สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (หรือ สสว.) ร่วมกับ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีประจวบคีรีขันธ์ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในการเปิดตัวขยายเครือข่ายสิทธิประโยชน์ด้านช่องทางการตลาดให้ผู้ประกอบการ SME ผ่านแคมเปญ "SME Privilege Club" คลับพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ SME ที่รวบรวมสิทธิประโยชน์สุดพิเศษไว้มากมาย พร้อมเปิดช่องทางการตลาดใหม่ให้ผู้ประกอบการได้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น นำร่องสาขาแรก ที่ร้านค้าประชารัฐ ของบริษัทประชารัฐรักสามัคคีประจวบคีรีขันธ์ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ณ ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน
ความร่วมมือของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (หรือ สสว.)กับ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีประจวบคีรีขันธ์ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัดซี่งเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคมที่มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผ่านการส่งเสริมผลิตภัณฑ์และบริการของชุมชนจะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้นำสินค้าคุณภาพ ได้รับมาตรฐานในระดับประเทศ และ/หรือระดับสากลมาทดสอบตลาดและวางจำหน่ายในช่องทางที่มีศักยภาพ
ในงานเปิดตัวความร่วมมือครั้งนี้ ได้มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก สสว. ที่ได้รับคัดเลือกให้นำสินค้ามาทดสอบตลาด ณ ร้านค้าประชารัฐ ประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน โดยมีสินค้าที่น่าสนใจ อาทิเช่นยาหม่องสมุนไพร ษีสุข ใช้สูดดมและนวด, ดอกเกลือบริสุทธิ์สำหรับขัดผิว กังหันทอง, ลิโมนีน อโรมาสเปรย์ กู้ดเนเจอร์ ช่วยต้านการอักเสบและเพิ่มภูมิ (ภูมิแพ้), ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย (body care) จาก Prari, น้ำผึ้งดอกลำไย จาก Bee Happiness Farm, และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากมะพร้าว coconuta เป็นต้น
จากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการ SMEs ต้องเผชิญความท้าทายมากมายในการธำรงรักษาธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งนั้น สสว.ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐขึ้นกับสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ไทย ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากลตระหนักดีถึงความสำคัญในการสนับสนุนและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ SMEs ของไทย จึงได้ริเริ่มโครงการ " SME Privilege Club – คลับพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ" ขึ้น เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ครอบคลุมใน 3 ด้านหลักที่จะช่วยเสริมศักยภาพของ SMEs ได้แก่ ด้านการเพิ่มผลิตภาพ การลดต้นทุน ด้านการขยายช่องทางการตลาดและด้านการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน ซึ่งเป็นแคมเปญที่จะช่วยยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ SME ไทยอย่างครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการขยายช่องทางการตลาด ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตทางธุรกิจ นอกจากจะเป็นการมอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้ประกอบการแล้ว โครงการนี้ยังเป็นช่องทางให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทำให้ สสว. ได้รับทราบความต้องการที่แท้จริงของ SMEs เพื่อนำไปพัฒนาแนวทางการส่งเสริมที่ตอบโจทย์การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของ SMEs ได้มากยิ่งขึ้น และผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงและใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชัน SME CONNEXT ด้วยการยืนยันตัวตนผ่านระบบ SME oneID เพียงขั้นตอนเดียว
ซึ่งในปีนี้ สสว.มุ่งมั่นพัฒนาสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการเพิ่มผลิตภาพ การลดต้นทุน ด้านการขยายช่องทางการตลาด และด้านการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน ซึ่งได้รับเกียรติจากหน่วยงานพันธมิตรชั้นนำที่พร้อมจะขยายโอกาสทางการตลาดให้แก่ SMEs อาทิเช่น บริษัทเทลสกอร์จำกัด, บริษัทลาซาด้าจำกัด, บริษัทซีพีออลล์จำกัด(มหาชน), บริษัทเฟเวอร์ลี่จำกัด, บริษัทแอสเสทเวิรด์คอร์ปจำกัด (มหาชน), Bank of China (Thai) Public Company Limited, China Resources Enterprise, บริษัทโรบินสันจำกัด (มหาชน) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) เป็นต้น ที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาและอุปสรรค พร้อมผลักดันให้ SMEs ไทยพัฒนาและแข่งขันได้ในเวทีโลก
สสว. คาดว่าโครงการ SME Privilege Club จะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ได้นับหมื่นรายทั่วประเทศ และจะขยายความร่วมมือไปยังจังหวัดอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้ เพื่อสร้างเครือข่ายการสนับสนุน SME ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
ผู้ประกอบการ SME ที่สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิก SME Privilege Club ได้ฟรี ด้วยการสมัคร SME oneID เพื่อรับบริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว ผ่านแอปพลิเคชัน SME CONNEXT หรือเว็บไซต์ www.smeone.info โดยใช้เลขทะเบียนนิติบุคคล 13 หลัก หรือเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ในการลงทะเบียน หลังจากสมัครสมาชิกแล้ว ผู้ประกอบการจะสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้ทันที
