นายหาน ซิ่งจ้าย ผู้จัดการทั่วไปของสาขาต่างประเทศ บริษัท ออปเปิ้ล ไลท์ติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไฟฟ้าเบอร์ 1 ในประเทศจีน กล่าวว่า นับตั้งแต่การก่อตั้ง OPPLE ในปี 2539 การเดินทางของ OPPLE เกิดจากการเติบโตและการทำงานร่วมกันระหว่างบริษัทและพันธมิตร รากฐานของบริษัทถูกสร้างขึ้นบนหลักการในการช่วยเหลือผู้อื่น และหลักปฏิบัตินี้มีส่วนสำคัญในวิวัฒนาการของบริษัททั้งในระดับโลก โดยปัจจุบันออปเปิ้ลเป็นผู้ผลิตอันดับหนึ่งในประเทศจีน ความสำเร็จของออปเปิ้ลมาจากการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ให้บริการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมสำหรับลูกค้า และเป็นผู้บุกเบิกสินค้านวัตกรรมและนำเทรนด์ตลาด บริษัท ออปเปิ้ล ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2539 ปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายในมากกว่า 70 ประเทศ โดยตลาดหลักยังคงเน้นที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศตะวันออกกลาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยเราได้เข้ามาทำตลาดมาประมาณ 10 ปีแล้ว โดยบริษัทจะทำงานคู่กับผู้แทนจำหน่าย และให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพให้กับพันธมิตรของบริษัท ด้วยการจัดสรรเครื่องมือ ทรัพยากร และการสนับสนุนที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม การตลาด หรือการร่วมมือทางเทคโนโลยี ทั้งนี้เพื่อให้เราเติบโตอย่างยั่นยืนในอนาคต สำหรับในปี 2565 ที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของ OPPLE สู่ความเป็นเลิศและความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น ความสัมพันธ์ของบริษัทกับตัวแทนในตลาดประเทศไทยถือเป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จ OPPLE ความร่วมมือเหล่านี้สร้างขึ้นจากความไว้วางใจ การเคารพซึ่งกันและกัน และวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันช่วยให้ OPPLE สามารถขยายฐานลูกค้า และปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น ตัวแทนของบริษัทซึ่งมีข้อมูลเชิงลึกในตลาดท้องถิ่นและความเข้าใจถึงความแตกต่างในท้องถิ่นถือเป็นปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญในการช่วย OPPLE ปรับข้อเสนอแนะ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทไม่เพียงตอบสนองได้ แต่ยังเกินความคาดหวังของลูกค้า การทำงานร่วมกันนี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนผลการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำชื่อเสียงของ OPPLE อีกด้วย
นายหาน กล่าวว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการบุกตลาดเมืองไทย เนื่องจากอุตสาหกรรมแสงสว่างของไทยมีขนาดใหญ่ มีความโดดเด่นและมีการเติบโตที่น่าสนใจ และมีศักยภาพตลาดที่สูง มีโอกาสมากมายโดยเฉพาะในงานโครงการที่เฉพาะเจาะจง จึงได้ ได้เตรียมบุกตลาดผลิตภัณฑ์แสงสว่างในเมืองไทยในเชิงรุกตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันออปเปิ้ลมียอดขายจากตลาดนอกประเทศจีนเพียงประมาณ 10 % เท่านั้น ดังนั้นออปเปิ้ลจึงมีแผนที่จะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยตลาดที่อยู่ในความสนใจมีหลายพื้นที่ ได้แก่ ยุโรป ,ดูไบ,อินเดีย,ประเทศไทย,อินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นต้น
‘’เรามีเป้าหมายจะขึ้นเป็นผู้นำหนึ่งในสามของตลาดผลิตภัณฑ์แสงสว่างในประเทศไทยภายใน 5 ปี,’’นายหานกล่าวและว่า บริษัทเตรียมนำไฟอัจฉริยะ(Smart Lighting) มาวางจำหน่ายในประเทศไทย เพราะคาดการณ์ว่า จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดไฟอัจฉริยะของประเทศไทยในรอบ 5 ปีต่อจากนี้”
ด้าน นางสาวดวงสมร ตะล่อมสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เกาอาน จำกัดผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์แสงสว่างออปเปิ้ลในประเทศไทย กล่าวต่อว่า เกาอาน ดำเนินธุรกิจเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้าประเภทอุปกรณ์ด้านไฟฟ้า ได้แก่ สายไฟ สายเคเบิ้ล ปลั๊กไฟฟ้า อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ อย่างครบวงจรมาตั้งแต่ปี 2490 ซึ่งมากกว่า 70 ปี จากประสบการณ์นี้ และความเป็นตัวแทนที่มีคุณภาพ มีความมั่นคง มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ มีการคัดเลือกสินค้าที่ได้มาตรฐาน เข้ามาจัดจำหน่ายในไทยมีความหลากหลาย เพื่อเลือกสินค้าที่คุ้มค่า คุ้มราคา
ทั้งนี้ บริษัทได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย กลุ่มผลิตภัณฑ์หลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่าง OPPLE LIGHTING รายเดียวในประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กระจายสินค้าหลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่าง OPPLE LIGHTING ให้ครอบคลุมทั่วประเทศผ่านร้านดีลเลอร์กว่า 700 แห่งทั่วประเทศไทยและร้านไทวัสดุทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ยังเตรียมเปิดช็อปออปเปิ้ลที่ร้านดีลเลอร์ในย่านทองหล่อ ภูเก็ต และเชียงใหม่ เพื่อให้ลูกค้าเป้าหมายได้เปรียบเทียบและสร้างประสบการณ์การใช้สินค้าออปเปิ้ล รวมทั้งการสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาดต่างๆ ทั้งออนไลน์และออพไลน์ นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมนำสินค้าสมาร์ทไลท์ติ้งมาวางตลาดปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการลูกค้าที่นิยมใช้สมาร์ทโปรดักส์ตามแนวโน้มตลาดโลก
สำหรับสินค้าของออปเปิ้ลไลท์ติ้ง เกาอานได้เลือกหลอดไฟแอลอีดีมาทำการตลาด เพราะมั่นใจในสินค้า และคุณภาพ เนื่องจากออปเปิ้ลมีโรงงานเป็นของตัวเอง มีการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) ของตัวเอง จึงได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีค่าแสงสว่าง เสมอต้นเสมอปลาย มีอายุการใช้งานยาวนาน และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานเดียวกันกับที่ส่งออกไปต่างประเทศ
“ถ้าเรื่องของแสงสว่าง ต้องนึกถึงเกาอาน เพราะเกาอาน มีทีมขาย ทีมขนส่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ มีความเชี่ยวชาญ และเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี มีบริการหลังการขาย สามารถส่งของได้ตรงเวลา มีการพัฒนาบุคลากรอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่เป็นดีลเลอร์ของเกาอาน สามารถจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ทำส่วนลดรายเดือน-รายปี สามารถสะสมยอดขายได้ และที่สำคัญจะไม่เกิดการแข่งขันกันเองระหว่างดีลเลอร์ แต่มีการเติบโตต่อไปในอนาคตร่วมกันกับเกาอาน” นางสาวดวงสมร กล่าว
