มือกว่า 10,000 คู่ของเด็กน้อย ร่วมสานโครงการฟาร์มสุขภาพของหนู แหล่งโภชนาการสำคัญเพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565

มือกว่า 10,000 คู่ของเด็กน้อย ร่วมสานโครงการฟาร์มสุขภาพของหนู แหล่งโภชนาการสำคัญเพื่อสุขภาพดีอย่างยั่งยืน


ถึงจะเป็นเพียงเด็กเล็กๆ แต่สุขภาพของพวกเขาไม่ใช่เรื่องเล็ก จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ร่วมกับองค์การยูนิเซฟด้านภาวะโภชนาการของเด็กในประเทศไทยครั้งล่าสุด (ปีพ.ศ. 2562) พบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีในประเทศไทย 13.3% ประสบกับภาวะเตี้ยแคระแกร็น 7.7% มีภาวะผอม และ 9.2% มีน้ำหนักเกิน ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าการสำรวจครั้งก่อนหน้านี้ ภาวะดังกล่าวอาจส่งผลต่อไปถึงพัฒนาการด้านสติปัญญาและประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายด้วย

คำถามคือเราจะช่วยกันดูแลให้เด็กๆ ได้เติบโตอย่างมีคุณภาพสมวัย เข้มแข็งทั้งกายและใจได้อย่างไร ปัจจัยที่สำคัญคือการได้รับประทานอาหารครบโภชนาการ และการได้รับการพัฒนาด้านการศึกษาด้วยหลักสูตรการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพโดยสอดแทรกการทำกิจกรรมเสริมทักษะอันเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับชีวิตที่มีคุณภาพในอนาคต

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด และประธานมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย กล่าวว่าแอมเวย์มุ่งมั่นเดินหน้าโครงการฟาร์มสุขภาพของหนูผ่านมูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทย ด้วยการดำเนินกิจกรรมแบบบูรณาการเพื่อตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่องและสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดี โดยมีเป้าหมายในการช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ห่างไกลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด "เด็กได้รับโภชนาการดี มีพัฒนาการสมวัย โรงเรียนเป็นศูนย์กลางความรู้ด้านโภชนาการและการทำเกษตรผสมผสาน และขยายความเข้มแข็ง สู่ชุมชน”

โดยแอมเวย์ได้นำความเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพมาสนับสนุนความรู้ด้านโภชนาการร่วมกับที่ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเชิญกูรูด้านการทำเกษตรผสมผสานแบบปลอดภัยต่อสุขภาพและกูรูด้านการส่งเสริมพัฒนาการเด็กมาร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ให้แก่คุณครูโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและผู้นำชุมชน เพื่อนำความรู้ไปปรับใช้กับแผนงานของโรงเรียน ช่วยให้โรงเรียนดูแลตัวเองต่อได้อย่างยั่งยืน สำหรับกิจกรรมที่เป็นหัวใจหลักภายใต้โครงการฟาร์มสุขภาพของหนู ประกอบด้วย 1. กิจกรรมส่งเสริมโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับเด็ก เพื่อให้เด็กๆ ได้รับโภชนาการครบ 5 หมู่ และเข้าใจถึงคุณประโยชน์ของสารอาหารที่ได้รับ 2. เรียนรู้เทคนิคการทำเกษตรแบบผสมผสานสำหรับเด็กด้วยวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัย เสริมทักษะด้วยการเกษตรเพื่อต่อยอดและพัฒนาไปใช้ในครัวเรือน 3. เรียนรู้การบริหารจัดการพื้นที่การเกษตรเพื่อปลูกพืชที่มีโภชนาการหลากหลาย สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกพืชผักแบบธรรมชาติวิทยา 4. เรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ได้ลงมือทำ (Active Learning) เด็กๆ จะได้รู้จักวางแผน คิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา และเกิดความภูมิใจในผลงานของตัวเอง ปฏิบัติจริงด้วยตัวเองเพื่อให้เข้าใจและสร้างวินัยในการใช้ชีวิตประจำวัน 5. เรียนรู้การบริหารจัดการบัญชีฟาร์ม เพื่อการบริหารจัดการรายได้และรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

ตลอด 4 ปีที่ได้ดำเนินโครงการ “ฟาร์มสุขภาพของหนู” ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มูลนิธิแอมเวย์เพื่อสังคมไทยได้มีโอกาสพูดคุยและลงพื้นที่เยี่ยมชมการดำเนินกิจกรรมตามแผนงานของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนในที่ต่างๆ และได้เห็นถึงความตั้งใจและความร่วมมือร่วมใจระหว่างคุณครู นักเรียน และชุมชนในการร่วมกันนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการไปต่อยอดแนวทางการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการได้เห็นเด็กทุกคนได้รับประทานอาหารที่ครบโภชนาการ ได้มีส่วนร่วมในผลผลิตที่จะกลายมาเป็นมื้ออาหารของพวกเขา และต่อยอดสู่ผลผลิตแปรรูปเพื่อเป็นรายได้ของโรงเรียน เป็นการเพิ่มทักษะชีวิตผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียนอย่างแท้จริง และก่อให้เกิดการพึ่งพาตัวเองอันเป็นแนวทางการทำงานแบบยั่งยืน”



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ