“สุริยะ” ชื่นชม “ตำรวจทางหลวง-สอบสวนกลาง” หลังร่วมจับกุมรถบรรทุกรายใหญ่ เหตุขนดินน้ำหนักเกิน

วันพุธที่ 06 ธันวาคม พ.ศ. 2566

“สุริยะ” ชื่นชม “ตำรวจทางหลวง-สอบสวนกลาง” หลังร่วมจับกุมรถบรรทุกรายใหญ่ เหตุขนดินน้ำหนักเกิน


“สุริยะ” ชื่นชม “ตำรวจทางหลวง-สอบสวนกลาง” หลังร่วมจับกุมรถบรรทุกรายใหญ่ เหตุขนดินน้ำหนักเกินมากกว่ากฎหมายกำหนดถึง 23,170 กก. บน ทล.346 จ.ปทุมธานี พร้อมสั่งหน่วยงาน “คมนาคม” เดินหน้าแก้ไขปัญหาเชิงรุก หวังอำนวยความสะดวกการเดินทางประชาชนอย่างปลอดภัย-มีประสิทธิภาพในทุกมิติ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากการประชุมแนวทางแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมฯ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมานั้น กระทรวงคมนาคมร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการการดำเนินงานแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริตที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด รวมถึงแก้ไขปัญหาส่วยสติกเกอร์ทางหลวง 

โดยการจับกุมรถบรรทุกน้ำหนักเกินในครั้งนี้เป็นเครือข่ายของรถบรรทุกรายใหญ่ หรือที่รู้จักกันในนาม “ลูกพญาแล“ ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลของกลุ่มรถบรรทุก ที่ส่อเค้าเลี่ยงกฎหมาย และก่อนนี้ไม่มีหน่วยงานใดกล้าจับกุม แต่อย่างไรก็ตาม ภายใต้การกำกับดูแลของ “คมนาคม” ที่ดำรงไว้ซึ่งคุณธรรม และดำเนินงานด้วยความสุจริต พร้อมที่จะแก้ไขทุกปัญหาที่เกิดขึ้นโดยทันที

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ตนขอชื่นชมหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม บช.ก. บก.ทล. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุคลากร และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินได้ประสบผลสำเร็จและมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าในช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะต้องไม่มีการทุจริต หรือมีส่วยสติกเกอร์ทางหลวงเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินงานทุกขั้นตอนด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต รวมถึงต้องสร้างความมั่นใจ และอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในทุกมิติ

สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินหลังจากนี้ จะเร่งปรับแก้ไขกฎหมายให้มีโทษปรับในอัตราสูงสุดไม่เกิน 100,000 - 200,000 บาท แล้วแต่กรณีการกระทำความผิด จากเดิมมีโทษปรับในอัตราสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนกรณีเพิ่มโทษจำคุกนั้น ได้มอบหมายให้กรมทางหลวง (ทล.) ศึกษาผลดีผลเสีย รวมทั้งให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ประกอบการรถบรรทุกด้วย เมื่อผลศึกษาแล้วเสร็จจะเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน 1 ปีหลังจากนี้

ทั้งนี้ จากการรายงานของ บก.ทล. ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้ดำเนินการจับกุมตัวนายกิติศักดิ์ แสงดำ อายุ 24 ปี ผู้กระทำความผิดในคดีการใช้ยานพาหนะน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดเดินบนทางหลวง อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ ทางหลวง พ.ศ. 2535 (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2549) มาตรา 61 โดยจากการจับกุม พบว่า นายกิติศักดิ์ได้ขับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ ISUZU หมายเลขทะเบียน 53-1367 กรุงเทพมหานคร ชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ใช้ยาง 10 เส้น และรถพ่วงหมายเลขทะเบียน 53-1368 กรุงเทพมหานคร ชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ใช้ยาง 12 เส้น บรรทุกดิน จำนวน 1 คัน 

สำหรับการจับกุมในครั้งดังกล่าว ได้จับกุมที่แยกสันติสุข ทล.346 (ถนนรังสิต - ปทุมธานี) ตำบลบางปรอก อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี โดยนายกิติศักดิ์ได้นำรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวมาตรวจสอบที่ชั่งน้ำหนักที่ตาชั่งน้ำหนัก จังหวัดปทุมธานี ปรากฎว่า ชั่งได้น้ำหนักรถรวมน้ำหนักบรรทุก 73,670 กิโลกรัม (กก.) ซึ่งพิกัดน้ำหนักตามกฎหมายรถประเภทนี้กำหนดไว้ที่ 50,500 กก. จึงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด จำนวน 23,170 กก. และได้ร่วมกันดำเนินการจับกุมส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปทุมธานี ภ.จว.ปทุมธานี ดำเนินคดีต่อไป



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ