สคฝ.กางโรดแมป5ปี เดินหน้าภารกิจคุ้มครองเงินฝาก ครอบคลุม VIRTUAL BANK โชว์สถิติเงินฝาก เติบโต3.36%

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2566

สคฝ.กางโรดแมป5ปี เดินหน้าภารกิจคุ้มครองเงินฝาก ครอบคลุม VIRTUAL BANK โชว์สถิติเงินฝาก เติบโต3.36%


สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) หรือ DPA เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นคุ้มครองเงินฝากให้ผู้ฝากและประชาชน เปิดแผนโรดแมป 5 ปี (2566-2570) ชู 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ รองรับวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรคุ้มครองเงินฝากที่น่าเชื่อถือและทันสมัย สร้างความมั่นใจให้ผู้ฝากและประชาชน ผ่านสโลแกน “สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พร้อมคุ้มครอง เคียงข้างคุณ” พร้อมรายงานสถิติเงินฝาก ณ สิ้นเดือน ต.ค. 65 พบว่าจำนวนผู้ฝากรวม 89.66 ล้านราย เติบโตกว่า 4.46% ครอบคลุมเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองจำนวน 16.12 ล้านล้านบาท เติบโต 3.36% ทั้งนี้สถาบันฯ เผยด้านมาตรการการคุ้มครองเงินฝากผ่านธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) ผู้ฝากจะได้รับความคุ้มครองตามวงเงินที่กฎหมายกำหนด 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 ธนาคาร และตอกย้ำกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีความเข้มแข็งและมั่นคง พร้อมเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินของประเทศให้มีความมั่นคง

สถาบันคุ้มครองเงินฝากพร้อมขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมทางการเงินและการให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เน้นสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้ผู้ฝากและประชาชนผ่าน 4 ยุทธศาสตร์สำคัญ

ยุทธศาสตร์ที่ 1 พร้อมคุ้มครองผู้ฝากอย่างมีประสิทธิภาพตามพันธกิจการคุ้มครองเงินฝาก ด้านการจ่ายคืนและชำระบัญชี เมื่อเกิดวิกฤตสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต กระบวนการจ่ายคืนผู้ฝากต้องสะดวกรวดเร็ว ผ่านช่องทางที่ทันสมัย ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด สถาบันฯ มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครองทั้ง 32 แห่ง (รายชื่อสถาบันการเงินตามเอกสารแนบ) เพื่อทดสอบการรับส่งไฟล์ข้อมูลสถาบันการเงิน ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล พร้อมระบบประมวลผลข้อมูลและระบบปฏิบัติงานจ่ายคืนผู้ฝาก

ยุทธศาสตร์ที่ 2 พร้อมสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนให้มั่นใจในระบบคุ้มครองเงินฝากและเสริมภูมิคุ้มกันด้านการเงิน โดยการสื่อสารผ่านช่องทางและวิธีที่แตกต่างให้เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงวัย รวมถึงการผนึกกำลังกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อขยายขอบเขตการเข้าถึงและสร้างการตระหนักรู้ให้กับผู้ฝากและประชาชน และการสร้างความร่วมมือด้านการสื่อสารกับหน่วยงานในเครือข่ายความมั่นคงทางการเงิน (FSN) ได้แก่ กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย

ยุทธศาสตร์ที่ 3 พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินให้มีความมั่นคงและยั่งยืน ผ่านการเตรียมความพร้อมในด้านการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานในเครือข่ายความมั่นคงทางการเงิน และมีการพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลเงินฝากเชิงลึก (Data Analytics) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการวิจัยและวิเคราะห์สถานการณ์เงินฝาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน

 

ยุทธศาสตร์ที่ 4 พร้อมพัฒนาศักยภาพองค์กรให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องและมีธรรมาภิบาล ทั้งด้านบุคลากรและระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต โดยเฉพาะระบบปฏิบัติงานจ่ายคืนผู้ฝากและระบบปฏิบัติการภายในต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับช่องทางการสื่อสารเพื่อให้สถาบันฯมีความพร้อมในการดำเนินงานตามพันธกิจอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสให้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องต่อผู้ฝากและประชาชน

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการ สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) กล่าวว่า ด้วยยุทธศาสตร์ระยะที่ 4 ในช่วงต่อจากนี้ตั้งแต่ปี 2566 – 2570 สถาบันคุ้มครองเงินฝากยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพด้านการจ่ายคืนและชำระบัญชี และการสร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชนโดยเพิ่มการเสริมภูมิคุ้มกันด้านการเงินให้ประชาชนมากขึ้น นอกจากนั้น สถาบันได้ปรับทิศทางการดำเนินงานให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมทางการเงินและการให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virtual Bank ที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย อันเป็นผลจากการเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยปัจจุบันจะเห็นว่าหลายประเทศทั่วโลก ได้ออกหลักเกณฑ์ใบอนุญาตให้มีการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา หรือ Virtual Bank เช่น ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, เกาหลี, สิงคโปร์, อังกฤษ เป็นต้น สำหรับ Virtual Bank ในประเทศไทยนั้น การฝากเงินของผู้ฝากจะได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ตามวงเงินคุ้มครองที่กฎหมายกำหนด จำนวน 1 ล้านบาท ต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน เช่นเดียวกัน

จากรายงานข้อมูลสถิติเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2565 พบว่ามีจำนวนเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครอง 16.12 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2564 จำนวน 5.25 แสนล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 3.36% โดยส่วนใหญ่มาจากการพักเงินในบัญชีเงินฝากของผู้ฝากรายใหญ่และกองทุนในช่วงที่ตลาดการเงินมีความผันผวน และภาคธุรกิจที่นำเงินมาพักไว้ในบัญชีเงินฝากเพื่อสร้างสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจ โดยคาดว่าในปีนี้เงินฝากจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของสถาบันการเงิน

ขณะที่จำนวนผู้ฝากที่ได้รับการคุ้มครองมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 89.66 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 3.83 ล้านราย คิดเป็นการเติบโต 4.46% โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของผู้ฝากบุคคลธรรมดาที่มีเงินฝากน้อยกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันผู้ฝากที่ได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวนคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 98.01 (87.88 ล้านราย) ของจำนวนผู้ฝากทั้งหมด ปัจจุบันกองทุนคุ้มครองเงินฝากมีจำนวนรวม 1.37 แสนล้านบาท มีสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง เข้มแข็งและมั่นคง พร้อมคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝาก

ผู้ฝากและประชาชนที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการคุ้มครองเงินฝากได้ที่ เว็บไซต์ www.dpa.or.th หรือช่องทางโซเชียลมีเดียได้ทาง Facebook, Youtube, Twitter, Line, LinkedIn เพียงกดค้นหา dpathailand หรือโทรสอบถามได้ที่ DPA Contact Center 1158



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ