่น ๆ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีซัพพลายเออร์ในระบบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวราว 1,000 ราย ส่วนปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อมากกว่า 2,000 ราย ตั้งเป้าจะเพิ่มเป็นเท่าตัวเช่นกันอยู่ที่ 2 หมื่นราย และจากยอดซื้อ-ขาย (Transaction) ผ่านแพลตฟอร์มแล้วมากกว่า 1,500 ล้านบาท ในปีทีผ่านมาจะส่งผลให้มียอดภายในสิ้นปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน 

โดยธุรกิจชั้นนำที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแฟลตฟอร์มแล้วมีทั้ง SMEs และธุรกิจขนาดใหญ่ อาทิ สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน ที่เริ่มทำการค้าออนไลน์เป็นครั้งแรกบน www.mywawa.me  เท่านั้น องค์การค้าของ สกสค.(ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์) บริษัท ฟอยล์มาสเตอร์ (ไทยแลนด์) จํากัด ผู้ให้บริการแสตมป์ปิงฟอยล์ที่ให้บริการลูกค้าในทุกอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน บริษัท บีบ๊อกซ์ ปริ้นติ้ง จำกัด ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ฟูดเกรดรายใหญ่ บริษัท พลังงานมั่นคง จำกัด ผู้จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง บริษัท ออฟฟิศเมท (ไทย) จำกัด จำหน่ายเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน บริษัท ครูยุ คอทเทจ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมไทยทั้งในและต่างประเทศ เป็นต้น

ขณะนี้มีทั้งภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับแพลตฟอร์ม เพื่ออำนวยความสะดวกและต่อยอดบริการภายในระบบให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต อาทิ ด้านเทคโนโลยีด้านการเงิน (FINTECH) ร่วมมือกับบริษัทด้าน Digital Banking และผู้ให้บริการด้านการเงินชั้นนำของประเทศ อาทิ ธนาคารออมสิน เข้ามาเป็นพันธมิตรด้านความปลอดภัยของระบบการชำระเงินออนไลน์ ด้านการขนส่ง ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำเพื่อให้บริการ B2B โลจิสติกส์ที่ครบวงจร อาทิ WeMove Platform, ViaLink และ Flash Group

นอกจากนี้ยังมี บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ร่วมมอบส่วนลดพิเศษของค่าธรรมเนียมให้กับลูกค้ากลุ่ม AIS BIZ UP และในอนาคตยังมีแผนที่ร่วมกับพันธมิตรรายอื่น ๆ อาทิ ลาซาด้า (Lazada) ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านการเป็นแหล่งซัพพลายเออร์ให้แก่ร้านค้าบนลาซาด้า เป็นต้น

นายกร เธียรนุกุล  กล่าวเพิ่มเติมทิ้งท้ายต่อว่า “จากข้อมูลของการ์ทเนอร์ที่ระบุว่าในปี 2568 การทำธุรกรรมของ B2B ร้อยละ 80 จะอยู่บนช่องทางดิจิทัล และร้อยละ 44 ตัดสินใจซื้อโดยไม่ต้องการที่จะพบกับพนักงานขาย เพราะสามารถตัดสินใจและหาข้อมูลการซื้อสินค้าได้เองบนช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์ม B2B อีคอมเมิร์ซ ยิ่งเป็นการสนับสนุนแนวคิดของ MyWaWa ในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่เป็นภาคการผลิตของประเทศเข้าสู่ระบบการค้าบนโลกออนไลน์มากขึ้น”

ปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐาน หรือ Infrastructure ที่เป็นภาคอุตสาหกรรม B2B ของประเทศไทยยังมีอีกหลายภาคส่วนที่ยังไม่ได้เป็นรูปแบบดิจิทัล MyWaWa จึงมีความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนี้ให้แข็งแรงและสามารถเข้าถึงผู้ผลิต ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และ SMEs ทั่วประเทศ ให้มีพื้นที่ในการแสดงสินค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน ด้วยเครื่องมือของ MyWaWa เมื่อผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น จาก SMEs ที่เดิมทีอาจจะไม่มีพื้นที่ที่เหมาะสมกับการสร้าง Digital Footprint หรือไม่เคยใช้เครื่องมือออนไลน์มาก่อน ก็จะเกิดเป็นความหลากหลายของสินค้าของคนไทยอีกมากมาย ที่มีคุณภาพไม่แพ้สินค้าของต่างชาติ

นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีเราจะทำตลาด ในอนาคตอีกประมาณ 3-5 ปี เราวางแผนจะขยายไปทำตลาดในกลุ่ม ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศที่คาดว่าจะเข้าไปทำตลาดประเทศแรก คือ อินโดนีเซีย เนื่องจากเราเล็งเห็นว่าปัจจุบันประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) ยังเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของโลก เนื่องจากมีการย้ายฐานจากประเทศจีนมามากขึ้นเป็นภูมิภาคที่กำลังเติบโต (Growing Region) และมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน อีกทั้ง ประเทศไทยยังมีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญในภูมิภาคนี้ จึงมีเป้าหมายในอนาคตว่า จะสามารถสร้าง MyWaWa ให้เป็น Trade and Investment Gateway to Southeast Asia

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ