หนึ่งในนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการ ประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) คือ การส่งเสริมให้กรมธรรม์ประกันภัยเพื่อรายย่อย หรือ "ไมโครอินชัวรันส์" เข้าถึงคนมีรายได้น้อยทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทำ คลอดกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) มาตรฐาน กระนั้น ดูเหมือนบริษัทประกันชีวิต และบริษัท ประกันวินาศภัยเอง ไม่รอคปภ. แข่ง กันออกแบบประกันไมโคร อินชัวรันส์ ของตัวเองมาขายกันอย่างคึกคัก
+ "ไทยประกัน-เมืองไทย" แข่งสินค้าใหม่ {lt}br{gt} + ไมโครอินชัวรันส์มีเงินคืน-ชดเชยรายวัน
"สวัสดิ์ นฤวรวงศ์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อสนองนโยบายคปภ.ในเรื่องของไมโครอินชัวรันส์ จึงได้พัฒนาแบบประกัน "ทรัพย์ทวี 150 พลัส" ชำระเบี้ยรายเดือนมาขาย ในลักษณะแพ็ก เกจคุ้มครองทั้งประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ และชดเชยค่ารักษาพยาบาลรายวัน เบี้ยประกันเริ่มต้น แค่เดือนละ 500 บาท สูงสุด 1,000 บาท คุ้มครอง 20 ปี ชำระเบี้ย 20 ปีเท่ากัน เริ่มรับประกันตั้งแต่อายุ 5-55 ปี มีเงินคืนทุก 4 ปี ปีละ 10% ของทุนประกัน ครบสัญญารับ 100% ของทุนประกัน หากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรับเพิ่มเป็น 200% ของทุนประกัน โดยมีเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลวันละ 500 บาทสูงสุดไม่เกิน 365 วัน
"เหมาะสำหรับผู้ต้องการสวัสดิการด้านคุ้มครองอุบัติเหตุ เงินชดเชยรายวัน เช่น กลุ่มเกษตรกร พนักงานโรงงาน ประกอบกับค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มสูงขึ้น แบบประกันนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระ ค่าใช้จ่าย โดยกรณีเคลมสินไหมจากประกันอุบัติเหตุ หรือชดเชยค่ารักษาพยาบาลรายวันแล้ว ความคุ้มครองดังกล่าวจะหมดไป แต่ยังคงมีความคุ้มครองประกันชีวิตอยู่ ซึ่งบริษัทจะหักเบี้ยประกันในส่วนประกันอุบัติเหตุ หรือเงินชดเชยออก"
ด้านบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย "สาระ ล่ำซำ" กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ให้ความเห็น "สยามธุรกิจ" ว่า บริษัทออกแบบประกันไมโครอินชัวรันส์ มาขายอย่างต่อเนื่อง และรูปแบบกรมธรรม์ก็พัฒนา ขึ้นเป็นลำดับ จากเดิมจะเน้นความคุ้มครองเป็นหลัก แต่ปัจจุบันมีแบบสะสมทรัพย์มีเงินคืน รวมถึงแบบชั่วระยะเวลา (Term) เช่นล่าสุดได้ออกแบบ "เมืองไทย ยิ้มคุ้มภัย 10/7" คุ้มครอง 10 ปี ชำระเบี้ย 7 ปี คุ้มครองครอบคลุมทั้งเสียชีวิต และการสูญเสียอวัยวะ หากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรับความคุ้มครองเพิ่มเป็น 2 เท่า เริ่มรับประกันตั้งแต่อายุ 20-55 ปี สามารถเลือก ชำระเบี้ยได้ตั้งแต่ 200-1,000 บาทต่อเดือน โดยที่ทุนประกันจะคำนวณจากเบี้ยประกันที่ต้องการชำระทุกเดือน
อีกแบบ คือ "เมืองไทย ยิ้มทวี 15/10" เป็นแบบสะสมทรัพย์ชำระเบี้ย 10 ปี คุ้มครอง ถึง 15 ปี มีเงินคืน 5% เมื่อสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 5 และ 10 ครบสัญญารับเงินคืนสูงถึง 110% ของทุนประกัน ณ วันเริ่มสัญญา กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพิ่มความคุ้มครองเป็น 2 เท่า เริ่มรับประกันภัยตั้งแต่อายุ 1 ปี-60 ปี สามารถ เลือกชำระเบี้ยได้ตั้งแต่ 200-1,000 บาทต่อเดือน โดยที่ทุนประกันจะคำนวณจากเบี้ยประกันที่ต้องการชำระทุกเดือน
"ตลาดไมโครอินชัวรันส์เป็นตลาดใหญ่ แต่ในแง่ของเบี้ยอาจจะไม่สูงจึงมองการเติบโต ได้ยาก แต่ในแง่ของจำนวนคนซื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก ขึ้นกับความเข้าใจ และเห็นประโยชน์ของการประกันอย่างแท้จริง"
+ "วิริยะ" ซุ่มขายพีเอเบี้ย 150 บ./ปี {lt}br{gt} + "ไทยวิวัฒน์" ขายประกันมะเร็ง
ฝั่งประกันวินาศภัย เบอร์หนึ่งอย่าง บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดตลาดนี้มาร่วม 2 ปี โดย "อานนท์ โอภาสพิมลธรรม" รองกรรมการ ผู้จัดการ ให้ความเห็น "สยามธุรกิจ" ว่า ไมโคร อินชัวรันส์ที่บริษัทขายอยู่เป็นประกันพีเอที่ปรับปรุงใหม่ ทั้งอัตราเบี้ยประกัน และเงื่อนไข ความคุ้มครองให้เข้าใจง่าย ซื้อสะดวก เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของคปภ.ที่ส่งเสริมให้บริษัทประกันภัยขายประกันไมโครอินชัวรันส์ โดยมีเบี้ยและทุนประกันให้ลูกค้าเลือกหลายแบบ คือ ประกันพีเอตระกูลเอื้ออารี ที่มีเบี้ยต่ำสุด 150 บาท วงเงินคุ้มครองเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะและทุพพลภาพถาวร 100,000 บาท ไปจนถึงเบี้ยสูงสุด 600 บาท วงเงินคุ้มครอง 300,000 บาท และค่าปลงศพ 30,000 บาท ซึ่งรูปแบบที่ขายดีที่สุดคือเบี้ย 400 บาท วงเงินคุ้มครอง 200,000 บาท ค่าปลงศพ 20,000 บาท โดยมีเบี้ยรวมประมาณ 150 ล้านบาทต่อปี เทียบกับเบี้ยประกันไม่ใช่ รถยนต์ (นอน มอเตอร์) ที่มีประมาณ 2,400 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีประกันบ้านอยู่อาศัยแบบประหยัดค่าเบี้ย 500 บาท ทุนประกัน 500,000 บาท ที่คปภ.อนุมัติให้บริษัทประกัน ขายเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งถือเป็นไมโครอินชัวรันส์ประเภทหนึ่งด้วย โดยบริษัทเตรียม จะผลักดันไมโครอินชัวรันส์ตัวใหม่ในกลุ่มประกันภัยเบ็ดเตล็ดออกมาอีก แต่ยังบอก ไม่ได้จะเป็นตัวไหน
"สินค้าตัวนี้ไม่ได้หวังกำไร ไมโครฯ ส่งผลดีต่อธุรกิจในอนาคตจะทำให้คนเข้าใจ ประกันมากขึ้นจะหันมาทำประกันเพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาของการทำไมโครฯ อยู่ที่ต้นทุน ทำอย่างไรจะให้ต่ำลง อีกจุดคือช่องทางขาย ถ้าทำผ่านตัวแทน นายหน้าเทียบค่าใช้ จ่ายไม่คุ้ม ต้องพัฒนาช่องทางขายใหม่ๆ คู่ ไปกับลดค่าใช้จ่าย อย่างวิริยะฯ การขายไมโครอินชัวรันส์จะขายลูกค้าเชิงองค์กร รูปแบบเดียวกับประกันกลุ่ม ทำให้ได้ลูกค้า จำนวนมาก ค่าใช้จ่ายไม่สูง"
ด้าน "จีรพันธ์ อัศวะธนกุล" กรรมการ ผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "สยามธุรกิจ" ว่า ตามแผนการ บริษัทจะเริ่มนำประกันมะเร็งที่เป็นไมโครอินชัวรันส์วางขายผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยแบบประกันดังกล่าวได้รับอนุมัติจากคปภ. แล้ว เบี้ยประกัน 711 บาท ทันทีที่แพทย์วินิจฉัยเป็นโรคมะเร็งไม่ว่าระยะไหนก็ตาม คุ้มครองทันทีวงเงิน 50,000 บาท พร้อมเงินชดเชยอีก 20,000 บาทที่จะจ่ายชด เชยให้เป็นรายเดือน เดือนละ 2,000 บาท
"ระยะหลังคนเป็นโรคมะเร็งเยอะถ้าเป็นจะกระทบกับความมั่นคงของครอบครัวเป็นโรคที่คนทั่วไปกังวล เชื่อว่าสินค้าที่ออกมาน่าจะขายได้ เพราะ เบี้ยที่ออกมาราคา 711 บาทก็คำนวณ มาจากประสบการณ์เมื่อ 5 ปีก่อนเคย ทำประกันโรคมะเร็งขายผ่านพนักงาน ทางโทรศัพท์หรือเทเลเซลส์ ถือว่าขาย ดีได้เบี้ยปีละ 20-30 ล้านบาท แต่ช่วงหลังๆ ชะลอไปเพราะคู่แข่งเยอะและต้องโฆษณามาก เลยปรับมาเป็นไมโครอินชัวรันส์แทน โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายประกันโรคมะเร็งผ่านเคาน์เตอร์ เซอร์วิส 70-80 ล้านบาท"