ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กระแสการบริโภค “น้ำด่าง” ที่มีค่า pH ไม่น้อยกว่า 8.0 เป็นที่นิยมแพร่หลายในต่างประเทศทั้งในญี่ปุ่นและไต้หวันในขณะที่การบริโภคในประเทศไทยยังจำกัดในกลุ่มเฉพาะ และยังมีโอกาสในการเติบโตอีกมากเมื่อเทียบกับธุรกิจน้ำดื่มบรรจุขวดที่มี ขนาดกว่า 28,500 ล้านบาทต่อปี เป้าหมายปีนี้ คือทำให้ “น้ำด่างอิชิตัน” เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น จากผู้ทั้งบริโภคกลุ่มคนเมืองสายสุขภาพ และสายออกกำลัง โดยเฉพาะกลุ่มคน Gen Y ที่เป็น "The Wellness Generation" เนื่องด้วยไลฟ์สไตล์คนกลุ่มนี้ทำงานหนัก มีเวลาว่างน้อย มีผลสำรวจว่ากว่า 73% ทำงานมากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์  มีกลุ่มคนอีก 26% ทำ 2 งานขึ้นไป เพื่อหารายได้เพิ่มมากขึ้น จึงเผชิญกับความเครียด อาการวิตกกังวล รวมถึงอาการ “นอนไม่หลับ” หลับยาก หลับไม่สนิท และตื่นกลางดึก เมื่อพักผ่อนไม่เพียงพอจึงส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ

“แบรนด์ pH PLUS จึงพัฒนา “น้ำด่างอิชิตัน พลัสCBD” นำคุณค่าจาก PURE ISOLATED CBD (Cannabidiol) สารสกัดจากกัญชงคุณภาพสูงจากอเมริกา ผ่านกระบวนการสกัดมาตรฐานระดับโลก เพื่อสกัดเฉพาะ CBD เท่านั้น  ปราศจากสาร THC หรือสารเสพติดออกฤทธิ์มึนเมา CBD  มีประโยชน์ต่อสุขภาพในระดับการแพทย์  มีคุณสมบัติลดความเครียด วิตกกังวลอย่างปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการเสพติด  ในทางการแพทย์ใช้ CBD เพื่อเพิ่มคุณภาพการนอนหลับให้แก่ผู้ป่วย เมื่อนำมาผสานคุณค่ากับน้ำด่าง ด้วยนวัตกรรม Japan Smart Technology จากประเทศญี่ปุ่น ทำให้โมเลกุลน้ำขนาดเล็กช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีขึ้น คืนความสมดุลให้ร่างกาย และหวังตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนไทยให้ดื่มได้บ่อยในชีวิตประจำวัน”

ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า อิชิตัน กรุ๊ป จับอินไซท์คนทำงานยุคใหม่ที่เชื่อเรื่องสุขภาพ โดยจะเน้นการทำการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เจาะกลุ่มคนทำงานในเมืองด้วยแคมเปญ “#CalmModewithIchitanCBD” เพื่อสร้างเอนเกจเมนต์กับพนักงานออฟฟิศในบริษัทชั้นนำทั่วกรุงเทพกว่า 20 บริษัท มั่นใจจะเป็นอีกหนึ่งสินค้าในพอร์ตสุขภาพที่ช่วยจะช่วยผลักดันเป้าหมาย อิชิตันกรุ๊ป ให้มีรายได้ปี 2566 สู่ระดับ 7,300 ล้านบาท หรือโต 15% ตามที่ได้วางไว้”