เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ (PCE) ผู้นำธุรกิจน้ำมันปาล์มและระบบโลจิติกส์ครบวงจร กางแผนธุรกิจปี 2566 ตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 35,000 ล้านบาท ชูกลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าต่อยอดธุรกิจ สร้างความเชื่อมั่นและขยายฐานลูกค้า พร้อมรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมปาล์มและยกระดับมาตรฐานสู่ความยั่งยืนในอนาคต
นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (PCE) ผู้นำธุรกิจน้ำมันปาล์มครบวงจร เปิดเผยว่า PCE ถือว่าเป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมันปาล์มครบวงจรรายใหญ่ในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจเกือบ 40 ปี จากการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าและให้บริการ ที่มีคุณภาพและมาตรฐาน พร้อมด้วยระบบการขนส่งทั้งทางบกและทางเรือที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริการคลังสินค้าและท่าเทียบเรืออย่างเป็นระบบ ทำให้บริษัทได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง โดย ปี 2566 PCE ตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับองค์กรให้มีมาตรฐานด้านคุณภาพและบริการ เพื่อก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจและบริการ พร้อมทั้งรักษามาตรฐานด้านสินค้าและบริการ เพื่อให้เกิดการยอมรับและสามารถขยายฐานลูกค้าต่อไปในอนาคต ตลอดจนสร้างการเติบโตและความยั่งยืนทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องในอนาคต ควบคู่ไปกับการบริหารงานด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อทำให้การบริหารจัดการต้นทุนมีประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบกับการสร้างความมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กรและบุคลากร ด้วยระบบการจัดการภายในให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด ภายใต้การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างสังคมที่ดีให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้จุดแข็งของ PCE คือสามารถรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมปาล์มได้อย่างครบวงจร ในช่วงระยะเวลา 3-4ปี ข้างหน้า ทั้งการแปรรูปปาล์มสู่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ การขนส่งทั้งทางเรือและบก คลังสินค้า ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรองรับผลผลิตปาล์มที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต
“ปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไม่น้อยกว่า 35,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ ให้มีมาตรฐานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและขยายฐานลูกค้าในทุกกลุ่มธุรกิจ ด้วยความโดดเด่นด้านการให้บริการที่ครบวงจร ทำให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถือเป็นพันธกิจสำคัญ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจ และการสร้างความเชื่อมั่นต่อลูกค้าและพันธมิตร ตลอดจนการวางรากฐานของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงโครงสร้างทางการเงินให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตในอนาคต” นายประกิตกล่าว
กลุ่มธุรกิจ PCE ประกอบด้วย
นายประกิต กล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในประเทศ ยังอยู่ในทิศทางที่ดี ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการใช้ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อประเทศ ทั้งในด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมโยงกันกับอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งน่าจะยังคงได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจากภาครัฐ โดยประเทศไทยมีผลผลิตปาล์มเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยในปี 2565 มีเนื้อที่เพาะปลูกประมาณ 7 ล้านไร่ มีผลผลิต 19 ล้านตัน หรือประมาณ 2,843 ตันต่อไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีเนื้อที่ 6 ล้านไร่ และมีผลผลิตประมาณ 18 ล้านตัน