• ต้นแบบตลาดกลางค้าส่งระดับโลก ที่บริหารจัดการครบวงจร การจัดประเภทสินค้า การให้บริการอย่างมีระบบโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การจัดระบบแรงงาน และการเก็บข้อมูลราคาสินค้าที่องค์กรและเกษตรกรนำไปใช้อ้างอิงเป็นราคากลางของประเทศ
• สี่มุมเมือง คือ เมืองแห่งโอกาสและการสร้างสร้างอาชีพที่มั่นคงยั่งยืน เป็น Sustainable Ecosystem ที่เชื่อมโยงกันเป็นฟันเฟือง ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย แรงงาน และชุมชน รวมกว่า 70,000 คน
• ตลาดค้าส่งเพื่อความยั่งยืน สร้าง Circular Economy ที่ดำเนินธุรกิจให้มีความสมดุลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม
• มุ่งมั่นพัฒนาต่อยอดธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ Customer Centricity การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
ตลาดสี่มุมเมือง ฉลองความสำเร็จพร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 40 อย่างยิ่งใหญ่ ตลาดค้าส่งผักผลไม้ของสดชั้นนำของเอเชีย ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเคียงข้างคนไทยมาตลอด 4 ทศวรรษ เป็นศูนย์กลางที่เกษตรกรนำสินค้ามาจำหน่ายบนพื้นที่กว่า 350 ไร่ เพื่อกระจายวัตถุดิบอาหารไปทั่วประเทศด้วยสินค้ากว่า 8,000 ตันต่อวัน ยืนหยัดเคียงคู่เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้า แรงงาน ชุมชน ตลาดสด ร้านอาหาร โรงแรม องค์กร และผู้บริโภค ต้นแบบตลาดกลางค้าส่งระดับโลก ที่มีการบริหารจัดการที่ทันสมัยครบทุกมิติ
อย่างไรก็ตาม ตลาดสี่มุมเมืองเป็นตลาดต้นแบบของตลาดค้าส่งผักผลไม้ของสดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตลอด 40 ปี ตลาดสี่มุมเมืองไม่เคยหยุดพัฒนา มีการนำเทคโนโลยีผสมผสานกับระบบการจัดการที่เข้าใจง่ายและมีประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ
-ตลาดแรกที่มีการวางระบบแบบแยกประเภทสินค้าเป็นหมวดหมู่โซนตลาดอย่างชัดเจน (โซนผัก ของสด เครื่องปรุง 12 อาคารตลาด, โซนผลไม้ 7 อาคารตลาด, ตลาดดอกไม้และสังฆภัณฑ์, ลานคอนเทนเนอร์ และโซนอาคารห้องเย็น) ทั้งหมดตั้งอยู่บนพื้นที่ 350 ไร่
-ตลาดแรกที่กำหนดมาตรฐานสินค้าเป็นคำเรียกเฉพาะ (อาทิ LA (ใหญ่ สวย) MA (กลาง สวย) SA (เล็ก สวย)) เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
-ศูนย์กลางของข้อมูลราคาสินค้า ผัก ผลไม้ วัตถุดิบอาหาร ดอกไม้ ที่องค์กรรัฐและเอกชน เกษตรกร ผู้ประกอบการและสื่อมวลชนใช้อ้างอิงเป็นราคากลางของประเทศไทย
-มีฝ่ายตรวจสอบสารพิษภายใต้มาตรฐานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สุ่มตรวจสินค้าที่จำหน่ายในตลาดทุกวัน และยังเปิดให้ผู้ที่สนใจที่ต้องการใบรับรองเพื่อส่งออกเข้ามาใช้บริการได้
-เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อมากขึ้นด้วย Simummuang Online มาร์เก็ตเพลสที่ผู้ซื้อสามารถสั่งสินค้าผ่านทางออนไลน์ ทำให้เข้าถึงสินค้าได้โดยตรงกับแผงค้าในตลาดฯ และได้ราคาส่งโดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาซื้อสินค้าด้วยตัวเอง รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรและผู้ค้าส่งในตลาดฯ สามารถเข้าถึงผู้ซื้อได้ง่ายขึ้น
มากกว่าตลาดค้าส่ง “สี่มุมเมือง” คือ เมืองแห่งโอกาส
ตลาดสี่มุมเมืองเป็นมากกว่าตลาด แต่เป็นเมืองแห่งโอกาสและแหล่งสร้างอาชีพเป็น Sustainable Ecosystem ที่เชื่อมโยงกันเป็นฟันเฟือง ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย แรงงาน ชุมชน โรงเรียน และเครือข่ายรถเร่สี่มุมเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ รวมกว่า 70,000 คน 24 ชั่วโมง ตลอด 40 ปี ที่ไม่เคยหยุด ทำให้หลายครอบครัวมีรายได้ มีชีวิตที่ดีขึ้น ส่งลูกเรียนจบ ปลดหนี้สิน ตลาดสี่มุมเมืองกลายเป็นพื้นที่แห่งความผูกพันจากรุ่นสู่รุ่น การซื้อขายอย่างซื่อสัตย์ บริการอย่างคนรู้ใจ เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุด คุณค่าที่ส่งต่อจนถึงผู้บริโภค ทั้งหมด คือ รากฐานสำคัญที่ทำให้ตลาดสี่มุมเมืองแข็งแกร่งและมั่นคง
“ครอบครัวสี่มุมเมือง” หลังคาทุกอาคารตลาดของสี่มุมเมืองมาจากโลโก้ของตลาด ซึ่งสื่อถึงหลังคาบ้านที่พร้อมจะปกป้องและเป็นที่พึ่งให้กับทุกคนในตลาดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมาจากอักษรจีน 人 อ่านว่า เหริน แปลว่า “ผู้คน” ที่นี่เปรียบเสมือนบ้านหลังใหญ่ของทุกคน
นอกจากนี้ ตลาดสี่มุมเมือง ยังมีบทบาทในการดูแลหมู่บ้านภายในโครงการกว่า 10,000 หลังคาเรือน รวมถึงก่อตั้งโรงเรียนพัฒนาวิทยา เพื่อดูแลด้านการศึกษาให้กับบุตรหลานของคนในชุมชน พ่อค้าแม่ค้า และพนักงานอีกด้วย
ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดค้าส่งเพื่อความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Circular Economyตลาดสี่มุมเมืองดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักความสมดุลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งตลาดฯ ให้ความสำคัญเรื่องขยะ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า และคืนน้ำดีให้กับชุมชน ทั้ง 3 สิ่งล้วนมีผลงานเชิงประจักษ์
-ด้านบริหารจัดการขยะ ตลาดสี่มุมเมืองได้รับรางวัลชนะเลิศ ผลงานประเภทการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ (Resource Efficiency) จาก TGDA 2021 เป็นต้นแบบของตลาดที่มีระบบการจัดการขยะ เป็นรูปธรรมและมีความยั่งยืน สามารถ Recycle และ Upcycle 40% จากขยะทั้งหมด 230 ตัน ต่อ วัน ทำให้ลดการฝั่งกลบและสร้างรายได้เพิ่มอีกด้วย
-การจัดการขยะอินทรีย์ นำเศษผักกว่า 190 ตันต่อวัน สามารถเปลี่ยนเป็นอาหารปลาได้ถึงวันละ 50 ตันต่อวัน และสามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารโคได้ 20 ตันต่อวัน
-การจัดการขยะอนินทรีย์ นำขวดแก้ว กล่องโฟม กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะจากทั้งในตลาดและหมู่บ้านไปจำหน่ายต่อให้กับโรงงานและบริษัทที่รับซื้อเพื่อไปรีไซเคิลต่อไป และมีรถบริการรับซื้อขยะถึงที่
-ลดการใช้ไฟฟ้าด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ บนหลังคาของโซนห้องเย็น และหลังคาอาคารตลาดต่าง ๆ กว่า 4,000 ตารางเมตร (1,271 แผ่น) สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้มากถึง 12% ต่อเดือน
-คืนน้ำดีให้กับชุมชน ตลาดฯ ลงทุน 40 ล้านบาท นำเทคโนโลยี Activated Sludge มาใช้บำบัดน้ำเสียทั้งจากตลาดและหมู่บ้าน ได้มากถึง 6,500ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และผ่านการรับรองจากสำนักสิ่งแวดล้อม จังหวัดปทุมธานี น้ำที่ได้จากการบำบัดถูกนำไปใช้ประโยชน์รอบตลาด เช่น ล้างพื้นตลาด รดน้ำต้นไม้ รวมทั้งปล่อยน้ำดีคืนให้กับแหล่งน้ำของชุมชนต่อไป โดยทุกโครงการได้รับความร่วมมือจากผู้ค้า แรงงาน พนักงานทุกคน และชุมชนรอบตลาดฯ ที่ร่วมผนึกกำลังขับเคลื่อนการดำเนินงานประสบความสำเร็จและอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
เตรียมเปิดตลาดดอกไม้ปลายปี 2566 และโครงการระยะ 3 ในปี 2568
ตลาดสี่มุมเมืองยังพัฒนาต่อยอดธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ Customer Centricity คือ การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางด้วยการเพิ่มโซนสินค้าเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค
-พฤษภาคม 2566 เปิดบริการตลาดปลา-อาหารทะเล บนพื้นที่ 6,700 ตร.ม. ประกอบไปด้วย 2 โซน คือ โซนสินค้าปลาน้ำจืด ขายส่งกลุ่มปลาเศรษฐกิจ และโซนสินค้าอาหารทะเล ขายส่งอาหารทะเล
-พฤศจิกายน 2566 เปิดบริการตลาดดอกไม้ยุคใหม่ ขยายจากตลาดดอกไม้เดิมขึ้น 150% บนพื้นที่ 5,200 ตร.ม. ประกอบไปด้วย 4 โซน คือ โซนดอกไม้ไหว้พระ โซนดอกไม้ประดับ โซนสังฆภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่ง และโซนจัดแต่งดอกไม้
-ปี 2568 เตรียมเผยโปรเจกต์ใหญ่ โครงการระยะที่ 3 ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ที่ตลาดยังไม่เคยทำมาก่อน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนตลอดเวลา