“ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป” ประกาศกร้าว 4 ปี คว้า “บอนชอน” อยู่ในกำมือยอดขายโตแกร่ง พิชิตวิกฤติโควิด ปี 66 อัดงบ 100 ล้านรุกขยายสาขาเพิ่มรับกระแสนั่งทานที่ร้านตอกย้ำตัวตึงเบอร์ 1 “ร้านไก่ทอดเกาหลีในไทย”

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

 “ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป” ประกาศกร้าว 4 ปี คว้า “บอนชอน” อยู่ในกำมือยอดขายโตแกร่ง พิชิตวิกฤติโควิด ปี 66 อัดงบ  100 ล้านรุกขยายสาขาเพิ่มรับกระแสนั่งทานที่ร้านตอกย้ำตัวตึงเบอร์ 1 “ร้านไก่ทอดเกาหลีในไทย”


อันยองฮาเซโย !! คำทักทักทายแบบเกาหลีง่ายๆ ที่เชื่อว่าทุกหลายคนคงได้คุ้นหูกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะสายคนชอบเกาหลี เกาใจ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายปีที่ผ่านมากระแส  “Korean Wave” ได้แทรกซึมไปยังหลายๆ ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์เกาหลี เพลง K-pop หรือแม้กระทั่ง “อาหารเกาหลี” กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างมากมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะประเทศไทยสาวกแฟนเกาหลีก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ส่งผลให้กระแสร้านอาหารเกาหลีผุดขึ้นทั่วทุกหนแห่งในประเทศไทย

โดยในปี 2564 ที่ผ่านมาได้มีการคาดกาณ์ว่ามูลค่าตลาดร้านอาหารเกาหลีในไทยอยู่ที่ 1,850 ล้านบาท ลดลงจากปี 2561 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 2,000 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านอาหารโดยรวม ขณะที่ในปี 2565 ถูกคาดการณ์ไว้ว่าวัตถุดิบอาหารเกาหลีเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกที่เข้ามาส่งเสริม ทั้งสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยดีขึ้น ธุรกิจร้านอาหารฟื้นตัว ภาคการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก และเทรนด์ความนิยมเกาหลีของคนไทยที่ยังทรงอิทธิพล จึงทำให้กลุ่มวัตถุดิบอาหารเกาหลียังคงมีการเติบโตกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ช่วงปีนี้จะเห็นว่ามีร้านอาหารเกาหลีใหม่ๆ ผุดขึ้นมามากมายในไทย

แต่เชื่อว่าถ้าพูดถึง หนึ่งแบรนด์ร้านอาหารเกาหลี ที่เป็นไก่ทอดสไตล์เกาหลี ที่มีชื่อเสียงได้และได้รับความนิยมมากในหมู่คนไทยทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยรุ่น วัยทำงาน มายาวนานกว่า 10 ปี ในไทย จนถึงขณะนี้ คงคิดถึงแบรนด์ใหนไม่ได้นอกจาก “บอนชอน หรือ “BonChon Chicken” นั่นเอง  สำหรับประวัติความเป็นมาของแบรนด์ดังกล่าวนั้น ถือกำเนิดขึ้น เมื่อปี 2545 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ โดยชายที่ชื่อว่า จินดุ๊กเซ เขาทำร้านกาแฟ และร้านไก่ย่างมาก่อน แต่เจอกับวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 กิจการจึงต้องปิดตัวลง แต่เขายังไม่ยอมแพ้ และเล็งหาสินค้าตัวใหม่เพื่อความอยู่รอด และก็ลงเอยที่ ไก่ทอด เพราะเป็นเมนูสากลที่คนทานได้ทั่วโลก เขาลงมือศึกษาและคิดค้นสูตรที่แตกต่างจากร้านทั่วไป คือ การทอดซ้ำ 2 ครั้ง เพื่อรีดไขมันใต้หนังไก่ออก ทำให้หนังบางกรอบ เนื้อนุ่ม ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดี มีการบอกกันปากต่อปาก เขาจึงได้เริ่มขยายสาขาไปทั่วเกาหลี ต่อมา จินดุ๊กเซ อยากผลักดันให้ธุรกิจเติบโตขึ้นไปอีก เขาวางแผนจะใช้วิธีขายแฟรนไชส์ แต่ตลาดในเกาหลีไม่เฟื่องฟูนัก จึงเล็งไปที่ต่างประเทศมากกว่า จนได้ไปเปิดสาขาที่อเมริกาในที่สุด แน่นอนว่า ได้รับการตอบรับที่ดี มีคนเข้าคิวรอเป็นชั่วโมง จนมีสื่อลงข่าว ทำให้กระแสของ BonChon แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว

ส่วนการเริ่มต้น BonChon ในไทยนั้น ถูกนำเข้ามาและบริหารโดย บริษัท มาชิสโสะ จำกัด เมื่อปี 2550 ผู้ก่อตั้ง คุณธัญญา ศรีพัฒนาสกุล (คุณธัญญาและครอบครัวถือหุ้น 70%) และ คุณพรพิมล วงศ์ศิริกุล (ถือหุ้น 30%) ซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย ได้มีโอกาสไปทานร้าน BonChon ที่นิวยอร์ค ช่วงที่ไปเรียนต่อที่อเมริกาปรากฏว่าทั้งสองท่าน ชื่นชอบในรสชาติ และมองว่าน่าจะถูกปากคนไทย ประกอบกับคุณธัญญา มีความคิดที่จะเปิดร้านอาหารอยู่แล้ว จึงตัดสินใจติดต่อเพื่อสอบถามความเป็นไปได้ในการขอแฟรนไชส์ทันทีต่อมา ทั้งสองท่าน จึงได้ไปเรียนรู้กิจการกับทางเจ้าของ เป็นเวลาถึง 6 เดือน จนในที่สุด เมื่อ ม.ค. 2554 ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวสาขาแรกที่ทองหล่อ

จนในเมื่อวันที่ 18 พ.ย.2562 บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ได้จัดตั้งบริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด โฮลดิ้ง จํากัด ซื้อกิจการ Bonchon ในสัดส่วน 100% มูลค่าลงทุน 2,000 ล้านบาท โดยวัตถุประสงค์ของการลงทุนในครั้งนั้น เพื่อเป็นเจ้าของและดําเนินกิจการร้านอาหาร Bonchonในประเทศไทย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจของบริษัท และเพื่อผลตอบแทนทางการเงินจากเงินปันผลและส่วนเกินมูลค่าหุ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้แบรนด์ “บอนชอน หรือ “BonChon Chicken” ไก่ทอดสไตล์เกาหลี ก็ได้อยู่ภายใต้การบริหารของ “ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป” มาเป็นระยะเวลา 4 ปีแล้ว โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บอนชอน ประสบความสำเร็จภายใต้การบริหารของไมเนอร์ ฟู้ด อย่างได้อย่างไร ด้วยยอดขายที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นด้วยตัวเลขการเติบโตถึงสองหลัก อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วย

โดยผู้บริหารหนุ่มหล่อ นายธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เล่าว่า หลังจากที่ ไมเนอร์ ฟู้ด (Minor Food) ได้เข้าลงทุนในธุรกิจของบอนชอนเมื่อปี 2562 เป็นต้นมา พบว่าผลการดำเนินงานของบอนชอนนับเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านอาหารที่ประสบความสำเร็จอย่างมากของเครือไมเนอร์ ฟู้ด โดยเฉพาะในแง่ยอดขายผ่านช่องทางเดลิเวอรี ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตโดดเด่นแม้ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องด้วยตลาดไก่ทอดในไทยตลอดหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจ และมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 2 หมื่นล้านบาท เห็นได้จากธุรกิจที่ขยายวงกว้างไปทั่วประเทศ และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งอันเป็นผลจากอิทธิพลทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ของเกาหลี ผนวกกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มาสนับสนุน

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้มองว่ามีทิศทางไปในที่ดีขึ้น เพราะประเทศได้เปิดเต็มที่แล้วโดยภาคการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาดีขึ้นก็จะเป็นปัจจัยบวก สำหรับเรื่องค่าครองชีพในปัจจุบันที่เริ่มคงตัว แต่เราไม่ได้กังวลเพราะไมเนอร์ฟู้ดเราเป็นกรุ๊ปใหญ่ ทำให้เราได้เปรียบในแง่ราคาต้นทุนวัตถุดิบ ส่วนพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังจากโควิดก็มีการเปลี่ยนไปเนื่องจากช่วงโควิดทำให้ไม่สามารถออกไปใหนได้เป็นเวลานานจึงอาจจะค่อนข้างอั้น ดังนั้นพอสถานการณ์กลับมาปกติแล้วลูกค้าเลือกเข้ามารับประทานอาหารในร้านมากขึ้น ทำให้ยอดขายในร้านเราเติบโตดีขึ้น จากในปีทีผ่านมาบอนชอนมีรายได้จากเดลิเวอรีสูงถึง 40% ซื้อกลับบ้าน 10% และ นั่งทานในร้าน 50%  ส่งผลให้ปีนี้นั้นเรากลับมามองในเรื่องของการทำตลาดในร้านอาหารมากขึ้น เนื่องจากลูกค้าเริ่มกลับมานั่งทานที่ร้านแล้ว

ดังนั้นในปีนี้ เราเตรียมงบประมาณราว 100 ล้านบาท ตั้งเป้าจะขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10 สาขา จากปัจจุบันบอนชอนมีสาขาทั้งสิ้น 106 สาขา เพราะเราเห็นว่ามีโอกาสใหม่ หรือห้างสรรพสินค้าที่กำลังเปิดใหม่ภายในปีนี้ โดยเราจะโฟกัสในพื้นที่กรุงเทพฯ 50% และต่างจังหวัดอีก 50% โดยมองพื้นที่บนห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก หรือคอมมูนิตี้มอลล์ เพราะพรีเมียมแบรนด์จะตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันสาขาของบอนชอนในต่างจังหวัดที่ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดี ได้แก่ จันทบุรี พิษณุโลก เชียงราย อุบลราชธานี เป็นต้น

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า สำหรับ เป้าหมายการขยายสาขาเพิ่มเติมในปีนี้ รวมไปถึงความพยายามที่จะรักษาอัตราการเติบโตที่ตัวเลขสองหลักเช่นปีที่ผ่านมา ทำให้บอนชอนตัดสินใจที่จะแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างเป็นทางการคนแรก โดยหวังว่าเจาะกลุ่มเป้าหมายให้มากยิ่งขึ้นโดยได้ดึง “ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี” นักแสดงและนักร้องมากความสามารถแถวหน้าของประเทศไทย มาช่วยสร้างความใกล้ชิดและขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ที่เป็น Gen Z ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทำให้เกิดการพูดถึงและสร้างการรับรู้ของแบรนด์ในวงกว้างได้เป็นอย่างดี ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคาแร็กเตอร์ของไบร์ท-วชิรวิชญ์ ที่เป็นตัวแทนของความทันสมัย โดดเด่น และเข้าถึงง่าย มีความสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ บอนชอนจึงมีความมั่นใจว่า การตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของบอนชอนในครั้งนี้ จะเป็นผลดีในแง่ของการส่งเสริมภาพลักษณ์และยอดขาย รวมไปถึงได้รับผลตอบรับในเชิงบวกจากผู้บริโภค ควบคู่ไปกับขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการ เดินหน้าสร้างการเติบโตผ่านการขยายสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยปีนี้บอนชอนคาดว่าเราจะมีอัตราการเติบโต 20% บวก ซึ่งหวังให้ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำแบรนด์ไก่ทอดเกาหลีอันดับ 1 ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย

ด้าน นายธนกฤต กิตติพนาชนม์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สพูนฟูล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บอนชอน ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมทิ้งท้ายว่า สำหรับปี 2565 ภาพรวมธุรกิจของบอนชอนมีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีการเติบโตเป็น 2 หลัก ภายใต้ 5 กลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อเสริมความแข็งแกร่งและศักยภาพของแบรนด์ในอนาคต ประกอบด้วย การรักษาเอกลักษณ์และมาตรฐานความอร่อยสไตล์เกาหลีแท้ ๆ ที่ไม่เหมือนใครในทุกเมนู ด้วยกรรมวิธีการปรุงอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน เช่น เมนูไก่ทอดเกาหลีซิกเนเจอร์ของบอนชอน ที่ทำมาจากซอสสูตรต้นตำรับนำเข้าจากประเทศเกาหลี ซึ่งผ่านการคิดค้นและพัฒนาสูตรกว่า 10 ปี และการคัดสรรวัตถุดิบสำหรับการปรุงอาหารที่ร้านบอนชอน โดยเฉพาะในซอสสูตร Soy Garlic และซอสสูตร Hot ซึ่งเลือกใช้วัตถุดิบชั้นเลิศจากประเทศเกาหลีทั้งหมด ทั้งเกลือทะเลธรรมชาติคุณภาพสูงจากจังหวัด Jeolla ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก ช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้น้ำซอสได้เป็นอย่างดี หรือกระเทียมสายพันธุ์พิเศษ Dae-seo-jong ที่ให้กลิ่นและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เสริมความอร่อยชวนติดใจไปอีกขึ้น รวมไปถึงวัตถุดิบพรีเมียมอื่น ๆ อีกกว่า 20 ชนิด ที่ถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน เพื่อให้ได้รสชาติความอร่อยเข้มข้นในแบบฉบับเกาหลีแท้ ๆ ตามมาด้วย การสร้างความแตกต่างเมนูใหม่ ๆ และเปิดตัวขนาดใหม่ ไซส์ XS รวมถึงโปรโมชันที่มีความหลากหลาย ครองใจผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด

ดังนั้น บอนชอนจะมีการพัฒนาและคิดค้นเมนูใหม่ ๆ หรือซอสรสชาติพิเศษอยู่เสมอ เพื่อสร้างความแปลกใหม่และตอบสนองความต้องการให้แก่ผู้บริโภค เช่น 100% Crispy Thin Crust ไก่ทอดแป้งบางกรอบ ที่ทาด้วยซอสสูตรลับเฉพาะ เมื่อทาลงบนไก่ทอดแป้งบางกรอบแล้ว ยังสามารถคงความกรอบได้ ควบคู่ไปกับการวางกลยุทธ์ด้านราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยการเปิดตัวขนาดใหม่ ไซส์ XS ในราคาเริ่มต้นเพียง 129 บาท เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และการสื่อสารโปรโมชันที่หลากหลายเพื่อดึงดูดใจให้ผู้บริโภคมาใช้บริการร้านบอนชอนตลอดทั้งปี เพิ่มช่องทางการให้บริการที่ครอบคลุม ทั้งในรูปแบบการรับประทานที่ร้าน การซื้อกลับไปทานที่บ้าน และที่สำคัญคือการสั่งอาหารอย่างสะดวกรวดเร็วผ่านแผลตฟอร์มเดลิเวอรี รวมไปถึงการเจาะกลุ่มลูกค้าฐานใหม่ ๆ อย่างเช่น ร้าน Stand Alone ในปั๊มน้ำมัน เป็นต้น



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ