‘ยูนิลีเวอร์’ ต้นแบบกำจัดขยะสู่การรีไซเคิล-ผลิตพลังงาน

วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557

‘ยูนิลีเวอร์’ ต้นแบบกำจัดขยะสู่การรีไซเคิล-ผลิตพลังงาน


จากการสำรวจปริมาณขยะมูลฝอยทั่วประเทศในปี 2556 โดยองค์กร ควบคุมมลพิษ ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 7,782 แห่ง ประกอบด้วยเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และกรุงเทพมหานคร พบว่า ปริมาณขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศมีจำนวน 26.8 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ปริมาณ 2 ล้านตัน ในจำนวนขยะทั้งหมดนี้ได้ดึงกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่เพียง 5.1 ล้านตัน หรือร้อยละ 19
ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานที่ กำจัดขยะมูลฝอยทั้งหมด 2,490 แห่ง มีการกำจัดขยะมูลฝอยอย่างถูกต้องเพียง 466 แห่ง หรือร้อยละ 19 และที่ไม่ถูกต้อง เช่น การเทกองกลางแจ้ง การเผาในที่โล่ง เป็นต้น จำนวน 2,024 แห่ง หรือร้อยละ 81 ส่งผลให้เกิดปริมาณขยะมูลฝอยตกค้างเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และสิ่งแวดล้อม ดังเช่น เมื่อเกิดกรณีไฟไหม้บ่อฝังกลบขยะแพรกษา เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2557 และบ่อขยะ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2557 นอกจากนี้ ในปัจจุบันพื้นที่ที่จะใช้ในการรองรับการกำจัดขยะมีน้อยลงและประชาชนในพื้นที่ก็ไม่ยอมรับสูงขึ้นอีกด้วย
ในปี 2555 ประมาณการว่าประเทศไทยมีปริมาณมูลฝอยชุมชนที่เกิดขึ้นประมาณ 24.73 ล้านตัน เฉลี่ย 67.577 ตันต่อวัน โดยมีปริมาณมูลฝอยที่ประชาชนนำมาทิ้งในถังประมาณ 15.90 ล้านตัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถเก็บขนได้ประมาณ 11.90 ล้านตัน และสามารถนำไปกำจัดอย่างถูกหลักวิชาการมาประมาณ 5.83 ล้านตัน และมีมูลฝอยนำกลับไปใช้ประโยชน์รวมกันประมาณ 5.28 ล้านตัน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 13.62 ล้านตัน เป็นมูลฝอยที่กำจัดโดยวิธีการไม่ถูกต้อง เช่น เทกอง หรือเผากลางแจ้ง เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ขยะมูลฝอยในพื้นที่ ชุมชนสามารถนำไปใช้ประโยชน์หลายวิธี ได้แก่ 1.การคัดแยกและนำกลับคืนวัสดุรีไซเคิล ประเภทแก้ว กระดาษ พลาสติก เหล็ก และอะลูมิเนียม ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การซื้อขายวัสดุรีไซเคิล โดยผ่านร้านรับซื้อของเก่า ศูนย์วัสดุรีไซเคิล รีไซเคิลชุมชน รวมประมาณ 4.02 ล้านตัน 2.การใช้ประโยชน์จากขยะอินทรีย์ ประเภทเศษอาหาร พืช ผัก เพื่อนำ ไปทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ สำหรับใช้บำรุง ดิน และผลิตก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์ เพื่อใช้ทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงรวมประมาณ 1.14 ล้านตัน 3.การแปรรูปขยะมูลฝอยให้เป็นพลังงาน เกิดประโยชน์ในด้านการผลิต เป็นพลังงานไฟฟ้า หรือเชื้อเพลิงทดแทนในรูปแท่งเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel : RDF) รวมประมาณ 0.12 ล้านตัน
มร.บาวเค่อร์ ราวเออร์ส ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย พม่า กัมพูชา และลาว กล่าวว่า ในปี 2556 โรงงานของยูนิลีเวอร์กว่า 186 แห่งทั่วโลกได้ประสบความสำเร็จในการลดขยะฝังกลบให้เป็นศูนย์ พร้อมกับกำลังขยายออกไปเรื่อยๆ และในปี 2558 ได้มีเป้าหมายว่าโรงงานทั้งหมดของ ยูนิลีเวอร์จะไม่มีการทิ้งขยะสู่แหล่งฝังกลบ โดยได้นำขยะเศษอาหารนำไปเป็นอาหารสัตว์ ทำปุ๋ย และแปรรูปขยะรวมอื่นๆ เป็นพลังงาน สามารถลดขยะที่ต้องฝังกลบจากขยะจำนวน 23,000 ตัน เหลือ 0
นอกจากนี้ ยูนิลีเวอร์มีขยะพลาสติกเกิดขึ้นจากการผลิตจำนวน 1.7 หมื่นตัน/ปี ซึ่งได้มีมาตรการลด ปริมาณขยะดังกล่าวด้วยการลดขนาดผลิตภัณฑ์ให้เล็กลง สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ อีกทั้งร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายความร่วมมือโครงการคัดแยกขยะ โดยยึดต้นแบบที่ประสบความสำเร็จจากพิษณุโลกโมเดล และผลักดันให้ขยะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจนอกเหนือจากประโยชน์ที่ได้รับเพื่อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมเพียงอย่างเดียว
“การลดปริมาณขยะด้วยการนำไปผลิตพลังงานต้องให้ความสำคัญเตาเผาที่มีระบบป้องกันมลภาวะด้วย”


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ