เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากจากการจัดเทศกาลดนตรีที่ม่วนที่สุด ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ‘ช้าง มิวสิค คอนเนคชั่น พรีเซนต์ เฉียงเหนือเฟส’ ที่จังหวัดขอนแก่น จนเป็นที่รู้จักสู่สายตาชาวอีสานในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งใหม่สำหรับคนรักดนตรี ดังนั้น จากความสำเร็จของการจัดงานในปี 2566 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้จัดงานมืออาชีพอย่าง ‘All Area’ (ออลล์แอเรีย) หน่วยงานภายใต้ ‘GMM SHOW’ (จีเอ็มเอ็มโชว์) นำมาสู่การต่อยอดจัดงาน ‘เฉียงเหนือเฟส 2’ ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ณ บขส.3 ขอนแก่น

พบว่ามีแฟน ๆ นับหมื่นหลั่งไหลเดินทางมาเพื่อเข้าร่วมชมการแสดงสดจากหลากหลายศิลปิน ครบทุกแนวเพลงอย่างคึกคัก ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการจัดงานเฉียงเหนือเฟสที่มีส่วนช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นเป็นจุดหมายในการเดินทางเพิ่มขึ้น และยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น ก่อให้เกิดการกระจายรายได้ในหลาย ๆ ธุรกิจ และพื้นที่โดยรอบ รวมถึงการเพิ่มรายได้สำหรับประชาชนทั่วไปด้วยเช่นกัน คาดจากการจัดงานในครั้งนี้เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

โดย นางสาวพนมกร พันธุ์ชนะ Director-Showbiz Promoter ทีม ALL AREA หน่วยงาน GMM SHOW บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด กล่าวว่า “ตลอดการจัดงานทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา เฉียงเหนือเฟส เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากสร้างเทศกาลดนตรีที่ชาวอีสานภูมิใจ จึงทำให้งานนี้กลายเป็นงานที่ไม่ได้ติดอยู่ในกรอบของเทศกาลดนตรีทั่ว ๆ ไป แต่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ทางดนตรีใหม่และแตกต่างที่หาไม่ได้จากเทศกาลดนตรีอื่น ๆ เพื่อให้งานเฉียงเหนือเฟสนี้เป็นเทศกาลดนตรีที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในภาคอีสาน โดยเป้าหมายของการจัดงานนี้ต้องยิ่งใหญ่ขึ้นและแปลกใหม่ทุกปี

ทั้งนี้ สำหรับความสำเร็จจากการจัดงานทั้ง 2 ครั้ง คงเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ทั้งศิลปิน และผู้ชมชาวอีสานที่ให้การตอบรับที่ดีเกินคาด เราในฐานะผู้จัดงานและทีมงานทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจ และมีกำลังใจที่จะต่อยอดความสำเร็จในการจัดงานต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นเราขอขอบคุณสำหรับความร่วมมืออย่างดีเยี่ยมจากภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนโดยรอบที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดงานนี้ ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงการมีเป้าหมายร่วมกัน ที่ต้องการทำให้งานเฉียงเหนือเฟสเป็นแลนด์มาร์คใหม่ในภาคอีสาน ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นในช่วงเวลาการจัดงานในทุก ๆ ปี เชื่อว่างานเฉียงเหนือเฟสที่เราตั้งใจจัดขึ้นนี้ยังสามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจท้องถิ่นของจังหวัดขอนแก่น ที่สำคัญที่สุดคือการทำให้ผู้คนและชุมชนเติบโตไปพร้อมกับงานเฉียงเหนือเฟส”

สำหรับบรรยายกาศภายในงาน ‘เฉียงเหนือเฟส 2’ ในครั้งนี้ จัดเต็มด้วย 23 ศิลปินที่ยกทัพมาสร้างสีสันบน 3 เวทีใหญ่ ‘เวทีเฉียง, เวทีเหนือ, เวทีมิตรภาพ’ ในสไตล์แนวเพลงที่หลากหลายทั้ง ป็อบ ร็อก ฮิปฮอป อินดี้ แดนซ์ป็อป และหมอลำ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมเพื่อแสดงความสามารถอย่างสร้างสรรค์สะท้อนความเป็นอีสานผ่านผลงานการออกแบบเวทีคอนเสิร์ต รวมทั้งธงประดับภายในงานและบนเวทีมิตรภาพ ซึ่งเป็นเวทีใหม่ของการจัดงานในปีนี้ นอกจากนี้ ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจากผู้ประกอบร้านอาหารในจังหวัดขอนแก่น ที่ยกขบวนความอร่อยมาให้ผู้ชมได้เลือกซื้อเลือกกินกันอย่างจุใจ

นายวงศธร เรืองโชติพัฒน์ ประธานผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า “เป็นโอกาสดีที่ชาวจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ร่วมงานเทศกาลดนตรีขนาดใหญ่ ภายใต้ชื่อ “เฉียงเหนือเฟส 2” ที่หลายคนรอคอยการจัดงานนี้มานาน ซึ่งจังหวัดขอนแก่นเป็นเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เมืองแห่งการประชุมสัมมนา และเมื่อมีการจัดเทศกาลดนตรีครั้งนี้อีกครั้งก็จะเติมความคึกคักให้กับจังหวัดมากขึ้น โดยมีประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศจำนวนมาก เพื่อมาติดตามชมศิลปินที่ชื่นชอบก็จะทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่นในหลายภาคส่วนเกิดการหมุนเวียนรายได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม สินค้าที่ระลึก สินค้าชุมชน ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่นและประเทศก็จะได้รับผลประโยชน์ทั้งหมด”

ด้าน นายเสกสรร ศรีไพวรรณ  ผอ.ททท.สำนักงานขอนแก่น กล่าวว่า “การจัดงานเทศกาลดนตรี ‘เฉียงเหนือเฟส 2’ นั้น ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายของจังหวัดขอนแก่นที่จะเป็นการพัฒนาเมืองขอนแก่น ซึ่งตนเองมองว่าเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจยุคใหม่รวมทั้งการได้ผู้จัดงานอย่าง ‘จีเอ็มเอ็มโชว์’ การจัดเทศกาลดนตรีครั้งนี้มีคนซื้อบัตรจำนวน 25,000 ใบ จนหมด ประมาณการว่าการที่มีคนเดินทางมาใช้จ่ายในช่วงก่อนจัดงานและหลังจัดงาน จะมีเงินสะพัดขั้นต่ำกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดขอนแก่นมีร้านอาหารจำนวนมากที่ได้รับการคัดเลือกจากมิชลินถึง 11 ร้าน รวมทั้งโรงแรมขนาดใหญ่ที่เปิดให้บริการ มาจังหวัดขอนแก่น ได้กินอาหารรสอร่อย และยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย”