ดร.ปิยะวัฒน์ จุลล์จักรวงศา ประธานกรรมการ บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจตลาดเครือข่าย กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่ทำให้เกิดผลกระทบในทุกอุตสาหกรรม ซึ่งธุรกิจของเราเองก็ได้รับผลกระทบเช่นกันในช่วงนั้น เนื่องจากนักธุรกิจของเราไม่สามารถเดินทางหรือพบปะในการดำเนินงานกันได้อันมาจากการมีการล็อคดาวน์และต้องเว้นระยะห่างจึงทำให้มีรายได้ลดน้อยลงเพราะไม่สามารถเดินสายไปประชุม พบปะพูดคุยกันได้ แต่ทางบริษัทก็ได้มีการปรับตัวและปรับกลยุทธ์ในการกระตุ้นยอดขายโดยการจ่ายผลตอบแทนให้สมาชิกเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้บริษัทไม่ได้ประสบปัญหาทางด้านการเงินในช่วงที่ผ่านมาเท่าไหร่นัก

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมขายตรงในประเทศไทยนั้น เรามองว่าหลายปีที่ผ่านมาค่อนข้างได้ผลกระทบจากกระแสธุรกิจออนไลน์พอสมควร ซึ่งอาจจะส่งผลให้หลายบริษัทธุรกิจขายตรงปิดตัวลงไปจำนวนมากจากจากยุคที่เฟื่องฟูจะมีอยู่มากกว่า 100บริษัทในอุตสาหกรรมดังกล่าว แต่ตอนนี้บริษัทที่ทำธุรกิจขายตรงที่ยังคงอยู่ได้เป็นตัวจริงเหลือเพียง 10-15 บริษัท เท่านั้น ดังนั้นเราจึงยืนยันว่าธุรกิจขายตรงที่จะยังคงดำเนินธุรกิจได้ยาวนานและมั่นคงนั้นจะต้องมีความน่าเชื่อถือ คุณภาพที่ดีของสินค้า และพัฒนาสินค้าใหม่ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้ตรงจุด และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสาร การจัดการประชุม กับนักธุรกิจ ถึงจะทำให้ธุรกิจขายตรงยังคงอยู่ได้อย่างยาวนาน

ดังนั้น สำหรับบริษัทเรานั้นยังคงให้ความสำคัญในการจัดประชุมสื่อสารให้กับสมาชิกของเราทุกคนให้ดำเนินงานภายใต้คำขวัญเดียวกัน นั่นคือ ‘ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ มีคุณธรรม’ บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า เราให้ความสำคัญ และจริงใจต่อทุกผลิตภัณฑ์ มีการคัดสรร สรรพคุณอันเป็นประโยชน์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสุขภาพที่ดีที่สุดภายใต้เครื่องหมายการค้าซูเลียน ส่งผลให้ปัจจุบัน ซูเลียนมีสมาชิกรวมกันกว่า 5 ล้านรหัส ซึ่งมีจำนวนคนที่แอคทีฟราว 2 แสนราย และตัวแทนจำหน่ายร่วม 100 กว่าแห่งทั่วประเทศ ทำให้ตอนนี้ซูเลียนมีแชร์อยู่ในตลาดธุรกิจขายตรงอยู่เป็นอันดับที่ 3 และสามารถทำมีรายได้อยู่ที่ 3,000 ล้านบาท เติบโต 20 % ต่อปี โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะสร้างได้อยู่ที่ 3,000 – 4,000 ล้านบาท

ประธานกรรมการ กล่าวต่อว่า จากการที่เราได้ดำเนินธุรกิจมาตลอดระยะเวลาก้าวเข้าสู่ปีที่ 27 สำหรับแผนธุรกิจปี 2567 นี้ ทางบริษัทได้ทำการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการดำเนินธุรกิจในการเปิดตัวทีมผู้บริหารคนรุ่นใหม่มาช่วยงาน ได้แก่ นายณัฐชานนท์ จุลล์จักรวงศา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด และ นางสาวอรวรางค์ จุลล์จักรวงศา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ประเทศไทย เพื่อต้องการที่จะให้ซูเลียนยังยื่นหยัดเป็นที่หนึ่งในธุรกิจตลาดเครือข่าย เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจที่สร้างโอกาสสร้างงาน และกระจายรายได้ผ่านการจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพต่อไป โดยปีนี้บริษัทต้องการจะขยายฐานสู่กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่เข้ามารับช่วงต่อการเติบโตในอนาคต เป้าหมายที่เราวางไว้ มีทั้งสิทธิในการส่งต่อธุรกิจไปยังรุ่นลูก รวมถึงมีการปรับภาพลักษณ์ การลงทุนใหม่ ๆ เพื่อยกระดับศักยภาพขององค์กร เช่น ลงทุนพัฒนาคนผ่านการอบรมทางวิชาชีพ การเสริมประสิทธิภาพระบบจัดส่งสินค้าที่ทันสมัย

ปัจจุบันภาพรวมของ ซูเลียน (ประเทศไทย) ยังคงมีการเติบโตในตลาดขายตรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแบบชงดื่มเพื่อสุขภาพ ‘คอฟฟี่พลัส กาแฟผสมโสม’ สินค้าอันดับ 1 ของบริษัทฯ ที่มียอดขายมากกว่า 10 ล้านซองต่อปี และมียอดขายผลิตภัณฑ์รวม 2,000 ล้านบาทต่อปี พร้อมกันนี้จะเดินหน้าขยายการเติบโตครอบคลุมในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ พม่า, กัมพูชา , ลาว เป็นต้น สามารถรองรับการเติบโตเป็นเครือข่ายที่สร้างโอกาสทางธุรกิจที่เป็นไปได้มากที่สุดเพื่อสร้างสินค้าและสังคมที่มีคุณภาพ พร้อมสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้ทรงคุณค่าและดำรงอยู่ตลอดไป

นายณัฐชานนท์ จุลล์จักรวงศา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ซูเลียนวางทิศทางการทำธุรกิจในปี 2024 ไว้หลายด้าน ประการแรกเรายังมุ่งรักษาคุณภาพสินค้าด้วยมาตรฐานระดับสูง ไปพร้อมกับการพัฒนาสินค้าใหม่ อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ (Health Product) จากส่วนประกอบธรรมชาติ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้คนในปัจจุบันควบคู่กับสินค้าที่เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มบ้านและที่อยู่อาศัย (Home Care), ผลิตภัณฑ์เพื่อร่างกาย (Personal Care), เข็มขัด M-belt ส่วนในด้านการสนับสนุนผู้จัดจำหน่ายซูเลียน ยังคงรักษาระบบการสร้างคุณค่าด้วยมูลค่าจากผลลัพธ์ของการทำงาน โดยมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจ เพื่อสรรสร้างผู้จัดจำหน่ายที่มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น มีการจัดฝึกอบรมในด้านทักษะการเป็นผู้นำ เพื่อยกระดับชีวิตที่มีคุณภาพ และโอกาสทางธุรกิจให้ก้าวอย่างไม่หยุดยั้ง เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรายได้ และโอกาสทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นไปอย่างยุติธรรม การันตีได้ว่าการเป็นผู้จัดจำหน่ายของซูเลียน คือโอกาสทางธุรกิจที่ให้หลักประกันความมั่นคงทางการเงินได้

ด้านของ นางสาวอรวรางค์ จุลล์จักรวงศา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ประเทศไทย บริษัท ซูเลียน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า ปีนี้ทางบริษัทมุ่งให้ความสำคัญในการทำธุรกิจผ่านเทรนด์การเชื่อมต่อธุรกิจแบบออฟไลน์และออนไลน์ด้วยเช่นกัน ล่าสุด ได้ทุ่มงบราว 10 ล้านบาท ในการลงทุนพัฒนาแอปพลิเคชั่นภายใต้ชื่อ Zhulian Application ขึ้นในการนำเครื่องมือออนไลน์มาใช้ขับเคลื่อนให้นักธุรกิจทำงานง่ายและเป็นมืออาชีพมากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y เปลี่ยนมุมมองว่างานขายตรงเป็นอีกแขนงอาชีพที่มีคุณค่า และช่วยให้ประสบความสำเร็จได้จริง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ใช้ได้ในเดือนเมษายนปีนี้ เพิ่มมาอีกหนึ่งช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์ที่เราได้มีอยู่แล้วคือ เว็บไซต์  ‘Zhulian shopping Online’ เพื่อรองรับกับการทำธุรกิจในยุคดิจิทัล ที่มีเพื่อสามารถสั่งซื้อสินค้าได้อย่างง่ายดาย สะดวกสบาย ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ด้วยการจัดส่งที่ได้มาตรฐาน และในส่วนเฉพาะตลาดประเทศกัมพูชาจะพัฒนาเป็นแอปพลิเคชั่นเพื่อสต๊อกสินค้าภายในประเทศนี้ประเทศดียวเท่านั้นภายใต้ชื่อ mobile stock kit

“วิธีคิดของซูเลียนคือมองเป้าหมายว่าจะผลักดันองค์กรอย่างไร ให้การขายตรงสามารถเดินหน้าสอดคล้องไปกับโลกในยุคใหม่ เราจึงมีทั้งการประยุกต์นำเทคโนโลยีมาใช้ รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถให้นักธุรกิจใช้เทคโนโลยีอย่างคล่องแคล่ว เพื่อโอกาส และประโยชน์สูงสุดของการทำงาน ก็คือเทคโนโลยีจะเข้าไปแทรกในหลาย ๆ กระบวนการทำงานของนักธุรกิจ สั่งของได้สะดวกขึ้น เร็วขึ้น วางแผนง่ายขึ้น แต่การขายไปถึงมือของ End-user จะยังเป็นลักษณะของการเผชิญหน้าเพื่อให้คำแนะนำ-บอกข้อดีของสินค้าโดยตรงอยู่เช่นเดิม”