ถ้าจะให้พูดถึงโรคที่มีความรุนแรงและมีโอกาสทำให้คนเสียชีวิตสูงมากเป็นอันดับต้น ๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น ‘โรคมะเร็ง’ อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นโรคร้ายที่สามารถเกิดกับอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายได้แทบทุกจุด เมื่อเป็นแล้ว ระยะเวลาในการลุกลามมักจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่สามารถรักษาได้ทันเวลาอาการของโรคก็จะยิ่งทรุดหนัก แม้ว่าในยุคนี้จะมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ดีมากกว่าสมัยก่อน แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้อย่างง่ายดายนัก ผู้ป่วยหลายรายจึงต้องเผชิญหน้ากับอาการของโรคที่รุนแรงและการรักษาที่มีผลข้างเคียง ทำให้การรักษาดำเนินไปได้อย่างยากลำบาก ผู้คนที่อยู่ในวงการแพทย์จึงได้มีความพยายามในการศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอาการมะเร็งและการบรรเทาความเจ็บปวดจากการรักษาอยู่ตลอด ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่กำลังศึกษากันอยู่ก็คือการใช้กัญชาเพื่อช่วยบำบัดโรคมะเร็ง
มะเร็ง หนึ่งโรคร้ายที่เป็นภัยต่อชีวิต
โรคมะเร็ง เป็นโรคที่แค่ได้ยินชื่อก็รู้สึกไม่ดีแล้วใช่มั้ยคะ ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากให้ตัวเองต้องเป็นโรคที่รุนแรงแบบนี้ ในแต่ละปีมีผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้ทั่วโลกต้องหันมาให้ความสำคัญและตระหนักถึงอันตรายของโรคนี้ โดยได้มีการจัดตั้งให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น วันมะเร็งโลก (World Cancer Day) สำหรับปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากปัจจัยภายนอกที่เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดโรคร้าย ความเชื่อที่ว่าเป็นมะเร็งเพราะพันธุกรรมนั้นไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกันเท่าไหร่ ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ นั้นก็มักจะเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคนนั่นเอง ว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด แม้ว่าพฤติกรรมเสี่ยงจะไม่ใช่สาเหตุที่ชัดเจน แต่ถ้าลด ละ เลิกได้ ก็จะทำให้โอกาสการเป็นโรคมะเร็งลดลงได้ด้วย ซึ่งพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น
- การสูบบุหรี่ เป็นเรื่องที่หลายคนน่าจะทราบกันอยู่แล้วว่าบุหรี่มีสารก่อมะเร็ง ถ้าสูบเข้าไปในปริมาณมาก จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด
- การดื่มสุรา ที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ
- พฤติกรรมการรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่าง อาหารไขมันสูง ของทอด ของมันติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอยู่ในภาวะภูมิคุ้นกันบกพร่อง
- ไม่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผักและผลไม้ต่าง ๆ
- ไม่ออกกำลังกาย สุขภาพอ่อนแอ
- การติดเชื้อจากภายนอกทั้งเชื้อไวรัส พยาธิและแบคทีเรียอันตราย
จะเห็นได้ว่าสาเหตุของโรคนั้นส่วนใหญ่ก็เกิดจากพฤติกรรมของตัวเอง จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ มีหลายคนที่คิดว่าตัวเองร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นอะไรง่าย ๆแต่ต้องไม่ลืมว่ามะเร็งเป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการในตอนเริ่มต้น ถ้าไม่มีการตรวจร่างกายอยู่เป็นประจำก็อาจจะไม่พบเจอความผิดปกติเลย ดังนั้นการตรวจสุขภาพประจำเป็นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ หรือการไปตรวจคัดกรองมะเร็งเบื้องต้นก็ถือว่าเป็นวิธีการป้องกันที่ดีเช่นกัน เพราะโรคมะเร็งเป็นโรคที่สามารถรักษาได้ ยิ่งถ้าตรวจพบได้เร็วก็จะทำการรักษาได้อย่างทันท่วงที ลดกระแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้ มีโอกาสหายขาดสูง แต่ถ้าตรวจเจอช้า ระดับอาการของโรคอยู่ในระยะรุนแรงแล้ว การรักษาก็ไม่อาจช่วยได้เต็มที่ บางครั้งก็จะรักษาเพื่อประคองอาการไม่ให้เจ็บปวดหรือทรมานจนเกินไปเท่านั้นเอง
กัญชากับความหวังของผู้ป่วยโรคมะเร็ง
สำหรับผู้ป่วยนั้นการที่ต้องมารับรู้ว่าตัวเองนั้นป่วยเป็นโรคร้ายแรงก็คงทำให้รู้สึกแย่มากพอแล้ว โดยเฉพาะการต่อสู้กับอาการและความเจ็บปวดที่เกิดจากโรคร้ายที่เป็นสิ่งที่ทำให้สภาพจิตใจของผู้ป่วยย่ำแย่ลงไปอีก การรักษาโรคมะเร็งนั้นขึ้นชื่อเรื่องผลข้างเคียงที่มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะการรักษาด้วยวิธีการทำเคมีบำบัดหรือการทำคีโมที่เป็นวิธีรักษามะเร็งที่ได้ผลดีแต่ก็มีผลข้างเคียงมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่อยากอาหาร เป็นต้น
ในวงการแพทย์ทั้งในและต่างประเทศได้มีการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการนำเอากัญชามาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งกันมาอย่างยาวนานแล้ว ส่วนของประเทศไทยนั้น สถาบันมะเร็งแห่งชาติได้มีการศึกษาอยู่ 3 ส่วนหลัก ๆ คือ
1. การวิจัยระดับเซลล์มะเร็ง ที่ศึกษาว่ามีเซลล์มะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ตัวไหนบ้างที่ตอบสนองต่อสารสกัดกัญชา และตอบสนองในสัดส่วนเท่าไหร่ มีผลอย่างไร
2. เมื่อทราบผลการตอบสนองของเซลล์มะเร็งแล้ว ก็จะนำมาทดลองในสัตว์ เพื่อศึกษาว่าสารสกัดกัญชานั้นเมื่อได้มาอยู่ในตัวหนูที่มีเซลล์มะเร็งแล้วจะยังคงตอบสนองได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่ ผลที่ได้จะเป็นคำตอบในเบื้องต้นได้ว่าการจะใช้สารสกัดกัญชารักษามะเร็งนั้นจะต้องใช้ในสัดส่วนเท่าไรถึงจะเหมาะสมต่อการรักษา
3. เมื่อการทดลองในสัตว์จบลงแล้ว ก็จะเข้าสู่การวิจัยในกระบวนการทางคลินิคเหมือนกับการวิจัยยาตัวอื่น ๆ ซึ่งก็จะมีการใช้เวลาที่ค่อนข้างนาน กว่าที่จะได้ผลสรุปออกมา
การนำกัญชามาใช้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าในต่างประเทศนั้นได้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการนำกัญชามาใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง โดยในปี 2518 มีนักวิจัยกลุ่มแรก (Antineoplastic activity of cannabinoids., 1975. Munson AE, Harris LS, Friedman MA, Dewey WL, Carchman RA.) พบว่าสารสกัดจากกัญชามีแนวโน้มว่าจะช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งปอดและยับยั้งการเติบโตของเนื้องอกมะเร็งบางอย่างในหนูทดลองได้ ลดการกระจายตัวของเซลล์มะเร็งไปยังส่วนอื่นๆ กระตุ้นให้เกิดการสร้างโปรแกรมการตายของเซลล์มะเร็งซึ่งเป็นผลที่ดีต่อการรักษาเป็นอย่างมาก และถือเป็นก้าวสำคัญของวงการการแพทย์ที่มีการนำเอากัญชามาใช้รักษาโรค จากการศึกษานี้จึงทำให้มีการศึกษาอื่น ๆ ต่อยอดออกมาอีกมากมาย
สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด พบว่าสาร Nabilone และ Dronabinol ที่อยู่ในสาร THC ของกัญชานั้นมีส่วนช่วยทำให้ผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัดและมักจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนนั้นมีอาการเหล่านี้ลดลง และตัวสาร THC นี้ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นความอยากอาหารในผู้ป่วยได้อีกด้วย แถมยังช่วยลดอาการเจ็บปวดอย่างเฉียบพลันและเรื้อรังได้ ซึ่งที่เป็นผลมาจากโรคมะเร็งนั่นเอง ทำให้ผู้ป่วยนอนหลับได้สบายมากขึ้น ร่างกายพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ การรักษาก็สามารถดำเนินไปได้ด้วยดีมากขึ้น
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการนำกัญชามาใช้รักษาผู้ป่วยมะเร็งนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวผู้ป่วยเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการนำมาใช้นั้นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกลล้ชิดเท่านั้น เนื่องจากโรคมะเร็งเป็นโรคที่มีความรุนแรงและมีการรักษาที่ซับซ้อน แพทย์ประจำตัวผู้ป่วยจะเป็นบุคคลที่รู้จักอาการคนไข้ของตัวเองดีที่สุด ถ้ามีการใช้กัญชาร่วมด้วยจะต้องติดตามอาการและผลข้างเคียงอย่างใกล้ชิด ส่วนผู้ป่วยที่ห้ามใช้สารสกัดจากกัญชาอย่างเด็ดขาดก็คือผู้ป่วยที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการผิดปกติทางจิต ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคตับและโรคไต เพราะสารเหล่านี้อาจจะไปกระตุ้นทำให้อาการกำเริบและเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
สำหรับการนำเอากัญชามารักษามะเร็งนั้นยังถือว่าเป็นการรักษาทางเลือกเท่านั้น การวิจัยต่าง ๆ ก็ยังอยู่ในขั้นทดลอง แม้ว่าจะมีการรับรองการใช้กัญชาทางการแพทย์อย่างถูกกฏหมายแล้ว แต่การตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เท่านั้น เพราะไม่ใช่ว่าคนไข้ทุกคนจะสามารถใช้กัญชารักษาได้ อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ผลิตจากกัญชาหรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก Bloom Express และในอนาคตก็ยังคงมีการศึกษาวิจัยกันต่อไป ได้แต่หวังว่าการนำเอากัญชามาใช้บำบัดโรคมะเร็งนั้นจะก้าวไปอยู่ในจุดที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นความหวังให้แก่ผู้ป่วยได้มีกำลังใจที่จะรักษาตัวเองให้หายจากโรคร้ายเหล่านี้ และวงการแพทย์จะได้มียาดี ๆ เพื่อช่วยให้ผู้รักษาและผู้ป่วยสามารถต่อสู้กับโรคไปด้วยกันโดยที่มีความเจ็บปวดลดลง เพิ่มอัตราการหายขาด เป็นประโยชน์ต่อทุกคนในอนาคตต่อไป