สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI โดยฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน จึงเดินหน้าพัฒนาแนวทางรักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนโยบายคุณภาพของฉลากเขียว ในการมุ่งมั่นรับรองผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้การดำเนินงานที่สอดคล้องตามมาตรฐานสากล ปักธงอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเดินหน้ามอบความเชื่อมั่นในการบริโภคที่ยั่งยืน ได้ทำการเปิดตัวฉลากใหม่ “EPD (Environmental Product Declaration)” หรือ ฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์
โดยฉลาก EPD เป็นฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 มาตรฐาน ISO 14025 ซึ่งมีความสำคัญสำหรับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นเครื่องหมายยืนยันการรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับผลิตภัณฑ์จากหน่วยงานที่ได้รับรองอย่างถูกต้องสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคด้วยรายงานข้อมูลที่ชัดเจน ตรวจสอบได้ และมีประโยชน์สำหรับผู้บริโภคในการศึกษาส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ โดยฉลากสิ่งแวดล้อมชนิดนี้เป็นการดำเนินงานด้วยความสมัครใจของผู้ประกอบการ โดยต้องวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตามหลักการวิเคราะห์ ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ หรือ Life Cycle Assessment (LCA) โดยมีหน่วยรับรองที่เป็นบุคคลที่3 ให้การรับรอง สำหรับฉลากนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสามารถรองรับความต้องการของผู้ผลิต อีกทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการขอรับรองกับหน่วยงานต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของทั้งผู้ประเมินและผู้ผลิตภายในประเทศด้วย
ดร.ฉัตรตรี ภูรัต ผู้อำนวยการฝ่ายฉลากเขียวและฉลากสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ การที่ผลิตภัณฑ์ได้การรับรองฉลาก EPD เป็นเครื่องยืนยันถึงการเป็นผู้ผลิตที่มีความมุ่งมั่นและจริงใจต่อผู้บริโภค ผ่านการสำแดงข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกสิ่งที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและตนเอง อีกทั้ง การที่มีหน่วยรับรองฉลาก EPD ในประเทศ ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ผลิตในการยื่นขอการรับรองฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ภายใต้มาตรฐานที่ตรวจสอบได้และเป็นสากล”
ฉลาก EPD (Environmental Product Declaration) คือ ฉลากที่บอกรายละเอียของผลิตภัณฑ์ถึงส่วนผสม รวมถึงผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment; LCA) โดยการประเมินค่าผลกระทบ นับตั้งแต่ การคัดเลือกวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่งสินค้า การใช้งาน ไปจนถึงการกำจัดซาก ซึ่งฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (EPD) จะแสดงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ในเชิงปริมาณ ได้แก่ การก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (GWP), การลดลงของโอโซนในบรรยากาศชั้นสตราโทสเฟียร์ (ODP), การก่อให้เกิดความเป็นกรด (AP), การเพิ่มขึ้นของธาตุอาหาร (EP), การเกิดโอโซนในบรรยากาศชั้นโทรโปสเฟียร์ (POCP), การลดลงของทรัพยากรพลังงานที่ไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ (ADP fossil fuels), การลดลงของทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิล (ADP elements) ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนในการรับรองผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของผู้บริโภค
สำหรับประโยชน์ของฉลาก EPD ที่นอกเหนือจากการรายงานข้อมูลต่างๆ ครบถ้วนและตรวจสอบได้แล้ว เพื่อให้ผู้บริโภครับทราบแล้วฉลาก EPD ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นศักยภาพการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องผ่านกลไกทางการตลาด และช่วยเพิ่มคะแนนในการขอรับรองมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design)
สำหรับขั้นตอนการรับรองฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมผลิตภัณฑ์ EPD สามารถยื่นสมัครขอการรับรองพร้อมเอกสารจากผู้ทวนสอบที่ขึ้นทะเบียน โดยจะมีการประเมินตรวจสอบผลการคำนวณและเอกสารประกอบคำขอ ก่อนนำเสนอคณะกรรมการอนุมัติให้การรับรอง สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย https://www.tei.or.th/th/index.php