ใครจะไปเชื่อว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดในยุคนี้ก็เกิดขึ้นได้ 2 ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ Grammy – RS จากในอดีตที่เคยเป็น “คู่แข่ง”ฟาดฟันกันมาตลอดในด้านวงการธุรกิจเพลงบ้านเรา แต่วันนี้กลับมาจับมือกันรวมเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกันได้ ซึ่งถือว่าเป็น ปรากฏการณ์ระดับประเทศเลยกว่าได้ที่เราไม่เคยคาดคิด คาดฝันว่าจะเกิดขึ้นตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ล่าสุด ทั้ง 2 บริษัทได้พิสูจน์ความเป็นที่สุดของประเทศด้วยการร่วมมือในการจัดตั้งกิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส (ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE) จัด “ซีรีส์คอนเสิร์ต” รวบรวมศิลปินตั้งแต่ยุค 90 และยุค 2000 ของทั้ง 2 ค่ายมารวมตัวบนเวทีเดียวกันอย่างอัดเเน่น เพื่อส่งมอบความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดให้คนไทย ซึ่งเป็นโปรเจกต์ยักษ์ต่อเนื่องแบบ 3 ปี โดยจะมีการกำหนดหน้าหนังการแสดงเป็นปีต่อปีโดยทั้ง 2 บริษัทเล็งเห็นว่าต้องการเป็นเสาหลักในการผลักดัน และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเพลงไทยให้เติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน)หรือ GRAMMY กล่าวว่า การจัดโปรเจกต์นี้เริ่มต้นคุยกันตั้งแต่ 5 ปีก่อน โดยผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย (อากู๋ แกรมมี่และเฮียฮ้อ อาร์เอส) ต่างรับรู้และปล่อยให้ผู้บริหารลงมือทำงานกันเอง โดยทาง GMM MUSIC และ RS MUSIC ได้จัดตั้งกิจการร่วมค้าอะครอสเดอะยูนิเวิร์ส (ACROSS THE UNIVERSE JOINT VENTURE) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมจัด SERIES CONCERT (ซีรีส์คอนเสิร์ต) ซึ่งในปี 2566 จะมี 3 คอนเสิร์ตใหญ่ ใน 3 ธีมที่แตกต่าง ในเดือนกรกฎาคม กันยายน และตุลาคมตามลำดับ โดยการจัดซีรีส์คอนเสิร์ต ใช้กลยุทธ์การตลาด Nostalgia Marketing ตอบสนองความต้องการของผู้คนที่โหยหาความสุขในอดีต ซึ่งบทเพลงและท่าเต้นที่เคยโด่งดังกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถดึงความสนใจและสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) กับผู้บริโภคผ่านศิลปินคนโปรดที่คิดถึง ตอบรับเทรนด์ 90s และ Y2K ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน
สำหรับวัตถุประสงค์เพื่อร่วมจัด SERIES CONCERT (ซีรีส์คอนเสิร์ต) ครั้งประวัติศาสตร์ ที่รวบรวมศิลปินตั้งแต่ยุค 90 และยุค 2000 ของทั้ง 2 ค่ายมารวมตัวกันอย่างอัดเเน่น นำโดย เจ เจตริน, ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, คริสติน่า อากีล่าร์, แร็พเตอร์, ใหม่ เจริญปุระ, โดม ปกรณ์ ลัม, มอส ปฏิภาณ, ลิฟท์-ออย, ทาทา ยัง, เต๋า สมชาย, นิโคล เทริโอ, เจมส์ เรืองศักดิ์, มาช่า วัฒนพานิช, นุ๊ก สุทธิดา, นัท มีเรีย, เกิร์ลลี่ เบอร์รี่, ซาซ่า, โฟร์ ศกลรัตน์, กอล์ฟ พิชญะ, หวาย, 2002 ราตรี, ไชน่าดอลส์, แคทรียา อิงลิช, เนโกะจัมพ์, ญาญ่าญิ๋ง, เฟย์ ฟาง แก้ว, เป๊ก ผลิตโชค, แดน-บีม, ลิเดีย ศรัณย์รัชต์, ชิน ชินวุฒ, บาซู, ไอซ์ ศรัณยู, ดัง พันกร, แบงค์ ปรีติ, ปาน ธนพร, หนุ่ม กะลา, แหม่ม พัชริดา, โบ สุนิตา, ฟลุ๊ค ไอน้ำ, อ๊อฟ ปองศักดิ์, ศรราม, จั๊ก ชวิน, นิว-จิ๋ว, โจ๊ก โซคูล, อู๋ ธรรพ์ณธร, แอม เสาวลักษณ์, หญิงลี, ไท ธนาวุฒิ, ปีเตอร์ คอร์ป, อี๊ด ฟลาย, ป๊อป ปองกูล, อนัน อันวา และศิลปินอีกมากมาย ซึ่งแน่นอนว่า นี่คือการจัดคอนเสิร์ตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้ โดยปี 2023 จะมีการจัด 3 คอนเสิร์ตที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในเดือนกรกฎาคม กันยายน และตุลาคมตามลำดับโดยรายละเอียดของแต่ละคอนเสิร์ตจะมีการสื่อสาร โปรโมทแยกเป็นครั้ง ๆ ต่อจากนี้เป็นต้นไป
“เราคาดว่าโปรเจกต์นี้จะหนุนในอุตสาหกรรม Show Biz เพลงไทยนั้นได้กลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง โดยคาดโตราว 10 % จากปกติอุตสาหกรรม Show Biz โตในระดับพันล้านบาท และเชื่อมั่นว่าจากกระแสตอบรับของผู้บริโภคหลังมีข่าวการผนึกกำลัง จะช่วยให้การจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตขายหมดได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสปอนเซอร์ยักษ์ใหญ่ที่เริ่มทยอยเข้ามาติดต่อมากขึ้น หนุนให้มีอัตรากำไรที่ดีอย่างแน่นนอน โดยการรวมทุนครั้งนี้เราทั้ง 2 บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 220 ล้านบาทต่อปี และคาดหวังกำไรจากการจัดเสิร์ตในปีแรก ราว 40-50 % จากการลงทุน พร้อมตั้งเป้าระยะ 3 ปี จะมีรายได้ที่ 660 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 บริษัทพร้อมที่สร้างโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ที่อาจจะมีรูปแบบที่นอกเหนือจากคอนเสิร์ตในอนาคตได้”
ด้าน นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS และในฐานะ กรรมการ กิจการการร่วมการค้าอะครอส เดอะยูนิเวิร์ส ซึ่งเป็นผู้ดูแลโปรเจ็กต์ฝั่ง อาร์เอส กรุ๊ป กล่าวว่า การร่วมลงทุนในครั้งนี้เป็นการร่วมทุนแบบ 50 / 50 ของทั้ง 2 ฝ่าย โดยใช้งบลงทุนราว 100 ล้านบาทในปีแรก ส่วนการแบ่งสัดส่วนของรายได้ และสัดส่วนของกำไรต่างๆ นั้น เป็นตามข้อตกลง โดยแบ่ง 50 / 50 เช่นกัน และคาดว่าอาจจะมีการลงรูปแบบ STEAMING ด้วย ที่จะมาสร้างรายได้ในอนาคต รวมถึงคาดยอดผู้ใช้ฟังเพลงเพิ่มขึ้นของทั้ง 2 ค่ายด้วย ส่วนการจัดงานในรูปแบบอื่นๆ ในอนาคต อาร์เอส กรุ๊ป จะประเมินทิศทางกันร่วมกันอีกครั้ง เพื่อเพิ่มช่องทางผลประกอบการเติบโตได้ต่อเนื่อง
“อาร์เอส และ แกรมมี่ เป็นเพื่อนร่วมสร้างอุตสาหกรรมเพลงของไทยมาด้วยกัน ครั้งนี้เป็นโอกาสพิเศษมาก ๆ ที่เราได้มารวมตัวกันเพื่อสร้างปรากฏการณ์ความสุขที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนให้กับแฟน ๆ รวมถึงมอบความสุขให้กับศิลปินทั้ง 2 บริษัท ได้ร้องเพลง และเต้นกันแบบเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ในมุมของธุรกิจ ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือในรูปแบบ JV เพื่อการจัดคอนเสิร์ต GRAMMY RS โดยเฉพาะ ซึ่งทั้งสองฝ่ายลงทุนเท่ากัน ช่วย Support กันในทุกด้านของการทำงาน ในขณะเดียวกัน เราก็คาดหวังให้แฟนคลับ ศิลปิน ทีมงานทุก ๆ คน มีความสุขจากการเข้าร่วม และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของคอนเสิร์ต GRAMMY RS ไปด้วยกัน”