“บาจา (ประเทศไทย)” ฟาดงบตลาดเพิ่ม 4 เท่าตัว โล๊ะภาพลักษณ์เก่าสุดเชย ตามเทรนด์แฟชั่นทันยุคสมัย ขยายฐานเจาะกลุ่มคนเจน X-Y วางเป้าอีก 5 ปี ขึ้นแซงแบรนด์รองเท้ายักษ์ใหญ่ชื่อดัง

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2565

“บาจา (ประเทศไทย)” ฟาดงบตลาดเพิ่ม 4 เท่าตัว โล๊ะภาพลักษณ์เก่าสุดเชย ตามเทรนด์แฟชั่นทันยุคสมัย ขยายฐานเจาะกลุ่มคนเจน X-Y วางเป้าอีก 5 ปี ขึ้นแซงแบรนด์รองเท้ายักษ์ใหญ่ชื่อดัง


บาจา (Bata) เปิดเกมชิงตลาดรองเท้ามูลค่า 8.3 หมื่นล้านบาท หลังเปิดเมืองกระตุ้นผู้บริโภค ช้อปปิ้งมากขึ้น หนุนยอดขายบาจาเพิ่ม 67% พร้อมเปิดตัว “เบลล่า-ราณี แคมเปน” แอมบาสเดอร์คนแรก และ “ลี ฐานัฐพ์ โล่คุณสมบัติ” Friend of Bata กับแคมเปญ Surprisingly Bata ตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ ก้าวสู่แบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภค คาดรายได้ปีนี้พุ่งโต 3 เท่าเทียบกับตลาด

วิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ตนเองได้เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการบริหารหญิงคนแรกของบาจาจึงได้พบว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ว่าบาจาเป็นแบรนด์ไทย แบรนด์รองเท้านักเรียน รองเท้าพยาบาล แบรนด์ที่ไม่ทันสมัยที่อยู่มายาวนาน โดยความจริงแล้วบาจาเป็นแบรนด์รองเท้าจากประเทศสาธารณรัฐเช็ก มีอายุ 123 ปี ส่วนในประเทศไทยได้เข้ามาทำตลาดได้ 93 ปีแล้ว หรือตั้งแต่ปี พ.ศ. 2472 แต่บาจาไม่ค่อยมีการทำการตลาดเท่าไหร่ เน้นที่ตัวสินค้าเป็นหลัก เนื่องมาจากที่ผ่านมาผู้บริหารของบาจาจะเป็นผู้ชาย และเป็นชาวต่างชาติ มาโดยตลอด แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไปบาจาจึงต้องการการเปลี่ยนแปลงโดยการอยากได้คนมาบริหารคนไทยที่เป็นผู้หญิงและมีความเข้าใจแฟชั่นไทยและพฤติกรรมคนไทยมากขึ้น

“จากการที่ตนเองได้เข้ามาบริหารบาจาได้ราวๆ 2 เดือนนั้น พบว่าตนเองต้องมาแก้โจทย์ใหญ่ของแบรนด์บาจาอันดับแรกก่อนเลยคือเรื่องของภาพลักษณ์ที่คนไทยมีต่อแบรนด์บาจา ด้วยการเข้ามาปรับภาพลักษณ์ที่ดูเชย ให้ทันสมัยขึ้น ด้วยการการนำแบรนด์บาจาก้าวสู่แบรนด์อันดับ 1 ในใจผู้บริโภค ถ่ายทอดผ่านการสื่อสารแบบใหม่ เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มเติมจากฐานลูกค้าเก่าที่มีอยู่กว่า 2 ล้านคนในประเทศไทย และให้มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคุณแม่ และกลุ่มคนเจน X-Y ซึ่งเป็นแฟนของแบรนด์อย่างเหนียวแน่น

สำหรับแผนงานช่วงครึ่งปีหลังนี้บริษัทจะใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว เพื่อทำตลาดในเชิงรุกโดยดึงนางเอกชื่อดัง เบลล่า-ราณี แคมเปน เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกในรอบ 94 ปี และ ลี-ฐานัฐพ์ โล่คุณสมบัติ เป็นเพื่อนบาจาที่ช่วยสื่อสารแบรนด์ในภาพลักษณ์ใหม่ที่ราคาเข้าถึงง่าย สวมใส่สบาย เน้นดีไซน์ทันสมัย จับกลุ่มระดับกลาง-ล่าง ขณะเดียวกันจะเปิดสินค้าใหม่ที่หลากหลายไม่ได้ขายเฉพาะรองเท้านักเรียนสีขาว ดำ น้ำตาล เหมือนภาพในอดีต แต่มีทั้งรองเท้าลำลองสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน รองเท้าทำงาน รวมไปถึงรองเท้าที่สวมใส่ในโอกาสต่างๆ และรองเท้าผ้าใบแฟชั่นยี่ห้อนอร์ทสตาร์ รองเท้ากีฬายี่ห้อเพาเวอร์ ราคาตั้งแต่ 199-4,000 บาท พร้อมกับได้ตั้งทีมการตลาดระดับภูมิภาคขึ้นมาเพื่อช่วยให้สื่อสารกับบริษัทแม่ให้บาจาประเทศไทย มีอิสระในการออกแบบสินค้าให้สอดรับกับความต้องการคนไทย หรือจับมือร่วมกับแบรนด์พันธมิตรในการออกสินค้าใหม่รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม จากแผนการตลาดปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะช่วยผลักดันให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 94% เทียบกับของปี 64 ที่มียอดขาย 2,500 ล้านบาท หรือประมาณ 2,350 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายระยะยาว ต้องการผลักดันให้บาจาเป็นเบอร์หนึ่งในวงการรองเท้า ตอนนี้อยู่อันดับ 5 ในตลาด เนื่องจากเสียส่วนแบ่งการตลาดมาหลายปี เพราะไม่ได้ทำการตลาดในช่วงที่ผ่านมา โดยที่ในตลาดรองเท้าครองแชมป์โดย 1. Adidas 2. Nike  3. นันยาง 4. กีโต้-แอดด้า และ 5. บาจา โดยอยากขึ้นเป็นเบอร์ 3 ก่อน ในปี 2566 และเป้าจากนั้นอยากขึ้นแซงหน้าแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง Adidas และ Nike ให้ได้ภายใน 5 ปี

ผู้บริหาร คนสวย กล่าวต่อว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมรองเท้าในประเทศ ที่มีมูลค่าประมาณ 83,000 ล้านบาท กลับมาขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากมาตรการผ่อนคลายจากสถานการณ์โควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้เงินจับจ่ายซื้อของ โดยเฉพาะรองเท้า ซึ่งถือเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคซื้อน้อยมากช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เริ่มกลับมา โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติ ยอดซื้อรองเท้าจึงกลับมาเติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มบาจา ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายเพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“แนวโน้มตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า ที่กำลังซื้อกลับมาเติบโตสูง จากการผ่อนคลายของสถานการณ์โควิด ทำให้คนเริ่มกลับมาทำกิจกรรมตามปกติ ต้องเข้าสังคม ไปทำงาน กำลังซื้อที่อัดอั้นในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาจึงกลับมา และเป็นโอกาสดีที่บาจาจะเร่งขยายตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ ๆ มากขึ้น”

ปัจจุบัน บาจามีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าหลายช่องทางคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งร้านค้าอย่างเป็นทางการกว่า 230 ร้าน ร้านแฟรนไชส์ 6 ร้าน เว็บไซต์ bata.co.th รวมไปถึงร้านค้าอย่างเป็นทางการของทางบาจาเองบนแพลทฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังอย่าง Lazada และ Shopee นอกจากนี้บาจาคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเติบโตขึ้นได้ถึง 65% และสามารถทำผลกำไรได้สูงกว่าก่อนโควิดอีกด้วย พร้อมต้ั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่ แต่ยังคงสามารถรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในวงการอุตสาหกรรมรองเท้าในประเทศไทย



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ