แม้ขึ้นชื่อว่าเป็น “รถยนต์มือสอง” แต่เชื่อว่าเจ้าของรถส่วนใหญ่ก็อยากให้รถคู่ใจดูใหม่เหมือนรถป้ายแดง สภาพเครื่องยนต์มั่นใจได้ในทุกการขับขี่ ซึ่งสิ่งสำคัญคือ ต้องหมั่นดูแลและตรวจเช็กสภาพรถทั้งภายในและภายนอกอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยยืดอายุรถ และคงสภาพรถให้ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน
โดยรู้ใจ แนะ 8 เคล็ดลับที่จะช่วยดูแลสภาพรถให้มีความพร้อมใช้งาน และมีความสวยงามไม่ต่างจากรถใหม่ ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
1.เลือกศูนย์บริการที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือ รถที่ยังมีประกันศูนย์เหลือ แนะนำให้เข้าศูนย์บริการแห่งเดียว เพื่อความต่อเนื่องของการดูแล ส่วนรถที่พ้นระยะเวลารับประกันศูนย์แล้ว หากเป็นไปได้ แนะนำให้ใช้บริการต่อ เพื่อให้ช่างที่มีทั้งความชำนาญ และประสบการณ์ ได้ดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่หากตัดสินใจจะใช้บริการตามอู่ หรือร้านรับซ่อมทั่วไป ต้องมั่นใจในฝีมือของช่าง เพราะช่างซ่อมรถก็มีความเชี่ยวชาญในรถแต่ละประเภทแตกต่างกันไป
2.เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก ควรดำเนินการให้ตรงตามรอบเวลา และควรเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกันด้วยจะดีกว่ารอเปลี่ยนตามสภาพของอุปกรณ์เหล่านั้น (ระยะเวลาการเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถตรวจสอบได้จากคู่มือประจำรถ)
3.หมั่นเช็ดล้างทำความสะอาดทั้งภายนอกและภายในตัวรถอยู่เสมอ และควรเช็ดล้างทำความสะอาดทันทีหากตัวรถสัมผัสกับมูลนก ยางไม้บางชนิด หรือน้ำที่เกิดจากการล้างทำความสะอาด น้ำปูน หรือน้ำที่มาจากไซต์งานก่อสร้าง
4.ลงแว็กซ์หรือน้ำยาขัดเคลือบรักษาสีและตัวถัง หรือซื้อบริการเคลือบแก้ว เพื่อถนอมสีและตัวถังให้ดูใหม่อยู่เสมอ
5.ควรจอดรถในร่ม หากจำเป็นต้องจอดกลางแจ้ง ควรลดระดับกระจกลงไว้เล็กน้อยเพื่อให้ความร้อนระบายออก และควรมีอุปกรณ์เสริมที่จะช่วยลดความร้อนแรงของแสงแดดที่ส่องมายังคอนโซลรถ เช่น ติดฟิล์มกระจกด้วยความเข้มเพียงพอรอบคัน กางร่มกันแดดภายในรถ ติดตั้งเต็นท์จอดรถแบบพับเก็บได้ หรือหลังคาบังแดดรถแบบไม่มีขาตั้ง เป็นต้น
6.ล้างห้องเครื่องยนต์ อย่างน้อยปีละครั้ง นอกจากจะเป็นการทำความสะอาดเพื่อให้อุณหภูมิการขับขี่ต่ำลงแล้ว ยังช่วยตรวจสอบได้ว่ามีชิ้นส่วนใดที่ชำรุดเสียหายหรือไม่
7.ตรวจสอบยางรถยนต์ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งด้วยการตรวจสอบระดับลมยาง โดยเติมความดันลมยางตามคู่มือรถกำหนด จะได้ทั้งความปลอดภัยและยังช่วยเรื่องการประหยัดน้ำมันอีกด้วย
8.ขับขี่ด้วยความนุ่มนวล ไม่ออกตัวแบบกระชาก ไม่กดกระแทกแป้นเบรก ไม่กดแป้นคันเร่งแบบย้ำ ๆ ไม่หักพวงมาลัยจนสุด ไม่ขับขี่เร็ว เพื่อให้มีระยะเบรกที่เหมาะสมและเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่
ทั้งนี้ รถที่ได้รับการดูแลและรักษาอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นรถที่มีสภาพดีพร้อมใช้งาน ทำให้ผู้ขับขี่มีแต่ความสบายใจ นำไปขายต่อก็ได้ราคา ไม่ขาดทุน