นางสาวฐิติมา จตุรงคเวทย์ ผู้จัดการส่วนธุรกิจ ICC บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จากการที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับบุคลิกภาพ โดยเฉพาะเครื่องแต่งกายที่จะให้ความสำคัญกับ การดูแลรักษาเสื้อผ้าทั้งเรื่องของความสะอาดที่จะช่วยให้สุขอนามัยดี และความหอมสดชื่นของเสื้อผ้า ที่จะเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ในทุกกิจกรรม ทำให้ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผ้า มีการเติบโตขึ้นมากและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ตลาดผลิตภัณฑ์ซักผ้า มีมูลค่าตลาดรวมที่ 21,000 ล้านบาท หรือโตขึ้น 7.6% และผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม มีมูลค่าตลาดรวม 15,000 ล้าน มีอัตราการเติบโตขึ้น 6.8% และคาดว่า จะยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายครอบครัวของกลุ่มคนรุ่นใหม่ สำหรับผลิตภัณฑ์เฟรช แอนด์ ซอฟท์ ตั้งเป้าการเติบโตในปีนี้มากกว่า 50% จากการแตกไลน์สินค้าใหม่ รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เป็นสินค้าดีมีคุณภาพพร้อมช่วยดูแลชีวิตประจำวันของทุกคนให้มีสุขอนามัยที่ดี และมอบประสบการณ์ความหอม สดชื่น ให้ทุกๆคนพร้อมมั่นใจในทุกกิจกรรม โดยลูกค้าของเฟรช แอนด์ ซอฟท์ เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผู้ใหญ่ และแม่บ้าน ที่ใส่ใจสุขภาพ มีความพิถีพิถัน ในการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ในการดูแลเสื้อผ้าที่ดี และใส่ใจในการดูแลผ้าและสุขภาพควบคู่กันไป
ผลิตภัณฑ์เฟรช แอนด์ ซอฟท์ ทั้งผลิตภัณฑ์ซักผ้าและปรับผ้านุ่ม มีด้วยกัน 2 สูตรคือสูตรมาตรฐาน และสูตรเข้มข้น ดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่ม สูตรมาตรฐาน มี 2 Series และ สูตรเข้มข้น มีด้วยกัน 2 สูตร คือ Still All Day และ Cool Relax ช
2. ผลิตภัณฑ์ซักผ้า สูตรมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ให้สัมผัสใหม่แห่งการดูแลผ้าด้วยพลัง Active Clean Wash ช่วยทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน พร้อมสารป้องกันคราบสกปรกย้อนกลับสู่ผ้า ปรับโฉมดีไซน์แพคเกจจิ้งใหม่ พร้อมปรับขนาดถุงเติมเป็นขนาด 400 มล. ราคา 45 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการออกผลิตภัณฑ์กลิ่นใหม่ในครั้งนี้ จะทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับ ประสบการณ์ในการดูแลผ้าด้วยสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาโดนใจ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของ ผู้บริโภคได้หลากหลาย โดยเฉพาะการช่วยยืดอายุการใช้งานเสื้อผ้าชุดเก่ง และในโอกาสพิเศษนี้ ทางเฟรช แอนด์ ซอฟท์ ได้มอบหมายให้ “จ๊ะ นงพณี” ศิลปินนักแสดง-นักร้องชื่อดัง เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์เฟรช แอนด์ ซอฟท์ ให้กับกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ในทุกเพศ ทุกวัย
ผู้บริหาร กล่าวต่อว่า เฟรช แอนด์ ซอฟท์ ได้ใช้งบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท ในการรุกตลาดผ่านสื่อโฆษณาทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มช่องทาง การจัดจำหน่ายให้ทั่วถึงมากขึ้น ทั้งการทำตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางของไลอ้อน และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ อาทิ Shopee, Lazada และ TikTok เพื่อขยายโอกาสเข้าถึง ผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการจัดรายการส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองใช้ ไปพร้อมกับการจัดกิจกรรม ณ จุดขาย เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ สร้างการรับรู้และผลักดันให้สินค้า เฟรช แอนด์ ซอฟท์ อยู่ในใจผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีการจัดคาราวานส่งต่อความหอมให้หอมฟุ้งทั้งเมือง ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มแจกให้กับกลุ่มผู้คนทั่วไปในย่าน สีลม สยาม สาทร ได้ทดลองใช้ แจกหนักแจกจริงแจกสินค้าถุงจริงให้ได้ไปใช้กันจริงๆ ถึง 3,000 ถุง
“เราใช้ Music Marketing ในการสื่อสารความเป็นเฟรช แอนด์ ซอฟท์ ให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ผ่านเสียงบทเพลง และเสียงเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งคุณจ๊ะเป็นผู้ขับร้อง ใช้เนื้อหาเพลงที่จดจำง่าย มีท่าเต้นประกอบดนตรีที่สนุก ทำให้รู้สึกสดชื่น สดใส ตอกย้ำ Brand ให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้ว่า เฟรช แอนด์ ซอฟท์ หอม ฟุ้ง นุ่ม และคุ้ม พร้อมเชิญชวนให้มาทดลองใช้ด้วยกัน”
ทั้งนี้ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรม เพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคในทุกกลุ่ม โดยมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์เฟรช แอนด์ ซอฟท์ จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์เฟรช แอนด์ ซอฟท์ ทั้งน้ำยาซักผ้าและปรับผ้านุ่ม มีวางจำหน่ายที่ Lotus’s , Big C , Tops และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ทั้งช่องทางของไลอ้อน และแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสชั้นนำ ได้แก่ Shopee, Lazada และ TikTok เป็นต้น"
