ดร.อสมา กุลวานิชไชยนันท์ (ดร.แป้ง) CEO & Co-Founder บริษัท Coraline ผู้เชี่ยวชาญและให้บริการด้าน Big Data เป็นประธานเปิดงานเสวนา และเปิดตัวหนังสือ "Road to Data-Driven Organization หนทางสู่องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” ณ SE-ED Book Center สาขา เซ็นทรัลบางนา ภายในงานเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น ทั้งกลุ่มผู้อ่านที่สนใจหนังสือของ ดร.แป้ง จากหนังสือชุดซีรี่ย์ Big Data และผู้บริหารบริษัทคู่ค้า และบริษัทต่าง ๆ ที่ให้ความสนใจ ซึ่งนอกจากจะได้รับความรู้และวิสัยทัศน์กว้างไกลของผู้นำรุ่นใหม่ไฟแรงจากดร.แป้งแล้ว ยังมีของที่ระลึกสุด Exclusive มอบให้กับผู้ร่วมงานทุกคนด้วย
ดร.อสมา เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการเขียนหนังสือเล่มนี้ว่า เกิดจากประสบการณ์ที่สามารถดำเนินโครงการ Data Driven Transformation จนประสบความสำเร็จ และพบว่าหลายครั้งที่ลูกค้าไม่สามารถวาง Roadmap ได้ หรือลูกค้าบางรายไม่ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารข้อมูล และสนใจแต่เพียงการขึ้น Dashboard ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลเบื้องหลังไม่ได้รับการดูแลอย่างเรียบร้อย เป็นที่มาของผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งหนังสือเล่มนี้จึงได้รวบรวมเอาทั้งความรู้ด้านวิชาการ และประสบการณ์หน้างานของดร.แป้ง ร้อยเรียงเป็นหนังสือ เพื่อกระจายองค์ความรู้ให้ได้กว้างมากที่สุด เพื่อเป็นตัวช่วยให้แต่ละองค์กรมีความตระหนักถึงความสำคัญในการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ และเข้าใจสถานะขององค์กรในการเรียงลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการ
ดร.อสมา กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุผลที่ผู้อ่านควรซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน คือ ผู้บริหารองค์กรทุกคน ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ถ้าเปรียบเทียบข้อมูลเป็นทรัพยากรอย่างหนึ่ง คล้าย ๆ กับทรัพยากรบุคคล แต่ละองค์กรก็จะต้องมีแผนก HR มีระบบ HRM ซึ่งแตกต่างกันที่ขนาดขององค์กร เช่นเดียวกันทุกองค์กรที่มีการเก็บและใช้ข้อมูล เพราะฉะนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลโดยทั้งสิ้น ซึ่งหนังสือที่มีอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นการพูดถึงแบบแยกส่วนกัน เป็นจิ๊กซอว์ที่ไม่รู้จะประกอบร่างอย่างไร เช่น 1.หนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูล หนังสือเกี่ยวกับการวางระบบ Database 2.หนังสือเกี่ยวกับ Digital Transformation เป็นต้น แต่ละเล่มอาจจะลงรายละเอียดแบบเจาะลึกในด้านใดด้านหนึ่ง ในขณะที่หนังสือเล่มนี้ จะนำเรื่องราวในทุก ๆ ด้านมาเรียงร้อยต่อกันเพื่อให้ผู้บริหารเห็นภาพใหญ่ เพื่อใช้เป็นการวางกลยุทธ์ขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานภาครัฐที่มีข้อมูลของประชาชนคนไทยจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นมิติในด้านการจัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ หรือในมิติในด้านการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อสร้างประโยชน์
ทั้งนี้ เพื่อให้องค์กรภาครัฐได้เพิ่มขีดความสามารถในการปรับตัว และสามารถเปลี่ยนตัวเองให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ที่จะส่งผลให้ให้ประเทศไทยได้มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดต่อไปได้ในที่สุด
ดร.อสมา ยังได้ยกตัวอย่างองค์กรที่ได้เข้าไปร่วมพัฒนาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจนเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เช่น ธนาคารออมสิน, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน), และบริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) ซึ่งในกรณีของ วอริกซ์ สปอร์ต เป็นการดำเนินโครงการ Data-Driven Transformation ที่เริ่มตั้งแต่การออกแบบแนวทางในการวางมาตรฐานข้อมูลในองค์กร การบริหารข้อมูล การปรับเปลี่ยนกระบวนการในการทำงานเพื่อใช้เทคโนโลยีดิจิทัล การนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ จนกระทั่งการนำข้อมูลมาใช้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการหารายได้ให้องค์กร
สุดท้าย ดร.อสมา ฝากถึงผู้อ่านด้วยว่า เราอาจจะคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือแปล ก็อยากให้เปิดใจให้กับหนังสือเล่มนี้ ที่เขียนโดยคนไทย ที่คลุกคลีกับปัญหาวัฒนธรรมการจัดเก็บและใช้ข้อมูลในองค์กรไทย โดยหวังให้หนังสือเล่มนี้ ช่วยเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในประเทศไทยได้มากขึ้น หากเรามองว่า “ข้อมูล” เป็นสินทรัพย์ เรากำลังจะเสียสินทรัพย์นั้นไปอย่างไร้คุณค่าโดยที่เราไม่รู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้น คนที่เห็นประโยชน์ของสินทรัพย์นี้ เขาก็พยายามเข้ามาหาประโยชน์จากความไม่รู้ของเรา ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะช่วยกัน เพื่อให้องค์กรของเรา ประเทศของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แป้งหวังว่า ผู้บริหารองค์กรทุกท่าน จะเปิดใจให้กับหนังสือเล่มนี้ และนำความรู้จากหนังสือเล่มนี้ไปพัฒนาองค์กรของท่านให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างสูงที่สุด