จากสถิติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในปี 2566 ชี้ให้เห็นว่าจำนวนผู้เป็นโรคติดต่อประจำฤดูกาลพุ่งสูงขึ้นมาก โดย ในไตรมาสที่สามของปี 2566 (กรกฎาคม – กันยายน) ซึ่งตรงกับช่วงหน้าฝน พบผู้เป็นโรคไข้เลือดออกเดงกี จำนวน 58,576 เคส โรคปอดบวมหรือปอดอักเสบ จำนวน 80,592 เคส และ โรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 206,802 เคส เหล่านี้สะท้อนถึงการติดต่อที่ง่ายขึ้นและเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ๆที่มีความรุนแรงมากขึ้น การเจ็บป่วยเหล่านี้ สร้างความสูญเสียให้กับผู้ป่วยทั้งเสียเวลาในการรักษาและเสียค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนมาก
นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า ปีนี้ช่วงหน้าฝน คนไทยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์เอ เยอะมากกว่าปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 650 % เท่ากับปีนี้มีคนเป็นไข้หวัดใหญ่ 2 แสนกว่าราย ขณะปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวันมีแค่ 3 หมื่นกว่ารายเองจึงเป็นข้อมูลที่น่าตกใจ และทางเราจึงมองว่าคนไทยควรตระหนักในการดูแลสุขภาพของตัวเอง ดังนั้น เราควรมาดูการป้องกันตัวเองอย่างไร อย่างเช่น กินอาหารให้ทุกต้อง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย และควรใส่แมสป้องกันอยู่ในการออก นอกบ้านอยู่ แต่เราก็มาสามารถกันได้ทุกโรค จึงอยากให้คนไทยสนใจการทำประกันเพื่อดูแลสุขภาพด้วย โดยเฉพาะในเรื่องค่าใช้จ่าย เพราะแต่ละครั้งไปโรงพยาบาลเสียค่ารักษา 3-4 หมื่นบาทเลยทีเดียว
ล่าสุด อลิอันซ์ อยุธยา จึงได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ #กันก่อน ดีที่สุด รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงภัยจากเชื้อโรคร้ายรอบตัว และสนใจดูแลตนเองอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ เพียงเริ่มต้นด้วยเรื่องง่ายๆ เช่น การบำรุงร่างกายให้แข็งแรง การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ด้วยตนเอง ขณะเดียวกันการมีประกันสุขภาพก็เป็นทางเลือกเพื่อคุ้มครองและลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดเจ็บป่วยขึ้น
สำหรับ แคมเปญ #กันก่อน ดีที่สุด ได้นำแนวคิดเรื่องไวรัสคอมพิวเตอร์เข้ามาสร้างสีสันในการสื่อสาร ที่คอมพิวเตอร์อาจถูกแฮ็กหรือถูกจู่โจมด้วยไวรัส (เชื้อโรค อิเล็กทรอนิกส์) ได้ทุกเมื่อ หากไม่มีโปรแกรมหรือซอฟแวร์ป้องกัน และการ “กู้” เทคโนโลยีให้กลับมาใช้การได้ตามปกตินั้นต้องใช้ “เวลา” หรืออาจกลับมาไม่ได้เลย เช่นเดียวกับสุขภาพของคนเราที่ปัจจุบันถูกโจมตีจากเชื้อโรคหลายสายพันธุ์ นั่นก็เพราะเราชะล่าใจ ไม่ดูแล จนป่วย ทำให้ต้องใช้ทั้งเงินจำนวนมากในการรักษา และเสียเวลาบางส่วนในชีวิตไปอีกด้วย แคมเปญนี้จึงปูพรมเริ่มแฮ็กพื้นที่สื่อเอ้าดอร์ บิลบอร์ด ทั่วกรุงเทพมหานคร ฉายภาพหน้าจอเสมือนคอมพิวเตอร์ถูกแฮ็ก ด้วยคำเตือนคนไทย ดูแลตัวเองเพื่อป้องกันสุขภาพก่อนเชื้อโรคจู่โจม มุ่งทลายความคิดการผลัดวันประกันพรุ่งในเรื่องการดูแลสุขภาพ ทั้งการดูแลให้ร่างกายแข็งแรง และการทำประกันสุขภาพเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายเมื่อเจ็บป่วย
“แคมเปญนี้เป็นอีกหนึ่งแคมเปญใหญ่ที่จะสร้างกระแสความตื่นตัวให้คนไทยหันกลับมาดูแลตนเองทั้งในมุมของการป้องกันโดยการดูแลร่างกายให้แข็งแรงควบคู่ไปกับการวางแผนเพื่อรองรับความไม่แน่นอนจากโรคร้ายต่างๆด้วยการทำประกันสุขภาพ ซึ่งไม่เพียงแค่สื่อเอ้าดอร์เท่านั้น เรายังมีการทำโรดโชว์เพื่อเข้าถึงประชาชนในเชิงรุกเพื่อให้ความรู้เรื่องจำเป็นเหล่านี้ โดยเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญนี้ จะไม่เพียงสร้างประโยชน์ด้านการป้องกันสุขภาพให้กับประชาชนไทย แต่ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะผู้นำผลิตภัณฑ์คุ้มครองชีวิตและสุขภาพในใจของลูกค้าคนไทยอีกด้วย” นางสาวพัชรา กล่าวทิ้งท้าย