“ซีอาร์จี” ไม่หวั่นแม้ปีนี้ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น แรงงานหด กระทบธุรกิจอาหาร ลุยเดินหน้า 5 กลยุทธ์ สู่ The Next Chapter of Growth ตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะ 3 พันล้าน

วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2566

“ซีอาร์จี” ไม่หวั่นแม้ปีนี้ต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น แรงงานหด กระทบธุรกิจอาหาร ลุยเดินหน้า 5 กลยุทธ์ สู่ The Next Chapter of Growth ตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะ 3 พันล้าน


ณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจร้านอาหารปี 2566 นี้คาดว่าจะเติบโต 3-5% เมื่อเทียบจากปี 2565 ที่ผ่านมาตลาดรวมร้านอาหารอยู่ที่ 410,000 ล้านบาท เติบโต 14% จากปี 2564 เนื่องมาจากปีนี้ภาพรวมเห็นการฟื้นตัวหลังโควิด -19 คลี่คลาย ผู้บริโภคออกมาช้อป ชิล ชิม หรือรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น การท่องเที่ยวฟื้นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจการบริโภค แม้เทรนด์การบริโภคอาหารภายในร้านกลับมาคึกคักเติบโต แต่บริการเดลิเวอรี่ สั่งอาหารผ่านออนไลน์ยังขยายตัวได้ เป็นอัตราชะลอลงชั่วคราวเท่านั้น แต่ก็ยังมีปัจจัยที่น่ากังวลอยู่ในปีนี้คือความไม่แน่นอนจากวิกฤตสงครามรัสเซียกับยูเครน และแบงก์อเมริกาล้มยังต้องเฝ้าระวังรอดู

อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจร้านอาหารสู่ ‘ก้าวต่อไปแห่งการเติบโต’ หรือ The Next Chapter of Growth ภายใต้งบลงทุนราว 1 พันกว่าล้านบาท (ไม่รวมเงินลงทุนในการร่วมทุนกับพันธมิตร) ผ่าน 5 กลยุทธ์ด้วยกัน คือ 1.ขยายสาขาใหม่ เช่น เคเอฟซี (20 สาขา), คัตสึยะ (30 สาขา), อานตี้แอนส์ (30 สาขา) เป็นต้น โดยรวมแล้วปีนี้จะขยายไม่ต่ำกว่า 150 สาขา ในกรุงเทพ หัวเมืองใหญ่ และเมืองท่องเที่ยว จากปัจจุบันมี 1,500 สาขา อีกทั้งยังจะออกเมนูใหม่ๆ พัฒนาสินค้ากลุ่มพร้อมทาน และผลิตภัณฑ์พร้อมปรุงเช่น ซอส ฯ รองรับการซื้อกลับบ้าน เป็นต้น

2.สร้างธุรกิจใหม่เพื่อการเติบโต ได้แก่ การมองหาแบรนด์ใหม่เสริมพอร์ตโฟลิโอ ซึ่งตามแผนงานบริษัทวางเป้าหมายจะเพิ่ม 1-2 แบรนด์ต่อปี โดยในปี 65 ที่ผ่านมาบริษัทได้เติม 3 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ ร้าน “ราเมน คาเกทสึ อาราชิ” แบรนด์ดังระดับท็อป 3 ในกลุ่มราเมนเครือข่ายจากประเทศญี่ปุ่น, การเข้าร่วมทุนในแบรนด์ "ชินคันเซ็น ซูชิ" และรุกเข้าสู่ธุรกิจร้านปิ้งย่างแบรนด์ “นักล่าหมูกระทะ” ซึ่งได้รับผลตอบรับในทางที่ดี ทำให้ปัจจุบัน CRG มีธุรกิจร้านอาหารอยู่ในเครือถึง 20 แบรนด์ แยกเป็นแบรนด์ของซีอาร์จี 16 แบรนด์ ร่วมพันธมิตร 4 แบรนด์ และแฟรนไซส์ 12 แบรนด์ พร้อมกันนี้จะขยายโอกาสสู่ตลาดใหม่ไปยังประเทศเวียดนาม ทั้ง อาหารไทย อีสานและญี่ปุ่นรองรับประชากรที่มีขนาดเกือบ 100 ล้านคน เป็นคนรุ่นใหม่และมีกำลังซื้อ

3.สร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตร โดยจะเร่งขยายสาขาของร้านอาหารเพิ่มขึ้น ทั้งของชินคันเซ็น ซูชิ, สลัดแฟคทอรี่ และส้มตำนัว ในทำเลห้างค้าปลีกของกลุ่มเซ็นทรัล โรบินสัน รวมถึงรูปแบบสแตนด์อะโลน

4.เพิ่มประสิทธิผลด้วยกลยุทธ์ 3C คือ Cost บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Capex เน้นการลงทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ Cash Flow บริหารกระแสเงินสดและการลงทุนให้มีความคล่องตัว นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการมากขึ้น และ

5.ขับเคลื่อนธุรกิจสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้านบุคลากร, ด้านการลดก๊าซเรือนกระจก ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อลดการใช้ไฟฟ้า รวมถึงการลดขยะและดูแลสิ่งแวดล้อม

ผู้บริหาร กล่าวว่า สำหรับความท้าทายในการทำธุรกิจร้านอาหารปี 2566 คือการรับมือต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น การขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากตลาดฟื้นตัว ทำให้ความต้องการพนักงานเพิ่มขึ้นแต่จากแผนงาน The Next Chapter of Growth บริษัทตั้งเป้าปีนี้จะมียอดขายอยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อนมีรายได้ 12,800 ล้านบาท และภายในปี 2568 คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ