(8มี.ค.2559) - เชฟรอน ผู้นำอุตสาหกรรมด้านพลังงานระดับโลก ประกาศแผนธุรกิจมุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ครบวงจร เน้นทำเลคุณภาพบนเส้นทางสายหลัก และหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ พร้อมจับมือพันธมิตรค้าปลีก ยกระดับการบริการ สร้างเสริมประสบการณ์แห่งความสุข รุกสร้าง แบรนด์ ขยายการรับรู้สู่กลุ่มคนรุ่นใหม่
นายซาลมาน ซาดัต ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตเคียงคู่ไปกับประเทศไทย โดยการขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ครบวงจร พรั่งพร้อมด้วยผลิตภัณฑ์และบริการระดับคุณภาพ ตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์น้ำมันคุณภาพระดับโลก โดยเชิญชวนเจ้าของปั๊มน้ำมัน นักลงทุน และผู้ประกอบการ ร่วมลงทุนเป็นเจ้าของกิจการสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ซึ่งในปี 2558 ที่ผ่านมาได้มีการเปิดสถานีบริการน้ำมันใหม่ไป 23 สาขา และในปี 2559 ก็จะยังคงรุกผลักดันขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 370 แห่ง โดยมุ่งเน้นทำเลคุณภาพบนเส้นทางสายหลัก และ หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด หัวเมืองสำคัญ และเส้นทางสายหลักต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถ และภาคการขนส่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ มิได้หยุดยั้งในการพัฒนา และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการอันเยี่ยมยอดแก่ผู้ใช้รถ โดยได้ทยอยปรับปรุงและพัฒนาสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์อย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนป้ายสัญลักษณ์ คาลเท็กซ์ในสถานีบริการน้ำมันใหม่ เพื่อเพิ่มความสว่างและการมองเห็นให้ชัดเจน เสริมความปลอดภัย โดยเฉพาะเวลากลางคืน ซึ่งได้มีการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันไปแล้วเกือบ 200 แห่ง”
นายซาลมาน กล่าวเสริมว่า “นอกจากบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และยกระดับการบริการที่สถานีบริการน้ำมันให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภค อาทิ ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บริการล้างรถ ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง คาร์แคร์ ฯลฯ ทางบริษัทฯ ยังคงพัฒนาและขยายความร่วมมือกับพันธมิตรค้าปลีก อาทิ คาเฟ่ ดิ โอโร่ แฟมิลี่ มาร์ท แบล็ค แคนยอน ฯลฯ รวมทั้งเจรจาหาพันธมิตรคู่ค้าใหม่ๆ เพื่อเป็นช่องทางในการเสริมรายได้ และเป็นอีกแนวทางในการเสริมสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับผู้บริโภค โดยในปี 2559 มีเป้าหมายจะดึงแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเป็นพันธมิตรเพิ่มอีก 2-3 ราย”
“ด้านแผนการตลาดและการสร้างแบรนด์สำหรับปีนี้ นายซาลมานกล่าวเสริมว่า “บริษัทฯ จะเน้นกิจกรรมการตลาดและการสร้างแบรนด์เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์แบรนด์ที่ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจ อยู่เคียงคู่ผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างยาวนาน รวมทั้งการใช้กลยุทธ์ “ดิจิตัล มาร์เก็ตติ้ง” ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยกิจกรรมทาง Facebook ของคาลเท็กซ์ได้รับความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค ซึ่งคาลเท็กซ์มาเป็นอันดับ 1 จากผลสำรวจ “Thailand’s Most Social Power Brand 2015” ของนิตยสารแบรนด์เอจในกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน ด้วยยอดแฟนเพจกว่า 360,000 คนในปัจจุบัน นอกจากนี้ บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญในการทำตลาดเพื่อสร้างความผูกพันกับแบรนด์ และเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า โดยการสานต่อความร่วมมือในการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่สร้างแรงจูงใจ และตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ อาทิ การทำการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับบัตรเครดิตต่างๆ การต่อยอดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดภายใต้แคมเปญ “คาลเท็กซ์-ทรู ร่วมเติมเต็มความสุข” มอบส่วนลดน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ สูงสุด 25 สตางค์ต่อลิตรแก่ลูกค้าทรู เมื่อใช้บริการที่สถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ทั่วประเทศ ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้นำคอนเวอร์เจนซ์ไลฟ์สไตล์
นอกจากนี้ บริษัทฯยังพัฒนาเพื่อนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษต่อยอดแคมเปญ “เติมปั๊บ รับคะแนนทุกลิตร! คาลเท็กซ์ 1 ลิตร = The 1 Card 1 คะแนน” ภายใต้ความร่วมมือกับ The 1 Card ผู้นำรอยัลตี้โปรแกรมอันดับ 1 แห่งวงการค้าปลีกในเอเชียของเซ็นทรัล กรุ๊ป ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2558 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ แคมเปญที่ทำร่วมกับทรู และ The 1 Card เป็นการผสานความแข็งแกร่งและเติมเต็มประสบการณ์ความสุขให้กับผู้บริโภคซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและรวดเร็วจากตลาดอีกด้วย”
นายซาลมาน กล่าวเพิ่มเติมว่า “เชฟรอน มีนโยบายและจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ ด้วยความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาชุมชนในประเทศต่างๆ ที่เราดำเนินธุรกิจอยู่อย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพการศึกษา คุณภาพชีวิตและความปลอดภัย ซึ่งสำหรับปี 2559 นี้ ทางบริษัทฯ มีแผนสานต่อโครงการ “Caltex Fuel Your School: คาลเท็กซ์เติมพลังปัญญา ปลูกต้นกล้าเยาวชน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการศึกษาและพัฒนาโอกาสการเรียนรู้ของเยาวชนไทย รวมทั้งยังสานต่อการพัฒนาชุมชนเพื่อนบ้านใกล้เคียงอย่างชุมชนโรงสีและชุมชน คาลเท็กซ์ ย่านพระราม 3 เพื่อสร้างชุมชนให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน”